ข้อหาเณรคำเป็นความผิดสากล 

          23 ก.ค. -- พ.ต.ท.พงษ์อินทร์  อินทรขาว  รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีทางการสหรัฐอเมริกาจับกุมตัวนายวิรพล  สุขผล หรือ อดีตหลวงปู่เณรคำ แห่งสำนักสงฆ์ป่าขันติธรรม ตามคำร้องขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนว่า  ล่าสุดได้มีการประสานไปยังสหรัฐฯว่า ทางการไทยพร้อมสนับสนุนพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณาส่งตัวอดีตพระเณรคำกลับมาดำเนินคดีอาญาในประเทศไทย ทั้งนี้กระบวนการนำไปสู่การตัดสินใจจับกุมของสหรัฐฯจะเป็นไปเพื่อพิจารณาว่าจะส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ตามฐานความผิดที่ร้องขอไป ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีตามข้อหา  เพราะการดำเนินคดีตามความผิดเป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมไทย โดยการจะส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ ต้องมีเงื่อนไขเพียงพอ เช่น ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง ซึ่งกรณีดังกล่าวฐานความผิดชัดเจนว่าเป็นเรื่องการฉ้อโกงประชาชน หลอกลวง ประชาชน การล่วงละเมิดทางเพศกับผู้เยาว์ การฟอกเงิน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อหาสากลของทั้ง 2 ประเทศ ที่ผ่านมามีการประสานงานอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงความชัดเจนว่าข้อหาทั้งหมดมีพยานหลักฐาน ไม่เกี่ยวข้องทางการเมือง ไม่มีการกลั่นแกล้ง หรือละเมิดสิทธิ์ และไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางศาสนา เช่น กรณีที่มีการอ้างจะระดมเงินเพื่อนำเงินไปสร้างพระแก้วมรกตก็ไม่ได้มีการนำเงินไปสร้างจริง แต่กลับนำเงินไปใช้เพื่อประโยชน์อื่น  

          รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ต้องรอกระบวนการพิจารณาของศาลแคลิฟอร์เนีย ซึ่งอดีตพระเณรคำไม่ได้ถูกจับกุมในที่พักที่อยู่บนภูเขา แต่ถูกจับกุมระหว่างเดินทางลงมาในชุมชนใกล้กับธนาคาร ระหว่างนี้จะได้รับการประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับทางการสหรัฐฯ แต่โดยหลักการบุคคลที่มีพฤติกรรมหลบหนี เป็นไปได้ยากที่จะให้ประกันตัวและคาดว่าหากยังมีเงินอยู่มากก็คงต้องพยายามต่อสู้อย่างเต็มที่  แม้จะมั่นใจว่าจะได้ตัวจากการจับกุมตามคำร้องขอของไทย แต่คงต้องใช้เวลาพอสมควรในการต่อสู้คดี