ตัวตน‘จีรพันธ์ ตันมณี’รายแรกเซ่นก.ม.ประชามติ

               ข่าวพาดหัวใหญ่สื่อหลายสำนัก อันว่าด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 4 จับกุม “จีรพันธ์ ตันมณี” ประธานกองทุนรัฐวัฒน์ตันมณี เพื่อสิทธิคนออทิสติก ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 856/2559 ข้อหาเผยแพร่ข้อความก้าวร้าว รุนแรง และหยาบคาย ชักจูงโน้มน้าวประชาชนรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรืออาจถูกห้ามเลือกตั้ง 5 ปี เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมานั้น สร้างความตื่นตะลึงและตกใจให้แก่ประชาชนที่รับรู้ข้อมูล เพราะหลายคนไม่รู้ว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา

               นอกจาก จีรพันธ์ ตันมณี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ยังมีคนอื่นๆ ถูกจับกุมในข้อหาเดียวกันกับเธออีกรวมแล้ว 10 คน

               จากการสอบปากคำเบื้องต้น จีรพันธ์ ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวอ้างว่า เป็นการกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คิดว่ากฎหมายยังไม่มีผลบังคับ และโพสต์ไปแล้วไม่มีอะไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อธิบายให้ทราบ โดยผู้ต้องหาสำนึกผิด เบื้องต้นขอยื่นคำร้องประกันตัว ได้ให้อำนาจพนักงานสอบสวนว่าให้ประกันหรือไม่ ให้อยู่ในดุลพินิจ เพราะยังไม่มีพฤติกรรมหลบหนี

               อย่างไรก็ตาม ชื่อของ จีรพันธ์ ตันมณี ปรากฏสู่สาธารณะพร้อมๆ กับความสงสัยของสังคมว่า ลำพัง "เครดิต” ของเธออันว่าด้วย “ประธานกองทุนรัฐวัฒน์ตันมณี เพื่อสิทธิคนออทิสติก” จะไปเกี่ยวข้องกับการเมืองได้อย่างไร หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่น่าจะโพสต์ในโซเชียลข้องแวะประเด็นที่ต้องตกเป็นผู้ต้องหา อย่างเช่นว่า “ก้าวร้าว รุนแรง และหยาบคาย”

               สำหรับ จีรพันธ์ ตันมณี ในวันนี้เธอมีอายุ 59 ปี อย่างที่สื่อบางสำนักเรียกเธอว่า ป้า อยู่บ้านเลขที่ 99/9 หมู่ 4 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น มีสามีเป็นแพทย์และเปิดคลินิกอยู่ที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น

               ในอีกแง่มุมหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นจุดเชื่อมโยงเธอสู่การเมืองก็เป็นได้ สามีของ จีรพันธ์ คือหมอตัน เป็นเพื่อนเรียนรุ่นเดียวกันกับ “จาตุรนต์ ฉายแสง” สมัยเมื่อครั้งเป็นนักศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และทุกครั้งที่ จาตุรนต์ มาอีสานจะแวะหาหมอตันที่บ้านไผ่เสมอ

               จีรพันธ์ เป็นประธานกองทุนรัฐวัฒน์ตันมณี เพื่อสิทธิคนออทิสติก ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2539 เนื่องจากบุตรชายเป็นออทิสติก เพื่อขอรับเงินทุนจากเพื่อนๆ ผู้ปกครอง ทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้ปกครองที่มีลูกหลานเป็นออทิสติก โดยมีชื่อเพจกองทุนรัฐวัฒน์ตันมณี เพื่อสิทธิคนออทิสติก มีผู้ติดตามประมาณ 4,000 คน

               แต่เนื่องจากการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับออทิสติกมีคนติดตามน้อยจึงได้หันมาเคลื่อนไหวเรื่องอื่น โดยมีประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องบ้างในบางช่วงซึ่งปรากฏว่ามีคนติดตามมากขึ้น

               โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา จีรพันธ์ได้โพสต์ทั้งภาพและข้อความไปในทำนองคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง รวมไปถึงข้อความที่มีคนเห็นว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายการออกเสียงประชามติ โพสต์นี้ถูกแชร์กันในโลกโซเชียลอย่างแพร่หลาย

               จนกระทั่ง สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ได้แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดตาม พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2559 ที่สน.ทุ่งสองห้อง จนมีการออกหมายจับดังกล่าว

               สำหรับกองทุนรัฐวัฒน์ตันมณี เพื่อสิทธิคนออทิสติก ตั้งอยู่ใกล้วัดโดนชัย บึงทุ่งสร้าง อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งอยู่ไม่ห่างจาก มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร ที่ จีรพันธ์พาลูกชายที่เป็นออทิสติกไปรับการบำบัดในโครงการอาชาบำบัด ซึ่งมีม้าคอยให้การรักษาโรคเป็นประจ ำทำให้เธอคุ้นเคยและรู้จักนายทหารในมณฑลทหารบกที่ 23 หลายคน

               นอกจากนี้ จีรพันธ์ยังสนิทสนมกับกลุ่มมนุษย์ต้านรัฐประหารขอนแก่น โดยเฉพาะป้าวาด ไม้ขอน ที่ค่อนข้างจะสนิทกันเป็นพิเศษ ซึ่งการเปิดเพจกองทุนฯ เพื่อต้องการรายได้ รวมทั้งเงินจากโฆษณาในหน้าเพจ แต่เนื่องจากเพจกองทุนที่มีการโพตส์เฉพาะเรื่องออทิสติกไม่เป็นที่น่าสนใจ การโพสต์เรื่องการเมืองช่วยทำให้มีรายได้สำหรับทำกิจกรรมในการดูแลและรักษาผู้ป่วยออทิสติกเพิ่มขึ้น

               นอกจากนั้น เธอยังเป็นคนหนึ่งที่มีส่วนในการผลักดันให้เกิดศูนย์ออทิสติกของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หลังจากที่มีเด็กออทิสติกเป็นจำนวนมากและโรงเรียนหลายแห่งปฏิเสธที่จะรับเด็กออทิสติกเข้าเรียน จนนำไปสู่การก่อตั้งศูนย์วิจัยออทิสติกแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มอดินแดง) เมื่อปี 2545 ที่ผ่านมา

               จากการบอกเล่าของคนที่รู้จักจีรพันธ์ ทำให้รู้ว่า เธอเป็นนักต่อสู้ เป็นคนที่พร้อมจะลุกขึ้นเรียกร้องสิทธิเพื่อสังคม โดยเฉพาะที่ผ่านมาเธอเดินหน้าเอาจริงเอาจังกับการเรียกร้องให้เด็กออทิสติกได้รับการดูแลรักษาและมีที่เรียน ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองที่มีเด็กป่วยเป็นออทิสติกต่างชื่นชมเธอ ที่ต่อสู้เพื่อเด็กกลุ่มนี้มาโดยตลอด

               ในช่วงหลังๆ เธอหันมาสนใจเคลื่อนไหวเรื่องประเด็นการเมืองและสิทธิมนุษยชนมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งมีข้อความปรากฏในเพจดังกล่าว