หวั่นน้ำท่วม!กทม.เฝ้าระวัง19จุดอ่อน | คมชัดลึก

        11 มิ.ย.59 นายสมพงษ์ เวียงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนัก ว่า ขณะนี้สำนักการระบายน้ำได้ขุดลอกท่อระบายน้ำและคลองต่าง ๆ เพื่อกำจัดขยะ วัชพืชที่อยู่ในคลองเพื่อรองรับปริมาณน้ำให้ได้มากที่สุด ซึ่งดำเนินการไปแล้วกว่าร้อยละ 90 โดยจะเสร็จสิ้นทั้งหมดภายในปลายเดือนมิ.ย.นี้ นอกจากนี้จะต้องจัดเตรียมจัดซื้อกระสอบทรายเพิ่มเติมประมาณ 7 แสนใบ เพื่อช่วยในการป้องกันน้ำท่วมในจุดสำคัญต่างๆ เพราะในพื้นที่กรุงเทพฯยังคงมีพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำท่วมบนถนนสายหลัก อีกจำนวน  19 จุด จากเดิมในปี 2558 ในกรุงเทพฯมีจุดอ่อนน้ำท่วมขังบนถนนสายหลักจำนวนกว่า 24 จุด ซึ่งกทม.จะเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมในบริเวณนี้ พร้อมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อดูสถานการณ์ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง 
                           
        “ส่วนในพื้นที่ลุ่มตามชุมชนหมู่บ้านต่าง ๆ ที่เคยมีปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้ง จะมีการประสานไปยังเจ้าของพื้นที่ เพื่อวางแนวทางช่วยเหลือ โดยการสร้างพื้นที่รับน้ำขุดลอกทางระบายน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำกระสอบทรายในจุดที่จำเป็น หากเกิดปัญหาน้ำท่วมขังรอการระบายจะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าแก้ไขและช่วยเหลือประชาชนทันที”นายสมพงษ์ กล่าว
                
        รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้สำนักการระบายน้ำได้วางมาตรการป้องกัน กรณีฝนตกน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ 9 มาตรการ ประกอบด้วย 1.ติดเครื่องสูบน้ำตามจุดอ่อนต่าง ๆ เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว 2.ควบคุมระดับน้ำในคลองสายหลัก คลองสายรอง และบ่อสูบน้ำต่างๆ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม 3.ติดตั้งเรดาร์ติดตามสภาพอากาศตลอด 24 ชั่วโมง 4.แจ้งเตือนฝนให้หน่วยงานต่างๆ รับทราบ และเตรียมการรับมือเมื่อมีรายงานฝนจะตก 5. จัดเตรียมหน่วยเบสท์จำนวน 108 หน่วย สำหรับเข้าพื้นที่ก่อนฝนตกเมื่อได้รับแจ้งสถานการณ์ฝน 6.เมื่อหน่วยเบสท์เข้าถึงพื้นที่น้ำท่วมขัง จะรายงานเข้าศูนย์ป้องกันน้ำท่วมทันที 7.เมื่อศูนย์ป้องกันน้ำท่วมได้รับรายงานน้ำท่วมขังจะเร่งเข้าพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาโดยเร็ว 8.กรณีน้ำท่วมขังมากส่งผลกระทบต่อจราจรและประชาชน จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หรือหน่วยงานอื่นๆ ร่วมบรรเทาปัญหาให้ประชาชน และ 9.ศูนย์ป้องกันน้ำท่วมรายงานสภาพอากาศ และปัญหาน้ำท่วมขังให้คณะผู้บริหารรับทราบ

                                   
        รายงานข่าวระบุด้วยว่า ที่ผ่านมากทม.ได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนด้านอื่นๆ โดยได้ลอกท่อระบายน้ำไปแล้ว 87 เปอร์เซ็นต์ และเก็บวัชพืชเปิดทางน้ำไหล 91 เปอร์เซ็นต์ โดยในวันนี้(11 มิ.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลว่า มีเมฆเป็นส่วนมาก และอาจมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ในช่วงบ่ายถึงค่ำ ซึ่งจากแบบจำลองฝน WRF ของกรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์จะมีฝนปานกลาง-หนัก เคลื่อนผ่านจังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร นนทบุรี ช่วงบ่ายถึงค่ำ เวลาประมาณ 15.00-19.00 น. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯชั้นใน และกรุงเทพฯ เหนือ ได้แก่ เขตทวีวัฒนา ตลิ่งชัน หนองแขม บางบอน บางแค ภาษีเจริญ บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ บางพลัด บางซื่อ ดุสิต พระนคร จตุจักร หลักสี่ ดอนเมือง สายไหม บางเขน ลาดพร้าว คลองสามวา

กทม.เผยความคืบหน้าเส้นทางจักรยาน สวนวชิรเบญจทัศน์ 3.6 กม.

        ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) รายงานข่าวแจ้งว่า นางสาววีนา วงศ์สินธุ์เชาวน์ ผู้อำนวยการสำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. ได้รายงานความคืบหน้าการก่อสร้างเส้นทางจักรยานในสวนวชิรเบญจทัศน์ ทั้งหมด 3.6 กิโลเมตร วงเงิน 19.9 ล้านบาท จากการประชุมหารือข้อราชการของกระทรวงมหาดไทย (มท.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมที่ผ่าน ได้รายงานว่า การก่อสร้างเส้นทางจักรยานใน สวนวชิรเบญจทัศน์ แบ่งงานออกเป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย 1.การก่อสร้างเส้นทางแอสฟัลต์ 2.056 กิโลเมตร ดำเนินการกรุยดินแนวเส้นทางเสร็จแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างบดอัด ดำเนินการแล้วคิดเป็นร้อยละ 50 , 2.การก่อสร้างทางจักรยานบนเขื่อนเดิม 367 เมตร ดำเนินการวางแนวเขื่อนและมีการวางเสาเข็มแล้ว 40 ต้นจาก 120 ต้นดำเนินการแล้วคิดเป็นร้อยละ 35
  
        รายงานข่าวระบุอีกว่า 3.การก่อสร้างเขื่อนใหม่พร้อมทางจักรยาน 223 เมตร อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะเป็นไปตามสัญญาที่จะแล้วเสร็จภายใน 24 ส.ค.นี้ และ 4.การก่อสร้างสะพานใหม่ 3 แห่ง และซ่อมสะพานเดิม 2 แห่ง ขณะนี้ดำเนินการตอกเสาเข็มแล้ว 1 แห่ง จำนวน 44 ต้น จาก 94 ต้นดำเนินการแล้วคิดเป็นร้อยละ 35 อย่างไรก็ตาม รมว.มหาดไทย ได้เน้นย้ำการก่อสร้างเส้นทางจักรยานโดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทางจักรยาน โดยเฉพาะเส้นทางจักรยานที่อยู่ริมน้ำ ให้มีการเพิ่มราวหรือแผงกั้นป้องกันอุบัติเหตุ เพิ่มการจัดหน่วยปฐมพยาบาล และเตรียมแผนการรักษาพยาบาลที่สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้ทันท่วงที เมื่อมีการเปิดให้ใช้บริการเส้นทางจักรยาน รวมทั้งตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่เพื่อขายสินค้าของผู้ค้าในสวนสาธารณะด้วย