ข่าว

แกะรอย'นายทุนตู้ม้า'4ผู้มีอิทธิพล-คสช.จับตา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แกะรอย'นายทุนตู้ม้า' 4ผู้มีอิทธิพล-คสช.จับตา : รายงาน

              "มีการปลุกระดมให้ผู้ชุมนุมประท้วงในสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก หรือไลน์ โดยมีค่าตอบแทนจูงใจ 400-1,000 บาท รวมถึงมีนายทุนตู้ม้าเถื่อนสนับสนุนมวลชนให้ต่อต้านเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง" นี่คือคำแถลงของฝ่ายทหารที่แถลงผ่านรองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อคืนวันที่ 26 พฤษภาคม ต่อกรณีการชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารที่รวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอย่างต่อเนื่องและกำลังจะกลายเป็นกิจกรรมรายวัน

              คำแถลงแบบตรงไปตรงมาสไตล์ทหาร ทำเอาคนที่ได้ยินได้ฟังตื่นตะลึง คือมีการกล่าวหากันซึ่งหน้า แถมแฉข้อมูลออกทีวีกันเลยว่า "นายทุนตู้ม้า" จ้างมาชุมนุม

              หลังจากคำแถลงไม่นาน ก็มีคำสั่ง คสช.เรียกตัวบุคคลเข้ารายงานตัวเพิ่มเติม ชื่อของบางคนไม่คุ้นหูคุ้นตาสังคม...

              ย้อนกลับไปช่วงก่อนหน้านี้ คำสั่ง คสช.ที่เรียกตัวบุคคลเข้ารายงานตัวเพิ่มเติมบางคำสั่ง ก็มีชื่อบุคคลที่ไม่ได้โด่งดังหรือเป็นที่รู้จักมาแล้ว คือ อ่านชื่อแล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เรียกตัวมาทำไม และทำไมต้องเรียกตัวคนเหล่านั้น

              เว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา ได้จำแนกแยกแยะรายชื่อบุคคลที่ถูก คสช.เรียกเข้ารายงานตัวล่าสุดจนถึงเมื่อวานนี้ (27 พ.ค.) ว่า มีทั้งสิ้น 253 คน แยกเป็น 14 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มรัฐมนตรี/อดีตรัฐมนตรี, กลุ่มพรรคเพื่อไทย, กลุ่มพรรคการเมืองอื่น, กลุ่มเครือญาติและคนใกล้ชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร, กลุ่มข้าราชการ, กลุ่มเพื่อนนายทหาร นายตำรวจ (ของ พ.ต.ท.ทักษิณ), กลุ่มทุน, กลุ่มคนเสื้อแดง/ นปช., กลุ่ม กปปส./พรรคประชาธิปัตย์, กลุ่มผู้เกี่ยวข้อง, กลุ่มนักวิชาการ, นักศึกษา, เจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชน และกลุ่มสื่อสารมวลชน

              ทั้งนี้ ชื่อบุคคลที่ไม่โด่งดังและเป็นที่สงสัยของสังคมกระจายอยู่ในหลายกลุ่ม แต่อยู่ในกลุ่ม "ผู้เกี่ยวข้อง" มากที่สุด ซึ่งจากการตรวจสอบเชิงลึกพบว่าบางรายถูกตั้งข้อสงสัยว่าเกี่ยวโยงเป็น "นายทุนตู้ม้า" และประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย เป็นท่อน้ำเลี้ยงที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนการชุมนุมต่อต้านการรัฐประหาร

              บุคคลกลุ่มนี้ ที่ คสช.ออกคำสั่งเรียกมารายงานตัวแล้ว มี 3-4 คน คนแรกและน่าจับตามากที่สุด คือ "เสี่ย จ." พำนักอยู่ในจังหวัดปริมณฑลใกล้กรุงเทพฯ "เสี่ย จ." ผู้นี้เคยถูก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยพาดพิงบนเวทีช่วงที่มีการชุมนุมทำนองว่า เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ออกปฏิบัติการก่อกวนทำร้ายมวลมหาประชาชน โดยได้เงินสนับสนุนมาจากการบ่อนการพนัน ทำงานรับใช้นายตำรวจใหญ่

              แถมยังเคยข่มขู่เอาไว้ว่าเมื่อไรที่มวลมหาประชาชนชนะ "เสี่ย จ." จะเดือดร้อน !

