ข่าว

‘ประวิตร’ปัดข้อเสนอแม่น้ำ4สายกดดันกรธ.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

‘บิ๊กป้อม’ ปัดข้อเสนอแม่น้ำ 4 สายกดดันกรธ. แจง ‘ผบ.เหล่าทัพ’ เป็นส.ว.สรรหาป้องรัฐประหาร เปิดงาน ‘กลาโหมโปร่งใสไร้คอร์รัปชั่น’ กำชับกำลังพลยึดถือนโยบาย ‘นายกฯ’

 
       16 มี.ค.59 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สร้างความกดดันให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า ไม่ได้กดดัน ตนมองเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราต้องการทำในช่วงการเปลี่ยนผ่าน 5 ปี คือระยะต้นของการปฏิรูปให้เกิดความชัดเจน ตามที่เราได้เขียนไปในข้อเสนอนั้นต้องการให้เป็นรูปธรรมให้ได้ ก็ต้องทำแบบนี้ ส่วนรัฐธรรมนูญถาวรเราไม่ได้ไปแตะต้องเลย ซึ่งเป็นเรื่องของบทเฉพาะกาลเท่านั้น 
 
       ส่วนความจำเป็นที่ต้องให้ปลัดกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพเป็นส.ว.สรรหา นั้น เราไม่อยากให้รัฐประหารขึ้นอีก และจะได้เข้ามาพูดคุยกัน พร้อมช่วยแก้ไขปัญหาได้ ตนมองว่าเป็นสิ่งที่ดี ไม่ได้เสียหาย และการที่ส่ง ผบ.เหล่าทัพ ไปนั่งเป็น สว.สรรหา จะทำให้บุคคลที่มาจากการเลือกตั้งมีสิทธิ์ที่จะพูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพ ให้เข้าใจในการบริการงานของพรรคการเมืองต่าง ๆ ยืนยันว่าทำในช่วง 5 ปีนี้ให้เกิดความโปร่งใสให้มากที่สุด เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและถาวร ถือเป็นพื้นฐาน ก็ไม่ได้เสียหายอะไร เราก็มีเลือกตั้ง
 
       ผู้สื่อข่าวถามว่า การให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพเป็นส.ว.สรรหาจะเป็นเสมือนการรัฐประหารซ่อนรูปหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะเป็นอย่างไงรัฐประหารซ่อนรูป เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย คุณพูดเหมือนหนังสือพิมพ์บางฉบับที่พูดแบบนี้ ถามว่ามันใช่หรือ ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่มี เพราะผู้บัญชาการเหล่าทัพถ้าอยู่ในรัฐสภาก็จะอยู่กับส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งและสามารถพูดคุยกันได้อยู่แล้วพร้อมทั้งให้ข้อมูลต่าง ๆ ตนคิดว่าเป็นเรื่องดี อยากถามว่าดีหรือไม่
 
       ส่วนข้อเสนอ คสช.ที่ไม่ต้องให้พรรคการเมืองประกาศรายชื่อคนจะเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาจะไปเลือกใครก็เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ตอนนี้ยังเสรี ก็แล้วแต่เขาไม่ต้องไปกำหนด หากมีรัฐธรรมนูญถาวรถ้าให้ประกาศรายชื่อก่อนก็ประกาศไป ต้องเห็นใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่เสี่ยงชีวิตเพื่อประเทศชาติให้เกิดความสงบ และเมื่อทำมาแล้วทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไปในอนาคต ท่านจึงวางยุทธศาสตร์ 20 ปีว่าในอนาคตเราจะเดินหน้ากันอย่างไร
 
       ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเสนอนี้จะเป็นการเปิดทางให้มีนายกฯคนนอกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐธรรมนูญเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ถ้าไม่ให้มีคนนอกก็ไม่มีคนนอก เพียงแต่ขอให้ไม่ให้เสนอชื่อใครก่อนเท่านั้นเอง
 
       ส่วนหากยังไม่เปิดเผยรายชื่อก่อนแล้วในอนาคตอาจจะมีชื่อของท่าน และพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีหรอก อย่าไปพูด ขอให้เลิก ตนพูดมาหลายทีแล้ว ไม่มี  
 
