เปิดตัวคลังสมอง'กำนัน'ต้อย ทีนิวส์-สหายช่วง

               พลันที่ "กำนันสุเทพ" ประกาศนาม "คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" (กปปส.) ก็หมายถึงการปฏิวัติประชาชนอย่างสันติได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

               "เรากำหนดวันแห่งชัยชนะแล้ว เราไม่ต้องการให้ประชาชนต้องทนทุกข์ทรมานในการต่อสู้ยาวนานอีกต่อไป กปปส.จึงกำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคม 2556 คือวันแห่งชัยชนะ"

               สุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะเลขาธิการ กปปส. ลั่นคำประกาศชัยล่วงหน้า โดยแผนการปฏิบัติการจะเป็นไปโดยสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ อหิงสาเต็มรูปแบบ

               หลายคนกังขาว่า "กำนันสุเทพ" อดีต ส.ส.หลายสมัย และเคี่ยวกรำศึกเลือกเลือกตั้งมานับครั้งไม่ถ้วน ได้ก้าวข้ามพรมแดน "นักเลือกตั้ง" มาสู่ "นักปฏิวัติ" ได้อย่างไร?

               อะไรเป็นแรงขับเคลื่อนภายในให้ "กำนันสุเทพ" แห่ง ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี สลัดเสื้อผ้านักเลือกตั้งทิ้ง? หากไม่ใช่ "ระบอบทักษิณ"

               หากย้อนไปช่วงกลางปี 2555 "กำนันสุเทพ" เริ่มคิดอ่านเคลื่อนไหว "การเมืองภาคประชาชน" โดยสนับสนุนการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม "ช่องไทยทีวีดี" และมอบหมาย สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นผู้บริหาร

               "สนธิญาณ" เป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ และทีวีดาวเทียมช่องทีนิวส์ ซึ่งมีบทบาทในการเคลื่อนไหวต้านระบอบทักษิณ ร่วมกับ "กลุ่มสยามสามัคคี" มาตั้งแต่ปี 2552

               เพื่อให้มีการสร้างเครือข่ายที่กว้างขวาง "สนธิญาณ" ดึงตัว ชัยวัฒน์ สุรวิชัย คนเดือนตุลา และเพื่อนพ้องน้องพี่ จัดตั้ง "สถาบันพัฒนาการเมืองและคุณภาพคน" เป็นคลังสมอง

               หลังจากนั้น "กำนันสุเทพ" ก็เดินสายเปิดตัว "สานเสวนาเวทีประชาชน" ที่ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช และสงขลา โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านทีวีดาวเทียม 3 ช่อง คือ บลูสกาย, ทีนิวส์ และไทยทีวีดี

               ต่อมาเวทีประชาชนของสุเทพและพวก ก็เปลี่ยนเป็น "เวทีผ่าความจริง" ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีการเปิดเวทีทุกวันเสาร์ มากกว่า 60 เวทีทั่วประเทศ

               "ต้อย ทีนิวส์" หรือ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อดีตฝ่ายซ้ายรามคำแหง เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับกำนันสุเทพ เป็นครั้งแรก ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ในช่วงพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน หลังการเลือกตั้ง 2554

               "สุเทพไม่รับตำแหน่งใดในพรรค เพราะคิดสู้กับระบอบทักษิณ ไม่ได้คิดเล่นการเมืองแล้ว"

               ในความเป็น "ซ้ายเก่า" ยามวัยหนุ่ม "ต้อย ทีนิวส์" เชื่อมั่นในทฤษฎีปฏิวัติประชาชน ตามแบบฉบับของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) แต่ตอนหลัง เขาเปลี่ยนอุดมการณ์จากยึดถือมาร์กซิสต์-เลนินนิสต์ และเหมาอิสต์ มาเป็น "อุดมการณ์ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข"

               "ผมพูดเรื่องปฏิวัติประชาชนกับสุเทพบ่อยครั้ง ถูกถามกลับมาเสมอ คุณคิดว่าประชาชนพร้อมแล้วหรือ ผมตอบว่า 80 ปีที่ผ่านมา หลังจากชิงอำนาจจากพระมหากษัตริย์มาแล้ว ประชาชนได้สัมผัสกับคำว่า อำนาจของตัวเองน้อยมาก จากอำนาจเผด็จการทหาร สู่เผด็จทุนนิยมประชาธิปไตยคือมายาจอมปลอมที่ทหาร ทุน นักการเมือง ใช้มอมเมาด้วยการสร้างให้เชื่อว่า ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง"

