ข่าว

'บิ๊กตู่'อยากหาอะไรทิ่มปาก'จตุพร'

'บิ๊กตู่'อยากหาอะไรทิ่มปาก'จตุพร'

22 ม.ค. 2559

'บิ๊กตู่' ย้ำโรดแม็พปี 60 แต่ไม่รู้จะมีเลือกตั้งหรือไม่ ฉุน 'จตุพร' วิจารณ์ รธน. ลั่นอยากหาอะไรทิ่มปาก

 
                      22 ม.ค. 59  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวตอนหนึ่งในการพบปะประชาชนที่ ต.บึงปลาทู อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ระหว่างตรวจเยี่ยมภัยแล้ง ว่า “ขอให้รักผมน้อยๆ แต่รักนานๆ และขอให้รักรัฐมนตรีของผมด้วย ไม่ใช่ไล่กันอย่างเดียว”
 
                      นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็งให้ได้โดยเร็ว วันนี้เป็นโอกาสดีให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีได้พูดบ้าง ตนพูดมาเยอะแล้ว ตั้งใจว่าจะพูดให้น้อยลง และที่พูดทั้งหมดเป็นการปฏิรูปประเทศไทย เราจะคิดแบบเดิมอยู่แบบเดิมไม่ได้ ต้องพูดถึงการแก้ปัญหาทั้งระบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง รวมถึงการสร้างนวัตกรรมเพื่อให้ราคาสินค้าสูงขึ้น อย่างไรก็ตามยืนยันว่าไม่ต้องการคะแนน แต่ต้องการแรงใจ ตั้งใจว่าปีนี้จะอารมณ์เสียและพูดให้น้อยลง เขาบอกว่าเป็นนายกฯ ต้องอดทน ต่อไปนี้เจอหน้าตน ทักทายคำเดียว ประชารัฐ ซึ่งประชารัฐมี 3 ระดับ ระดับบนคือรัฐบาล ทุกคนในประเทศนี้คือกลไกประชารัฐ วันนี้ตนเข้ามาเพื่ออย่างนี้ ไม่ได้เข้ามาเพื่อสร้างปัญหา แต่เข้ามาเพื่อให้ปัญหาคลี่คลาย รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศทำอย่างไรไม่ให้ล้มลง ถ้าล้มลงทุกคนอยู่ไม่ได้ ฉะนั้นก็ต้องมีการปฏิรูป และการปฏิรูปคือการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเราคิด 11 ด้าน 37 วาระ นั่นแหละคือการปฏิรูป
 
                      นายกฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลนี้เข้ามาทำตลอด สิ่งที่อยากให้ทุกคนทำคือ การปฏิรูปตัวเอง ปฏิรูปความคิด ร่วมมือกัน สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นมาเป็น 10 ปี เพราะความขัดแย้งทางการเมืองวันนี้ เมื่อเกิดวิกฤติก็ใช้วิกฤติเป็นโอกาส วิกฤติของตนคือการโดนตำหนิ แต่ขอให้เอาที่ตนถูกตำหนิมาเป็นโอกาสให้แก่ทุกคน
 
 
 
ไม่รู้มีเลือกตั้งหรือไม่-ซัดมีพวกบิดเบือน
 
 
                      “กิจการสำคัญวันนี้เราแก้ปัญหาประเทศมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ชีวิตผม ชีวิตท่าน มีค่าเท่ากัน ต่างคนต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน ปีนี้ปีที่ 2 ยังอยู่ในระยะที่ 2 ของ คสช.และรัฐบาล โรดแม็พปี 60 เลือกตั้ง จะเลือกได้หรือเปล่า ผมไม่รู้ อยู่ที่ท่าน เขาจะทำต่อในสิ่งที่ผมทำมาหรือเปล่าก็อยู่ที่ท่าน วันนี้ต้องใช้สติปัญญาให้มาก ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม อย่านึกถึงตัวเองอย่างเดียว ต้องคิดถึงครอบครัว สังคมและประเทศชาติ”
 
                      นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ที่มาวันนี้ไม่ได้มาเพื่อเรียกคะแนนเสียง แต่มาดูแลปัญหาของพวกท่าน ไม่ได้มาให้เงิน แต่ให้การเรียนรู้ เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนพร้อมๆ กัน เพื่ออนาคตของลูกหลาน อยากให้ประชาชนรู้การทำงานของรัฐบาลทั้งหมด ท่านจะได้เป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง
 
                      “ที่ผ่านมาต่างประเทศก็มาพบผมที่ทำเนียบเยอะ ฉะนั้น อย่าไปเชื่อที่มีการบิดเบือนว่าต่างชาติไม่คบผม”
 
                      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ผู้นำท้องถิ่นอย่าแบ่งแยกกัน ต้องเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี จะนำไปสู่ความขัดแย้งไม่ได้ ต้องนำไปสู่ความปรองดอง ความร่วมมือ ต้องไม่มีการเมือง การดำเนินการตามนโยบาย รัฐบาลไม่เคยปิดบังอะไรสักเรื่อง ฉะนั้นอย่าไปเชื่อ การบิดเบือนบริหารประเทศคิดตลอด
 
                      “ถ้าคิดแบบสับปะรังเค ไม่ต้องมาเป็น และวันหน้าใครมาเป็นรัฐบาลให้มาเปิดแผนการทำงานให้ดูแบบรัฐบาลนี้ ตอนนี้รัฐบาลทำทุกอย่าง ไม่ใช่พูดอย่างเดียว ต้องศึกษาด้วยทั้งการบริหารจัดการน้ำ การจัดโซนนิ่งการปลูกพืชผลทางการเกษตร อย่าเชื่อเรื่องการทุจริตวันนี้ไม่มีอยู่แล้ว”
 
 
 
อยากหาอะไรทิ่มปาก “จตุพร”
 
 
                      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่มองว่าร่างรัฐธรรมนูญอาจจะถูกคว่ำก่อนไปทำประชามติ และมองว่านายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เขียนเพื่อให้ไม่ผ่านประชามติว่า “ไอ้คนพูดเนี่ยใคร ไปเอาอะไรทิ่มปากมันสักทีซิ มีใครจะบ้าทำอะไรแบบนั้น เขาอธิบายแล้วว่าเขาออกมาแบบนี้เพื่ออะไร แล้วในส่วนของการเข้ามาของนักการเมืองเป็นอย่างไร แล้วที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ย้อนกลับไปสู่สาเหตุของปัญหาที่ผมต้องมายืนตรงนี้ ท่านก็เห็นว่าปัญหาของประเทศอยู่ตรงไหนทางด้านการเมือง การเข้าสู่อำนาจ การตรวจสอบอำนาจ การใช้อำนาจ ผลประโยชน์ทับซ้อน การไม่ทั่วถึงไม่เป็นธรรม ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ นั่นเขาถึงต้องมีกติกาออกมา”
 
                      นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า “สื่อก็ไปบอกไอ้คนพูดสิ ออกมายืนเข้าแถวสัญญาประชาคมว่า ต่อไปนี้ผมจะไม่ทุจริต ต่อไปนี้ผมจะมีธรรมาภิบาล ดังนั้นอย่ามาไล่กับผม เข้าใจหรือยัง อย่าไปฟังเขามาก ผมขี้เกียจฟัง ฟังแล้วโมโหเสียอารมณ์หมด วันนี้ยิ่งอารมณ์ดีมาตลอด” นายกฯ กล่าวและว่า "พวกเธอก็อย่าไปฟังเขา อย่าไปขยายความให้เขา เขาพูดในบ้านก็เรื่องของเขา”