              "เสี่ย จ." ที่ว่านี้ ข้อมูลจากแฟ้มประวัติของเจ้าหน้าที่ระบุว่า มีเขตอิทธิพลทั่วภาคกลาง โดยเฉพาะตู้ม้า และเป็นลูกน้องนายตำรวจใหญ่ที่อนาคตราชการไม่ค่อยสดใสหลังการยึดอำนาจของ คสช.

              คนที่ 2 "เสี่ย ต." ผู้มีอิทธิพลย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก เช่น บางกะปิ มีนบุรี สายไหม ชื่อจริงสั้นๆ คำเดียว ตัวย่อ "ด." ข้อมูลจากแฟ้มประวัติของเจ้าหน้าที่ระบุพฤติการณ์ว่า เปิดบ่อนไฮโลไฮเทคทั้งในเมืองหลวงและจังหวัดปริมณฑล โดยเฉพาะปทุมธานี โดยแบ่งพื้นที่กับ "เสี่ย ม." ผู้กว้างขวางในแวดวงหมัดมวย มีนายตำรวจเคยใหญ่คอยหนุนหลัง

              ลูกน้องของ "เสี่ย ต." เกี่ยวพันกับการก่อเหตุรุนแรงในเขตกรุงเทพฯ หลังการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อ 19 พฤษภาคม 2553

              คนที่ 3 "เสี่ย ม." มีกิจกรรมทางเปิดและสังคมรู้จักในเรื่องกีฬาบนผืนผ้าใบ แต่เบื้องหลังมีธุรกิจผิดกฎหมายมากมาย และให้การสนับสนุนทางการเงินแก่นายตำรวจเคยใหญ่ที่ขึ้นชื่อพัวพันธุรกิจใต้ดิน

              อีกคนหนึ่งที่ให้ทุนสนับสนุนและจัดกองกำลังก่อความปั่นป่วน คือ "เสี่ย ล. นครปฐม" ทำธุรกิจตู้ม้า และมีความใกล้ชิดกับนักการเมืองชื่อดังในจังหวัด โดย นายสุเทพ เคยปราศรัยบนเวทีพาดพิงถึง "เสี่ย ล.นครปฐม" เช่นกัน แต่ คสช.ยังไม่ได้เรียกเข้ารายงานตัว

              เป็นที่น่าสังเกตว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ผู้ที่เกี่ยวโยงกับธุรกิจผิดกฎหมายและมีฐานที่มั่นอยู่ในเขตปริมณฑล ได้เข้ามาแผ่อิทธิพลในเมืองหลวง ซึ่งสาเหตุน่าจะเป็นเพราะผู้มีหน้าที่สืบสวนจับกุมในระดับสูงเปิดไฟเขียวให้ โดยเจ้าหน้าที่รายนี้เองก็มีฐานบัญชาการส่วนตัวอยู่ในจังหวัดปริมณฑลจังหวัดหนึ่งเช่นกัน คือ ปทุมธานี

              การบุกจับกุมหรือทลายตู้ม้าเถื่อนของตำรวจในช่วงก่อนหน้านี้ บางกรณีจึงเป็นการจับเพื่อล้างอิทธิพลเดิม แล้วสร้างอิทธิพลใหม่ !

              จากข้อมูลบ่อนพนันและอบายมุขในพื้นที่กรุงเทพฯ ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กระทรวงยุติธรรม (ป.ป.ท.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ระบุว่า ในกรุงเทพฯ มีตู้ม้าไฟฟ้าและตู้สล็อต รวมถึงตู้ลูกแก้ว และตู้เกมยิงปลาตั้งอยู่ทั่วไปตามตรอกซอกซอยต่างๆ ร้านเกม สถานบันเทิง และบ่อนการพนันจำนวนหลายพันตู้ แต่ละตู้มีรายได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าไปตั้งอยู่ที่ไหน

              ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ราว 2 หมื่นบาทต่อตู้ต่อเดือน!

