ข่าว

ผู้ว่าฯสตง. แจงเหตุไร้ชื่อ "ชายหมู" ในบัญชี ม.44

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้ว่าฯ สตง. แจงไม่มีชื่อผู้ว่ากทม.ในบัญชีล็อต 4 เพราะมหาดไทยตรวจสอบตามกฎหมายปกติ ข้อดีหากพบความผิดต้องพ้นจากตำแหน่งไม่ใช่แค่พักงาน


         นายพิศิษฏ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้สัมภาษณ์รายการกรองข่าววันเสาร์ เอฟเอ็ม 102 กรณีการตรวจสอบความคุ้มค่าการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการทางจักรยานของกรุงเทพมหานครว่า สตง.ตรวจสอบเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ โดยโครงการทางจักรยานมีระยะทางถึง 300 กม. ถือเป็นเส้นทางที่ยาวมาก สตง.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์วงเงิน 24 ล้านบาท กับวงเวียนใหญ่ ใช้งบประมาณกว่า 3 ล้านบาท ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีคนใช้งานน้อยมาก เฉพาะช่วงเช้าเย็นเท่านั้น ขณะที่โครงการดังกล่าวใช้เงินลงทุนสูง ติดลูกแก้วสะท้อนแสงจำนวนมากแต่ใช้งานไม่คุ้มค่าเพราะจะสะท้อนแสงเฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น เมื่อจำนวนผู้ใช้งานทางจักรยานมีน้อย ทำให้มีแม่ค้าพ่อค้ามาวางแผงขายของทับทางจักรยาน หรือมีการนำรถยนต์มาจอดทับทางจักรยาน สตง.จึงตั้งข้อสังเกตให้กทม.นำไปทบทวน หากโครงการไม่บรรลุวัตถุประสงค์ปล่อยทิ้งไว้แล้วเลิกใช้งาน หรือลืมๆกันไปก็จะไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่ลงทุนไป 
 
         “การตรวจสอบของสตง.เป็นการประเมินความคุ้มค่า ไม่ได้ก้าวล่วงการบริหารของกทม. จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เทศกิจถึงขีดความสามารถในดูแลทางจักรยาน ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีปัญญาดูแล ปล่อยให้ขายของหรือจอดรถทับทางจักรยานบ้าง ไม่มีเส้นทางไหนคุ้มค่าเลย นักปั่นไม่สนใจเลนจักรยาน เพราะจะปั่นไปพร้อมกับรถทั่วไป มีเพียงมือสมัครเล่นใช้บริการปะปราย ส่วนกิจกรรมครอบครัวไม่มีใครกล้าให้บุตรหลานออกมาเสี่ยงปั่นในทางจักรยานโดยจะใช้สวนสาธารณะมากกว่า ในอารยะประเทศทำทางจักรยานเพื่อสัญจรไปทำงาน แต่บ้านเราไม่นิยม ก่อนลงทุนโครงการนี้ไม่มีศึกษาข้อมูลให้เพียงพอ เกิดมาจากแนวคิดที่คิดอยากทำก็ทำไป ในอนาคตโครงการทางจักรยานต้องใช้งบฯดูแลอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะเสาหลักกั้นทางจักรยานที่ซ่อมบ่อยมาก”ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินกล่าว 
 
         นายพิศิษฏ์ กล่าวถึงการเสนอให้ศูนย์ต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) เสนอพักงานผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า ตามปกติเมื่อสตง.ตรวจสอบพบการดำเนินการส่อทุจริตและสรุปสำนวนส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็จะรายงานผลการตรวจสอบไปให้ศอตช.พิจารณาดำเนินการด้วย จากการตรวจสอบโครงการไฟประดับกทม. พบว่ามีการฮั้วประมูล การกระทำส่อทุจริต ส่วนศอตช.จะเสนอให้พักงานตามมาตรา 44 หรือไม่ สตง. ไม่สามารถก้าวล่วง แต่กรณีนี้ต่างจากผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ที่ถูกเสนอชื่อให้พักงาตามมาตรา 44 เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ใช้อำนาจในการกับกำดูแลกทม. เข้าไปตรวจสอบแล้ว หากผลสอบพบว่ามีการประพฤติชั่ว เสื่อมเสีย หรือทุจริต ก็สามารถสั่งให้พ้นจากตำแหน่งได้ ซึ่งเป็นอำนาจของรมว.มหาดไทย ซึ่งจะต้องพ้นไปเลยไม่ใช่แค่พักงาน และต้องเว้นวรรคการเมืองด้วย ต่างจากการพักงานตามมาตรา 44  ที่เป็นการพักงานระหว่างการตรวจสอบ ในทางกลับกันผลดีใช้การสอบสวนในวิธีปกติ แต่ทำให้เร็วหากพบว่าผิดจะต้องพ้นจากตำแหน่งไปเลย จึงไม่ใช่เองที่ต้องแปลกใจที่ไม่มีรายชื่อผู้ว่ากทม.ในบัญชีล็อต 4 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