หลวงปู่พุทธะอิสระ‘จับปูใส่กระด้ง’ถกพลังงานเพื่อใคร?

                 เวทีเสวนาปฏิรูปพลังงาน เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งจับทั้งสองฝั่ง อย่างภาคประชาชนที่ตั้งข้อสงสัยมาพูดคุยกับผู้บริหารกระทรวงพลังงาน และ ปตท. แม้ว่าหลายคนมองว่าจะไม่ค่อยได้อะไร แต่ในอีกมุมหนึ่งก็สร้างเซอร์ไพรส์เพราะไม่คิดว่าใครจะสามารถนำ "คนสองขั้ว" มาร่วมเวทีเดียวกันได้

                 โดย "หลวงปู่พุทธะอิสระ" ได้เปิดใจต่อสื่อเครือเนชั่นถึงการทำหน้าที่ ผู้ประสานงาน ผู้ดำเนินรายการ และกรรมการในเวลาเดียวกัน

                 ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตและไม่เคยคิดว่าจะทำ ทั้งนี้ ฝ่าย ปตท. มีการเสนอพิธีกร คนอื่นๆ แต่ฉันเห็นว่าอาจจะไม่จบ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันรับบทบาทเป็นพิธีกรบนเวทีเพราะฉันรู้ว่าฝ่ายที่รับฟังปัญหา, ฝ่ายตั้งคำถาม รวมถึงคนที่ร่วมเสวนาล้วนมีธงในใจ ยากที่จะละลาย หากจะละลายธงในใจของบุคคลได้นั้นต้องเป็นฉัน นอกจากนั้น ฉันว่าเป็นหน้าที่เพราะเวทีที่แจ้งวัฒนะนั้นได้สู้เรื่องพลังงานมาโดยตลอด จนถึงขั้นมีการยกร่างพระราชบัญญัติสภาจัดการพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนของราชอาณาจักรไทย พ.ศ... ซึ่งมีทั้งหมด 62 มาตรา ดังนั้น การจัดเวทีรอบนี้ถือเป็นการต่อยอดจากสิ่งที่เราได้ศึกษามาตลอดโดยที่ผ่านมาเรารับฟังเพียงฝ่ายเดียว จนมีความรู้สึกว่าเรากำลังจะเสียจุดยืน และกลายเป็นพวกของใครคนใดคนหนึ่ง ทั้งที่ตลอดชีวิตฉันที่ผ่านมาฉันรักษาสมดุลของตนเองมาโดยตลอด ถ้าผิดฉันจะไม่เถียง แต่หากถูกฉันจะรักษาเอาไว้ เมื่อฉันรักษาสมดุลเอาไว้ เราเลยไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ผิด หรือใครกันแน่ที่ถูก

ช่วงที่เป็นพิธีกร บนเวทีรู้สึกอย่างไร

                 มีทั้งเครียด เสียว และฮา โดยตอนแรกรู้สึกเครียด แต่หลังจากพ้นคำถามที่สอง และคำถามที่ สาม ก็รู้สึกเสียว เพราะเสี่ยงที่จะเกิดวิวาทะเนื่องจากคำถามที่มีจะทำให้ผู้ถูกถามจะกลายเป็นจำเลย เพราะผู้ถูกถาม คือ กลุ่มผลประโยชน์พลังงานและกลุ่ม ปตท. เท่านั้นที่จะเป็นผู้ผิด และเป็นจำเลย แต่เราพยายามรักษากระบวนทัศน์และคุมเกมแต่ละภาคส่วนให้ได้ ทั้งนี้ มีคนบอกว่าหากฉันไม่อยู่บนเวทีปฏิรูปพลังงานอาจจะมีเหตุการณ์ขว้างปาเก้าอี้ ปาโต๊ะกันแล้ว 

                 ที่จริงตอนฉันออกจากวัด คิดไว้ว่าจะมีมวยน็อก แต่กลับเป็นว่าไม่มีใครน็อกใครได้ อีกทั้งภาคประชาชนกลับจะโดนเขาน็อกอยู่รอมร่อ ทำให้เราต้องเสียมารยาท เป็นคนกลาง แต่ไปตั้งคำถามช่วยเพราะเขาถามไม่ตรงประเด็น ไม่ได้สาระกับผู้ฟังเราต้องตั้งประเด็นถามเอง ส่วนการตอบนั้นก็ตอบได้แม้จะไม่ตรงประเด็นกับหัวใจของคนที่ตั้งธงเอาไว้ก็ตามที

