ข่าว

ทำไม ?.. ถึงอยากเป็น" ผู้ตรวจการแผ่นดิน" กันนัก

ทำไม ?.. ถึงอยากเป็น" ผู้ตรวจการแผ่นดิน" กันนัก

08 ก.ค. 2559

บทบาทใหม่ “ผู้ตรวจการแผ่นดิน”  ยักษ์มี”กระบอง”   

 

          เป็นข่าวฮือฮา!!กับการเลือก“ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ที่ต้องเลือกกันถึง 30 รอบ

           กับกรณีที่คณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติเลือกนายเรวัต วิศรุตเวช เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อต่อ สนช.ให้เป็นผู้ตรวจการแผ่นดินอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ที่ประชุม สนช. เคยมีมติไม่เห็นชอบให้นายเรวัต ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินมาแล้ว

         ที่มาของ “30“ รอบ ก็มาจากที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดิน  เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมาได้มีมติยันกันอยู่ที่ 3 ต่อ 3 นานถึง 30 รอบ จนครั้งสุดท้ายที่ประชุมมีมติ 4 ต่อ 2 เลือก นพ.เรวัต วิศรุตเวช อดีตอธิบดีกรมการแพทย์  เป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน

          ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับเลือกต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการสรรหา ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 6 คน    

          และเมื่อมาถึงตอนนี้ ก็มีข่าวออกมาทำนองว่ามี “บิ๊ก” ใน คสช. พยายามผลักดันนายเรวัต ให้เป็น”ผู้ตรวจการแผ่นดิน”ให้ได้ ท่ามกลางความอึดอัดใจของ สมาชิก สนช.

           แล้ว.."ผู้ตรวจการแผ่นดิน” เก้าอี้นี้สำคัญไฉน ? ทำไม..ต้องอยากนั่ง “เก้าอี้ “ ตัวนี้  

          เดิม”ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ค่อยมีอำนาจเท่าไหร่นัก  ทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วส่งต่อให้ “องค์กรอื่น” ทำหน้าที่ชี้ขาด ไม่ได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จของตัวเอง จนคนมีตั้งฉายา “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ว่า “ยักษ์ไม่มีกระบอง” หรือ “ เสือกระดาษ”

         แต่ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะนำไปทำ”ประชามติ” ถามประชาชน และหากผ่านออกมาบังคับใช้ จะทำให้ “ ผู้ตรวจการแผ่นดิน” มีอำนาจมาก โดยมี 5 ภารกิจสำคัญ ดังนี้  

        คือ 1.ทำหน้าที่เป็น "คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายแห่งชาติ"  กล่าวคือ ผู้ตรวจการแผ่นดินสามารถเสนอแนะบางประเด็นในสิ่งที่เห็นว่าทำให้เกิดความเดือดร้อน หรือทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม หรือเป็นการสร้างภาระแก่ประชาชนโดยไม่จำเป็น หรือโดยไม่สมควร หากพบเจอในกฎหมายฉบับใด หรือแม้แต่กฎหมายท้องถิ่น เช่น เทศบัญญัติ ก็สามารถบอกหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมายได้

       2.ทำหน้าที่เป็น "พนักงานสอบสวนแห่งชาติ" มีภารกิจในการแสวงหาข้อเท็จจริงเมื่อเห็นว่า หากเจ้าหน้าที่รัฐ องค์กรของรัฐมีการปฏิบัติผิดกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏิบัตินอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด ก็ให้แจ้งไปยังหน่วยงานนั้นแก้ไข ขจัด หรือระงับให้ยุติออกไปได้ 

       3.ทำหน้าที่เป็น”ผู้ตรวจราชการประเทศไทย” ตรวจตราทั้ง 20 กระทรวง 140 กรม 50 รัฐวิสาหกิจ 40 องค์การมหาชน และหากพบว่าหน่วยงานใดยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้ถูกต้องครบถ้วนตามหน้าที่ของหน่วยงานรัฐนั้น ก็จะรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ และ ถ้า ครม.รับเรื่องจากผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วไม่ทำอะไร สถานะของ "จำเลย" ก็ตกมาที่ ครม. จากนั้นฝ่ายที่ตรงข้ามกับรัฐบาล อาจใช้วิธีถอดถอน อภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือส่งให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบรัฐบาลได้

        4.เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่า กฎหมายใดขัดต่อรัฐธรรมนูญ

        5. เสนอต่อศาลปกครอง ให้วินิจฉัยว่า กฎ คำสั่ง หรือการกระทำของหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่รัฐ มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย

        เรียกได้ว่า เป็น “ยักษ์ถือกระบอง” เลยทีเดียว