ข่าว

“คสช.”เมิน“นปช.”จวกพวกเป็นบิดเบือนสร้างกระแส

“คสช.”เมิน“นปช.”จวกพวกเป็นบิดเบือนสร้างกระแส

19 มิ.ย. 2559

“คสช.”เมิน“นปช.”จวกพวกบิดเบือนสร้างกระแส หลังเล็งใช้โซเชียลมีเดียปราบโกงประชามติ เชื่อปชช.เข้าใจดี ยัน 7 ส.ค. เป็นวันลงประชามติร่างรธน. ระบุไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

     พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปลี่ยนวิธีการดำเนินการของศูนย์ปราบโกงประชามติมาเคลื่อนไหวโดยใช้โซเชียลมีเดียแทน ว่า ความเคลื่อนไหวทางโซเชียลมีเดียมีหน่วยงานทั้งของคสช. และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ติดตาม เฝ้าดูและตรวจสอบอยู่ เพื่อดำเนินการตามกรอบกฎหมาย แต่ถ้าไม่ได้มีการยุยง ปลุกปั่นก็ไม่เป็นปัญหา ซึ่งคสช.ไม่ได้ให้น้ำหนักมาก เพราะทราบดีว่านปช.ต้องการสร้างกระแสให้เกิดขึ้นในสังคม หากคสช.ไปเคลื่อนไหวตามก็จะเป็นเหมือนว่าไปช่วยสนับสนุนให้เกิดกระแส ทั้งนี้คสช.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะติดตามและประเมินกระแสสังคมต่อไป แต่คิดว่าประชาชนทั่วไปจะมีความเข้าใจ ส่วนที่แกนนำนปช.โจมตีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ว่าเป็นคนกลับกลอกเรื่องการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามตินั้นเป็นความพยายามสร้างกระแส พล.อ.ประยุทธ์ต้องรักษาความสงบให้บ้านเมือง และบอกชัดเจนว่าสิ่งใดที่ทำแล้วผิดกฎหมายไม่สามารถทำได้ แต่นปช.จับบางคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ไปบืดเบือนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นขอให้ประชาชนเข้าใจ อย่างไรก็ตามคสช.ต้องรักษาบรรยากาศความสงบสุขของบ้านเมือง และสนับสนุนงานของรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนให้มีความต่อเนื่อง ส่วนงานด้านการเมืองมีกลุ่มคนพยายามเคลื่อนไหวอยู่มาก แต่ยังไม่มีอะไรที่นำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรง  

     “ จากการประเมินสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่มีอะไร การเปิดศูนย์ดังกล่าวในแต่ละจังหวัดและแต่ละอำเภอไม่ได้แล้วมาเคลื่อนไหวทางโซเชียลมีเดีย ก็ไม่ได้นอกเหนือความคาดหมาย เพราะเขาต้องทำเพื่อสร้างกระแสให้เกิดความในสังคม ” พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าว 

     เมื่อถามถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. ระบุว่าจะไม่มีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.นั้น พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า คสช.ยืนยันว่ายังคงมีอยู่ และยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เรื่องนี้เป็นแนวคิดของผู้เห็นต่างที่บิดเบือนไปเรื่อยๆ ทั้งนี้คสช.ยังยืนยันว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่มีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค. ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม และไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งมีแต่ผู้เห็นต่างพยายามกระพือกระแส