ตลอดการเสวนาเราได้ข้อสรุปอะไรบ้าง
                
                 เชื่อว่าภาพดูดี เห็นคนรักชาติมาไม่ใช่น้อย เพราะพลังงานเป็นเรื่องของต้นทุนชีวิตที่คนสนใจและอยากได้คำตอบที่ชัดเจน ทีนี้ปัญหาอยู่ที่ว่าคนตอบตั้งใจตอบ เตรียมข้อมูล กองหนุนมาตอบไม่ต่ำกว่า 40-50 ชีวิต แต่เราผู้ถาม ยังก๊องแก๊งๆ ขนาดถามข้อที่ 1 แล้วยังหันไปถามว่าข้อ 2 จะถามอะไร เราจึงรู้สึกว่าได้ขึ้นชกแล้วยังเต้นฟุตเวิร์กอยู่ นี่คือความไม่พร้อม เพราะเขาไม่เชื่อเรา เพราะก่อนเริ่มงานเราได้นัดประชุม 2 รอบ เพื่อเตรียมการสร้างปัญหาและหาคนถามปัญหาแต่เขาไม่มาก แต่ดันเดินไปให้ตำรวจหิ้ว ทำให้ได้ภาพที่ทำให้เห็นว่าสมกับสิ่งที่รอคอยและได้คำตอบที่รอคอย

                 อย่างไรก็ตามเวทีเสวนานั้นพอได้แนวทางระดับหนึ่ง คือ การแก้ปัญหาพลังงาน ซึ่งฉันได้บอกคุณปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ไปแล้วว่าพลังงานภาคครัวเรือนต้องแยกกันเด็ดขาด ส่วนอุตสาหกรรมให้ไปใช้นอกประเทศ เพื่อช่วยลดต้นทุนการนำเข้า หรือการส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ซึ่งคุณปิยะสวัสดิ์บอกว่าจะทำให้มีปัญหาเกี่ยวโยงกับธุรกิจและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีแบบองค์รวม แต่หากเป็นนโยบาย คสช.?ก็ไม่มีปัญหา คงต้องผลักดันกันต่อไป

                 สิ่งที่ได้จากเวทีจริงๆ คือทำให้เห็นภาพว่าความเข้าใจการฟังข้อมูลสองด้าน ทำให้ได้มุมมองที่หลากหลาย นำมาซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้องมากกว่าการฟังข้อมูลด้านใดด้านหนึ่งแล้วเชื่อ สุดท้ายการตัดสินใจจะผิดพลาด อีกทั้งไม่สนใจว่าข้อมูลที่ไม่ฟังนั้นจะถูกหรือผิด ก็ไปตั้งธงคิดว่าผู้ให้ข้อมูลเป็นศัตรู เป็นโจร และบุคคลที่อันตรายคดโกง ซึ่งวิธีนี้อันตราย ทาง คสช.ต้องขจัดออกไป ต่อไปนี้ต้องให้ข้อมูลทั้งสองด้านที่พิสูจน์ได้

จะจัดเวทีแบบนี้รอบหน้าอีกหรือไม่

                 ที่จริงจะมีการจัดเวทีในประเด็นพลังงานทางเลือก โดยจำกัดว่าเรื่องเก่าไม่ให้พูด หากพูดจะไล่ลงจากเวทีไปเลย โดยขอเน้นเรื่องใหม่ที่เป็นประโยชน์กับชาวบ้าน เช่น การขยายเครือข่าย การผลิตพลังงานทางเลือกมีอะไรบ้าง กระบวนการสนับสนุนพลังงานทางเลือกที่ บริษัท ปตท. ได้รับทุน หรือที่หน่วยงานภาครัฐที่ได้ทุนจากต่างประเทศมาสนับสนุนเรื่องพวกนี้ได้มากน้อยแค่ไหน ตอนนี้ฉันได้เตรียมข้อมูลของฉันไว้ เพราะไม่ไว้ใจพวกที่ถามปัญหา ฉันกลัวว่าจะมัวเต้นฟุตเวิร์กจนเมาหมัดตัวเองไป แต่ทุกคนถามดีพยายามจะถามแต่คาดว่าการเตรียมการคงไม่พร้อม

สาระหลักของร่าง พ.ร.บ.สภาจัดการพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนของราชอาณาจักรไทย พ.ศ... เพื่อประโยชน์ประชาชนหรือรอมชอมกับกลุ่มพลังงาน?

