ผลสอบ "ที่ดินเวิร์ลพีซ" สาวผู้ครองเอกสิทธิ์เอี่ยว “ธัมมชโย"
“อธิบดีดีเอสไอ” เจรจาฝ่ายสงฆ์ไม่คืบหน้าในทางคดี ฝ่ายสงฆ์สอบถามเพียงเงื่อนไขประกันตัว ขณะที่ชุดสอบที่ดินเวิร์ลพีซ สาวสัมพันธ์ผู้ถือครองเอกสารสิทธิ์ที่ดิน13 แปลง
9 ก.ค.59 - พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงผลการเจรจาระหว่างดีเอสไอกับฝ่ายสงฆ์ นำโดยเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีวานนี้( 8 ก.ค.) เพื่อหาแนวทางให้พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มอบตัวในคดีสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจรว่า ผลการเจรจาไม่มีความคืบหน้าในทางคดี และไม่ได้มีการกำหนดวันมอบตัว โดยฝ่ายสงฆ์ได้สอบถามเพียงความคืบหน้าของคดีและเงื่อนไขการประกันตัว ซึ่งดีเอสไอได้ชี้แจงถึงขั้นตอนกฎหมายให้ทราบว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องไปให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษแล้ว การให้ประกันตัวจึงอยู่นอกเหนืออำนาจของดีเอสไอ หากพระธัมมชโยประสงค์จะเข้ามอบตัว ดีเอสไอก็พร้อมรับตัว เพื่อนำส่งให้อัยการและศาลเป็นผู้พิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อไป
รายงานข่าวระบุถึงผลการตรวจสอบที่ดินเวิร์ล เวิร์ลพีซ วัลเล่ย์ เขาใหญ่ ของสำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาปากช่อง ว่า มีการตรวจสอบพิกัดที่ดิน 23 จุด รอบโครงการเวิร์ล พีซ ฯ โดยนิคมสร้างตนเองลำตะคองยืนยันว่าเป็นพื้นที่ภายในนิคมตามแผนที่แนบท้ายประกาศคณะปฏิบัติฉบับที่ 351 ปี 2515 ส่วนเอกสารสิทธิ์เดิมที่นำมาใช้ออกเป็นโฉนดและน.ส. 3 ก.ตามที่มีการอ้างถึงนั้น เป็นการออกมาจากเอกสารน.ค. 3 ของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ทั้งนี้ โครงการเวิร์ล พีซฯมีเนื้อที่ประมาณ 480ไร่ มีเอกสารสิทธิ์ 13 แปลง เนื้อที่ 293 ไร่ แบ่งเป็นโฉนด 3 แปลง น.ส.3 ก 10 แปลง ส่วนพื้นที่ที่เหลือจำนวน 186 ไร่ ไม่มีเอกสารสิทธิ์
ทั้งนี้ การตรวจสอบยังพบด้วยว่าเอกสารสิทธิ์ที่ดินทั้งโฉนดและน.ส.3 ก แยกถือกรรมสิทธิ์ในชื่อบุคคลธรรมดา 2 แปลง เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ถือครองโดยมูลนิธิตะวันธรรม 11 แปลง เนื้อที่ 243 ไร่ ซึ่งในส่วนนี้ได้รับบริจาคมาทั้งหมดพร้อมกันในปี 2550 โดยกลุ่มบุคคลที่มีชื่อถือครองเวิร์ล พีซฯล้วนมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ กับพระธัมมชโยทั้งสิ้น บางรายเป็นผู้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวให้พระธัมมชโยเมื่อปี 2542 ที่เหลือเป็นกัลยาณมิตรหลายพื้นที่จากทั่วประเทศ สำหรับที่ดินที่ไม่พบมีเอกสารสิทธิ์สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร(ส.ป.ก.) ต้องเข้าไปตรวจสอบ ส่วนกรณีการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)เป็นผู้รับผิดชอบ
ข้อมูลในชั้นสืบสวนพบว่าวัดพระธรรมกายเข้ามากว้านซื้อที่ดินในนิคมลำตะคองฯ ตั้งแต่ก่อนปี 2545 ต่อมาปี 2546-2547 ได้เริ่มเข้ามาปรับสภาพพื้นที่ ติดป้ายว่าเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดพระธรรมกาย แต่ชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นศูนย์อบรมครู กระทั่งปี 2555-2556 มีการติดป้ายว่าเป็นพื้นที่ของมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง ในอุปถัมภ์ของพระธัมมชโย ในช่วงดังกล่าวอบต.โป่งตาลอง และอบต.ใกล้เคียงได้นำงบประมาณแผ่นดินไปใช้ขยายพื้นผิวจราจรจาก 2 ช่องทางเป็น 4 ช่องทาง โดยผู้รับเหมาระยะแรกเป็นบริษัทก่อสร้างที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกัลยาณมิตรของวัด ในส่วนสิ่งปลูกสร้างภายในวัด เฉพาะที่ดินของมูลนิธิตะวันธรรมแบ่งเป็นอาคารที่พักอาศัยเนื้อที่ใช้สอยกว่า 27,000 ตารางเมตรที่จอดรถ 8,320 ตารางเมตร อาคารสัมมนา 15,746 ตารางเมตร รวมเนื้อที่ 32 ไร่เศษ