       หากกรธ.ยังยืนยันหลักการเดิมจะดำเนินการอย่างไรนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วแต่ท่าน ก็ขอให้ท่านตอบมาว่าที่ทำไม่ได้มันติดขัดอะไร  เพราะในเมื่อแม่น้ำ 4 สายคิดกันอย่างนี้ตามเหตุและผล 
 
       "นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าคสช. และเป็นรัฎฐาธิปัตย์จะสั่งอย่างไรก็ได้ แต่ท่านยังอะลุ่มอล่วย อยากให้เกิดเป็นประชาธิปไตย แต่ในช่วงเปลี่ยนผ่านก็ขอให้เป็นไปตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีคิด ขอให้เห็นใจท่าน เพราะท่านทำเพื่อประชาชนคนไทย และประเทศชาติ” พล.อ.ประวิตร กล่าว
 
       ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้กลุ่มการเมืองเริ่มส่งสัญญาณขยับเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมขอร้องว่าอย่าเพิ่งขยับ เดี๋ยวปีหน้าก็ได้ขยับ เพราะจะมีการเลือกตั้งแล้ว”
 
 
‘ประวิตร’ เปิดงาน ‘กลาโหมโปร่งใสไร้คอร์รัปชั่น’ กำชับกำลังพลยึดนโยบาย ‘นายกฯ’-ใช้เงินภาษีปชช.ให้คุ้มค่า
 
 
       16 มี.ค.59 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดกิจกรรมเสวนาโครงการ “กลาโหมโปร่งใสไร้คอร์รัปชั่น” ให้กับนายทหารชั้นนายพลระดับผู้บริหารของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ โดยมีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ,พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้แทนเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งโครงการดังกล่าวกระทรวงกลาโหมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดขึ้นเพื่อพัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้ ปลุกจิตสำนึก ค่านิยม คุณธรรม จริยธรรมและสร้างวินัยในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้แก่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหมและเพื่อสนองตอบนโยบายรัฐบาลสร้างเสริมเครือข่ายป้องกันและปราบปรามการทุจริตของกระทรวงกลาโหมให้เกิดความพร้อม
            
       ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า กระทรวงกลาโหมเป็นกระทรวงที่มีความสำคัญเพราะเป็นกระทรวงที่ต้องสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ประเทศจะอยู่ได้หรือไม่กระทรวงกลาโหมคือส่วนที่สำคัญ ยืนยันว่ากระทรวงนี้ไม่ได้เป็นกระทรวงที่หาเงิน แต่เป็นกระทรวงที่ใช้เงินภาษีราษฎร ดังนั้นเงินที่เราใช้ทุกอย่างจะต้องคุ้มค่าและเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนทุกคน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศอื่นๆด้วยว่าเราใช้เงินภาษีราษฎรอย่างไร การที่เข้ามาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้ไร้ความขัดแย้ง ไม่ให้มีการคอร์รัปชั่นและให้เกิดความโปร่งใส อีกทั้งพล.อ.ประยุทธ์ก็เป็นทหารสังกัดกระทรวงกลาโหมที่เพิ่งเกษียณอายุราชการ พวกเราทุกคนต้องยึดถือสิ่งที่นายกรัฐมนตรีคาดหวังให้ประเทศไร้ความขัดแย้ง ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และเกิดความสงบอย่างแท้จริง
           
