อนุคนพิการ วอน "นายกฯ" ดูแลจัดสรรโควต้าสลาก

         วันที่ 7 ก.ค. 59 - นายมณเฑียร บุญตัน ผู้ได้รับเลือกตั้งตำแหน่งคณะกรรมการประจำอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติ วาระปี พ.ศ. 2560-2563 เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

         ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลตรีวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดี และรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่นายมณเฑียร บุญตัน บุคคลพิการทางการเห็น สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และนายกสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้แทนประเทศไทย ที่ได้รับการยอมรับจากประเทศสมาชิกสหประชาชาติมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นกรรมการประจำอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติเป็น สมัยที่ 2 วาระปี พ.ศ. 2560-2563 ซึ่งทำให้เห็นว่าคนพิการไทยและประเทศไทย มีบทบาทและได้รับการยอมรับในการดำเนินงานด้านการส่งเสริมสิทธิ และความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมของคนพิการ พร้อมแสดงความชื่นชมนายมณเฑียรฯ ที่มุ่งมั่น ตั้งใจ และอดทนต่อการทำงานเพื่อคนพิการทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ

         ด้านนายมณเฑียร แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยที่ให้การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในทุกๆ ด้าน รวมถึงการดูแลผู้สูงอายุ โดยมีนโยบายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและเสริมสร้างโอกาส มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพ การพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิ การจัดสวัสดิการช่วยเหลือในด้านต่างๆ การส่งเสริมให้ คนพิการเข้าถึงสิทธิอย่างเสมอภาค เท่าเทียม ทั่วถึง และเป็นธรรม ทำให้คนพิการสามารถดำรงชีวิตประจำวัน และมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างเท่าเทียมเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป นายมณเฑียร ยังได้แสดงความขอบคุณกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันทำงานเป็นอย่างดี ทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จ และได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการประจำอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติเป็น สมัยที่ 2 วาระปี พ.ศ. 2560-2563

         โอกาสนี้นายมณเฑียร ฝากให้นายกรัฐมนตรีช่วยดูแลปัญหาเกี่ยวกับการจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้กระทรวงพัฒนาสังคมฯ หารือกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา พร้อมย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญแก่การเสริมสร้างสังคมเข้มแข็ง มุ่งมั่นพัฒนาคนให้สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา รวมทั้งเสริมสร้างสังคมให้เข้มแข็งและยั่งยืน.