มึน!สนช.ตีกลับรายชื่อกสทช.

 

                         21 มี.ค. 58  นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ที่ประชุม สนช.ได้มีมติไม่รับพิจารณารายชื่อตามบัญชีที่คณะกรรมการสรรหาบุคคลที่สมควรเป็นกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประเภทผู้ที่มีผลงานหรือมีความรู้ และความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ทางด้านกฎหมาย ว่า ขณะนี้ต้องรอการยืนยันมติอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งกฎหมายของ กสทช. และกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมา ไม่เคยมีลักษณะทำนองนี้มาก่อน คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะมีความชัดเจนในเรื่องนี้

 

                         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ สนช.มีมติไม่รับพิจารณาบัญชีรายชื่อ อ้างเรื่องคุณสมบัติไม่เหมาะสม โดยใช้ช่องทางรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2557 มาตรา 5 ที่ระบุว่า เมื่อไม่มีบทบัญญัติใด ให้วินิจฉัยไปตามประเพณีการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และให้ดำเนินการตามขั้นตอนธุรการ นั้นปรากฏว่า เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่สมาชิก สนช. โดยเกรงว่า อาจถูกบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อฟ้องร้องได้ ซึ่งสมาชิกหลายคนตั้งข้อสงสัยถึงกรณีดังกล่าวว่า จะทำได้หรือไม่อย่างไร เพราะไม่มีแนวทางปฏิบัติไว้ แม้แต่คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้สมควรได้รับเลือกเป็น กสทช. ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าจะส่งบัญชีรายชื่อดังกล่าวไปให้กรรมการสรรหา เพื่อดำเนินการสรรหาบัญชีรายชื่อมาให้ สนช.พิจารณาใหม่ หรือไม่ อีกทั้งกรรมการสรรหามาจาก 2 ทาง คือ มาจากอธิการบดีเลือกกันเอง และกรรมการสรรหาที่มีองค์กรประกอบตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งการให้ดำเนินการตามขั้นตอนธุรการตามที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ระบุคืออะไร

 

                         นอกจากนี้สมาชิกบางคนยังเห็นว่า สนช.ควรใช้มาตรา 6 ที่บัญญัติไว้ว่า สนช.ทำหน้าที่ ส.ส.และ ส.ว. ซึ่งหากใช้มาตรานี้ จะมีช่องทางในการดำเนินการต่อได้ เพราะตามกฎหมาย กสทช. มาตรา 17 ระบุว่า หากไม่สามารถเลือกบุคคลเป็นกรรมการ กสทช.ได้ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่กรรมการสรรหาส่งบัญชีรายชื่อมา ก็ให้วุฒิสภา ส่งบัญชีรายชื่อดังกล่าวไปยังนายกรัฐมนตรี พิจารณาเลือก ซึ่งมีกำหนดภายใน 30 วัน หากไม่สามารถเลือกได้ ก็ให้เริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ แต่เหตุใดจึงใช้มาตรา 5 จึงทำให้ขณะนี้ไม่มีข้อยุติ จึงต้องรอให้นายพรเพชร เป็นผู้ชี้ขาดว่า จะดำเนินการอย่างไร

 

                         สำหรับรายชื่อโดยการเสนอผู้ที่สมควรได้รับเลือกเป็น กสทช. 4 คน ประกอบด้วย นายทวีเดช เส้งแก้ว ทนายความ สำนักงานกฎหมายนิติธาดา นายธนกรณ์ พูนภิญโญศักดิ์ ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย นายนิพันธ์ จิตะสมบัติ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และ พล.ต.สุพิชาติ เสนานุรักษ์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เพื่อให้ที่ประชุมให้ความเห็นชอบเพียงคนเดียว