       “ทหารสังกัดกระทรวงกลาโหมมีรายได้จากภาษีราษฎร เราต้องตอบแทนประชาชนที่ให้เงินเดือนเราด้วยมันสมองและชีวิตรักษาประเทศชาติ เพราะฉะนั้นผู้บังคับหน่วยทุกคนจะต้องทำทุกอย่างให้เกิดความโปร่งใสและไร้คอร์รัปชั่น คนอื่น ประชาชนและผู้ใต้บังคับบัญชาจะเป็นคนบอกเราได้ เพราะเขาจะมองเราอยู่ในเรื่องการบริหาร และการใช้งบประมาณ ทุกบาททุกสตางค์ต้องมีคุณค่า กระทรวงกลาโหมจะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนไม่ได้ถ้าขาดความโปร่งใส ที่ผ่านมามีคนพูดถึงเรื่องซื้ออาวุธว่ามีค่าคอมมิชชั่นต่าง ๆ ทั้งที่เราไม่เคยทำ เพราะการดำเนินการในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์มีขั้นตอนในการดำเนินการทั้งหมด ตั้งแต่การเลือกแบบ การกำหนดราคากลาง การกำหนดผู้ที่เข้ามาร่วมประมูล หรือการจัดซื้อจัดหาแบบจีทูจี เราถูกโจมตีตลอด ตั้งแต่ผมเป็นผู้หมวดจนถึงผู้บัญชาการทหารบก จนได้มีโอกาสรับใช้ประเทศ ซึ่งไม่ใช่ในฐานะนักการเมือง แต่เป็นผู้มาทำงานการเมืองเพื่อให้ประเทศและกองทัพเกิดความแข็งแรง มั่นใจและไร้คอร์รัปชั่นอย่างแท้จริง สมัยผมเป็นรมว.กลาโหมนี้พร้อมรับฟังทุกเรื่อง ผมอยากให้ทุกคนตั้งใจ และมั่นใจว่าเราจะนำพากระทรวงกลาโหมไปด้วยกัน เพื่อให้โปร่งใสและไร้คอร์รัปชั่นอย่างแท้จริง เราต้องทำงานให้เต็มที่ หวังว่าผู้บังคับหน่วยทุกคนจะนำพาทุกอย่างให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและหัวหน้าคสช.ที่ท่านเสี่ยงชีวิตและทำทุกอย่างเพื่อประเทศชาติให้เกิดความสงบและให้ประชาชนมีความมั่นใจ กระทรวงกลาโหมต้องร่วมมือร่วมใจด้วยความรักและสามัคคี” พล.อ.ประวิตร กล่าว
 
 
‘ประวิตร’ ส่ง ‘บิ๊กเจี้ยบ’ สอบเหตุถล่มยิงจากรพ.เจาะไอร้อง
 
 
       พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุคนร้ายใช้โรงพยาบาลเจาะไอร้องเป็นพื้นที่ยิงอาวุธสงครามใส่ฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนได้สั่งการให้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสารท ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ลงไปสอบสวนว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไร เพื่อให้เกิดความชัดเจนและตนจะชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนจะเป็นการบ่งชี้ว่าตัวแทนของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่มาพูดคุยสันติสุขไม่ใช่ตัวจริงเพราะคุมกองกำลังไม่ได้นั้นก็น่าจะใช่คงต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน    
 
       ส่วนจะเกี่ยวข้องกับกองกำลังที่ 3 ตามที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีระบุหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องไปถามท่าน แต่จากที่ฟังท่านพูดเรื่องปัญหาคนยากจน ซึ่งตอนที่ท่านเป็นรัฐบาลท่านก็ทำไป “ตอนนี้ท่านไม่ได้เป็นแต่ผมและนายกรัฐมนตรีกำลังทำงานอยู่ ก็ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำ แต่ตอนที่ท่านเป็นท่านก็ทำซิครับ ก็ไปดูว่าตอนที่ท่านทำเป็นอย่างไร ก็ไปดูอดีตเอาก็แล้วกัน ผมไม่อยากพูด ไม่อยากไปติติง ขอแค่ว่า อย่าทำอะไรที่ส่งผลให้รัฐบาลบริหารงานไม่สะดวก” ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นเป็นสถานการณ์ในพื้นที่หรือเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่อยากพูดเพราะพูดแล้วทำให้เกิดความขัดแย้ง ขอให้ทำก่อน
 
       พล.อ.ประวิตร เชื่อมั่นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อการพูดคุยสันติสุขและวานนี้ได้หารือกับพลเอก อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข  และบอกให้เดินหน้าต่อไปและเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่การต่อรองของขบวนการผู้ก่อความไม่สงบในการพูดคุยสันติสุข เพราะการพูดคุยจะไม่มีการต่อรอง เป็นการพูดคุยเพื่อความเข้าใจ ในส่วนของเราต้องดูแลประเทศของเราให้เกิดความสงบ
 
 
logoline

ข่าวที่น่าสนใจ