ทุนหมุนเวียน2หมื่นล้านต่อเดือน


              ทีมข่าวอาชญากรรม "คม ชัด ลึก" ลงพื้นที่ตรวจสอบการลักลอบเล่นพนันตู้ม้าไฟฟ้าในพื้นที่นครบาล พบว่ามีการลักลอบเล่นกันอย่างโจ๋งครึ่มในช่วงที่ผ่านมา กระทั่งล่าสุดวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา ชุดเฉพาะกิจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ผกก.1 บก.ป. พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่กวาดล้างจับกุมแหล่งอบายมุขลักลอบเล่นการพนัน คือตู้ม้าและตู้ลูกแก้วในย่านฝั่งธนบุรีหลายจุดภายหลังสืบทราบลอบทำมานานแล้ว

              กระทั่ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ขณะนั้น ไฟเขียวสั่งกองปราบปราม (บก.ป.) เข้าจับกุม โดยรับแจ้งเบาะแสข้อมูลจากพ่อแม่ผู้ปกครองหลายรายว่าบุตรหลานเข้าไปมั่วสุมเล่นการพนันดังกล่าว โดยผลการจับกุมเป็นที่น่าพอใจ สามารถตรวจยึดตู้ม้าและตู้ลูกแก้วได้ 14 ตู้ ผู้ต้องหารวม 13 คนในพื้นที่ สน.บางยี่เรือ สน.ตลาดพลู สน.สำเหร่ และ สน.ทุ่งครุ ล้วนแต่อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 ทั้งสิ้น

              ต่อมา "ตู้ม้าพ่นพิษ" พล.ต.อ.อดุลย์ มีคำสั่งเด้ง พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.8 ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่เข้ากรุตามระเบียบ รวมทั้ง ผกก. รองผกก.ฝ่ายสืบสวน รองผกก.ป. และ สว.สส. สวป. หรือ 5 เสือของโรงพักในพื้นที่ด้วย

              ข้อมูลบ่อนพนันและอบายมุขในพื้นที่ กทม. ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองปราบปรามพบว่า กทม. มีตู้ม้าไฟฟฟ้าและตู้สลอตรวมถึงตู้ลูกแก้วและตู้เกมยิงปลาตั้งอยู่ทั่วไปตามตรอกซอกซอย ร้านเกม สถานบันเทิงและบ่อนพนันกว่า 2,000 ตู้

              พบมากที่สุดในพื้นที่ บก.น.8 เนื่องจากเป็นแหล่งต้นกำเนิดของ "เจ้าพ่อตู้ม้า" รายใหญ่ รองลงมา บก.น.4 บก.น.5 บก.น.6 และประปรายในบางพื้นที่ หากเป็นตู้ม้าที่มอมเมาเยาวชนตามตรอกซอกซอย มักตั้งอยู่ในโต๊ะสนุกเกอร์และร้านเกม

              ตู้ม้าตู้พนันเหล่านี้ มีเงินหมุนเวียนต่อเดือนจากธุรกิจมืดประมาณ 2 หมื่นล้านต่อเดือน จึงไม่น่าแปลกใจอะไรกับการเข้ามาสนับสนุนการเมืองในซึกที่เอื้อประโยชน์ให้นายทุนธุรกิจมืดเหล่านี้ และต้องจับตาว่าหลัง คสช.เข้ามาแล้ว จะจัดการ "เจ้าพ่อตู้ม้า" อย่างเฉียบขาดหรือไม่

............................

(หมายเหตุ : แกะรอย'นายทุนตู้ม้า' 4ผู้มีอิทธิพล-คสช.จับตา : ปฏิญญา เอี่ยมตาลรายงาน)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