                 ร่างกฎหมายนี้เป็นเรื่องพลังงานเพื่อประชาชนทั้งหมด มีการแก้กฎหมายหลายมาตราที่เกี่ยวกับเรื่องพลังงาน ตั้งสภาพลังงานเแห่งชาติ กำกับพลังงานภายในประเทศ ส่วนพลังงานภายนอกประเทศเป็นหน้าที่ของกระทรวงพลังงาน ที่มีหน้าที่ดูแลพลังงานฝ่ายอุตสาหกรรมแยกไว้ชัด ดังนั้น หากร่างกฎหมายนี้ผ่านและมีบังคับใช้รับประกันได้เลยว่าประชาชนจะได้ใช้พลังงานในราคาที่บรรพบุรุษสะสมไว้ เพราะร่างกฎหมายนั้นนำมาซึ่งการใช้พลังงานและแยกส่วนพลังงาน กับประเภทผู้ใช้อย่างชัดเจน และราคาจะถูกแน่ เพราะไม่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันไม่อิงราคาตามตลาดสิงคโปร์

คนที่จับตาดูเวทีปฏิรูปพลังงานมองว่าบทบาทหลวงปู่ บนเวทีเหมือนกับรับงานคสช. มาเคลียร์ปัญหากลุ่มพลังงานที่เขาเอาไม่อยู่?

                 เขามีสิทธิ์ก็ว่า จะว่าไป ฉันวางตัวเป็นกลางๆ ที่จริงจะลำเอียง ด้วยซ้ำ ช่วยคนถามถามให้ วันนี้คนทั้งแผ่นดินก็ถ่มถุยฉันอยู่แล้ว หากฉันสนใจคงไม่กล้าทำอะไร ส่วนประเด็น คสช. เอากลุ่มปฏิรูปพลังงาน ส่วนภาคประชาชนไม่อยู่นั้น ฉันคิดว่าไม่เป็นเช่นนั้น เพราะคสช.ไม่อยากบังคับกระบวนการมีส่วนร่วมภาคประชาชนโดยใช้อำนาจกฎหมาย แต่อยากให้เป็นไปตามความสมัครใจและความตั้งใจที่จะร่วม เพราะเห็นประโยชน์ร่วมกัน นี่ฉันไม่อยากแก้ตัวแทนเขานะ แต่ตอนนี้ฝ่ายที่เคลื่อนไหวทางพลังงานเขามองว่าไม่ได้มีประโยชน์ร่วมกันเลยทำให้แต่ละฝ่ายต้องจูนคลื่นเข้าหากัน เพื่อให้เห็นว่าเหตุที่ไม่ได้ประโยชน์ร่วมกันมีอะไร และเหตุที่ประโยชน์จะร่วมกันมีอะไรบ้าง

การร่วมวงปฏิรูป ได้ปรึกษาพระสุเทพ ก่อนหรือไม่

                 ไม่ได้ปรึกษามาก่อน ฉันชื่อพุทธะอิสระ ไม่ใช่เหรอ ตั้งเวที 4 เดือนไม่เคยปรึกษาเรื่องอะไร มีแต่เขาที่มาปรึกษาฉัน

ทำไมหลวงปู่ โดดร่วมวงปฏิรูป แต่ กปปส.ที่เคยร่วมชูธงปฏิรูปกลับไม่เอาด้วย

                 เพราะฉันไม่อยากเสียของ ฉันไม่อยากเหนื่อยฟรี ฉันหวังกำไร โดยกำไรฉันคือชาติบ้านเมือง และประชาชน ไม่เช่นนั้น จะเอาผ้าเหลืองไปเสียทำไม

มองบทบาท คสช. ต่อการปฏิรูปอย่างไร จะเอาจริงแค่ไหน

                 เชื่อว่าเอาจริง ถ้าไม่เอาจริง เขาคงไม่ให้ฉันจัดเวที ส่วนแนวทางปฏิรูปด้านต่างๆ จำเป็นตัองเอาคนที่รู้ปัญหาเข้ามา หากสมาชิก สปช. ไม่รู้จริงเรื่องเหตุปัญหา เอาเข้ามาก็เกะกะเปล่าๆ

........................

(หมายเหตุ : หลวงปู่พุทธะอิสระ : ‘จับปูใส่กระด้ง’ตั้งวงถก‘ปฏิรูปพลังงาน’เพื่อใคร ?  : สำนักข่าวเนชั่น โดย ขนิษฐา เทพจร)