ข่าว

ทนาย ชี้ นั่งสวดมนต์แต่ขวาง จนท. ก็เข้าข่ายช่วยผู้ต้องหา 

ทนาย ชี้ นั่งสวดมนต์แต่ขวาง จนท. ก็เข้าข่ายช่วยผู้ต้องหา 

18 มิ.ย. 2559

ทนาย ชี้   มาตรา 189  ปอ.อาญา มีขอบข่ายกว้าง   แม้นั่งสวมมนต์เฉยๆ  แต่เป็นการขวางทางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าค้นตามกฎหมายก็ผิดฐานช่วยผู้ต้องหาได้       


          นายเจษฎา อนุจารี  ทนายความชื่อดังกล่าวถึงกรณี พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึง การดำเนินการกับพระธัมมชโย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาข้อหาสมคบฟอกเงิน,ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร จากการรับเช็คจากสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น แต่ยังจับกุมตัวไม่ได้ แต่จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปจับเรื่อยๆ ใครขัดขวาง มีกฎหมายอาญามาตรา 189 เอาผิดได้ ให้เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปไว้ตามจับทีหลัง ว่า มาตรา 189  ระบุว่า การช่วยผู้ต้องหา ด้วยประการใดๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับกุมนั้น มีความหมายกว้างมาก การนั่งสวดมนต์ภาวนาเฉยๆ ในวัด แต่เป็นการขัดขวางเส้นทางทำให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ซึ่งมีหมายค้นตามกฎหมาย ไม่สามารถเข้าค้น เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้   ก็เข้าข่ายกระทำความผิดตามมาตรา 189 ได้   
 

          “ คนที่อยู่ในวัดต้องมีหน้าที่อำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ที่มีหมายค้นซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย ไม่ขัดขวางเจ้าหน้าที่ การที่นั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไร ก็ถือว่าเป็นการขัดขวางได้ หากการนั่งเฉยๆนั้น เป็นอุปสรรคของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการตามอำนาจกฎหมาย เพราะแม้ว่านั่งสวดมนต์จริง เมื่อเจ้าหน้าที่มาก็ลุกหลบให้ได้ แต่เท่าที่เห็นเจ้าหน้าที่ขอให้เปิดทางให้ ก็ไม่ยอมเปิดทางให้  และไม่เกี่ยวว่า นั่งเฉยๆในที่สาธารณะ หรือในที่รโหฐาน เข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 189 ได้ทั้งนั้น หากเป็นการขัดขวางเจ้าหน้าที่ และต้องดูพฤติการณ์อื่นประกอบด้วย เช่น มีการใช้โทรโข่งประกาศชักชวน ผู้ที่นั่งสวดมนต์อยู่นั้น ไม่ให้ถอย อ้างว่าเพื่อปกป้องหลวงพ่อ ศาสนา  เป็นต้น  อีกทั้งการใส่หน้ากากอนามัยปิดหน้า ปิดตา ในขณะสวดมนต์ ซึ่งปกติ คนสวดมนต์เขาไม่ได้ปิดกัน ก็แสดงให้เห็นพฤติการณ์ได้อย่างหนึ่งว่าต้องการขัดขวาง อย่างไรก็ตามถึงแม้จะปิดหน้า ปิดหน้า แต่ก็ไม่เป็นอุสรรคต่อการดำเนินคดี เพราะเจ้าหน้าที่สามารถถ่ายภาพและพิสูจน์ว่าเป็นใครได้โดยดูจากรูปพรรณสัณฐาน เช่น ตา จมูก คิ้ว  ” นายเจษฎา กล่าว 
 
         

          สำหรับมาตรา 189 ประมวลกฎหมายอาญา บัญญัติว่า ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