               สนธิญาณ เริ่มทำงานความคิดกับสุเทพ ซึ่งในหลักทฤษฎีของซ้ายเก่า นี่คือกระบวนการจัดตั้งทางความคิด "ระบอบเผด็จการทหารเข้าใจง่าย แต่ระบอบเผด็จการทุนนิยมซับซ้อนต้องรอเวลา ทักษิณคือตัวแทนของเผด็จการทุนนิยม ที่ช่วยเร่งเวลา เพราะกระทำการทุกอย่างด้วยคิดว่า อำนาจตัวเองเบ็ดเสร็จ อำนาจรัฐ มวลชน สื่อ และเงิน แต่ทักษิณไม่ได้คิดถึงเรื่องปัญญาและหัวใจคนว่ามีอำนาจกว่าสิ่งใดทั้งปวง"

               ระบอบทุนสามานย์ จึงเป็นอุปสรรคต่อการสถาปนาอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

               ในที่สุด "กำนันสุเทพ" ก็บอกสนธิญาณว่า "พร้อม" เขาก็พร้อมเดินหน้าสู่หนทางการปฏิวัติประชาชนทันที

               "ไม่เคยประกาศตัวเป็นแกนนำ ทำงานไปเงียบๆ แต่เราร่วมกันมาตั้งแต่วันแรก ที่สำคัญผมยืนยันเป็นหุ้นส่วนที่ไม่ต้องการผลตอบแทน"

               ก่อนหน้านั้น "ต้อย ทีนิวส์" ร่วมมือกับ "สหายช่วง" ธงชัย สุวรรณวิหค อดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) อดีตกรรมการพรรค เขตงานเทือกบรรทัด (ตรัง-พัทลุง-นครศรีธรรมราช) จัดตั้งองค์กร "สันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย" และเสนอยุทธศาสตร์ "การปฏิวัติประชาชนอย่างสันติ"

               เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันภายในประเทศไทยตกอยู่ในสภาพ "การรวบอำนาจอยู่ในอุ้งมือของทักษิณและเครือข่าย กระทำการกินรวบประเทศไทย" หรือประเทศถูกครอบครอง "โดยระบอบทุนสามานย์ เผด็จการทักษิณ" แม้จะสวมเสื้อคลุมประชาธิปไตย แต่เผยโฉมหน้าเผด็จการออกมาให้เห็นอย่างล่อนจ้อน

               องค์กรสันนิบาตประชาชนฯ จึงเกิดขึ้นมาเพื่อรับช่วงภารกิจเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ด้วยหนทางการปฏิวัติประชาชน

               "การปฏิวัติประชาชนอย่างสันติ" หมายถึง การแสดงอำนาจอธิปไตยทางตรงของประชาชนครั้งยิ่งใหญ่ ในขอบเขตทั่วประเทศ ทุกสาขาอาชีพ เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสำคัญของประเทศชาติ

               ชั่วโมงนี้ "สหายช่วง" มาช่วย "กำนันสุเทพ" ทำภารกิจการปฏิวัติประชาชนอย่างสันติ โดยรับผิดชอบด้านการรักษาความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจาก "สหายช่วง" มีประสบการณ์ด้านการทหารมาโชกโชน

               พร้อมกันนั้น สันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฯ ได้นำเสนอแนวทาง 9 ปฏิวัติ

               1.ปฏิวัติโครงสร้างของรัฐ และการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น

               2.ปฏิวัติโครงสร้างรัฐสภา และกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม

               3.ปฏิวัติโครงสร้าง พรรคการเมืองและขบวนการเลือกตั้ง

               4.ปฏิวัติโครงสร้าง สิทธิชุมชนและสิทธิเสรีภาพประชาชน

               5.ปฏิวัติโครงสร้างเศรษฐกิจระบอบทุนสามานย์สู่เศรษฐกิจประชาธิปไตย วิถีไทย

               6.ปฏิวัติโครงสร้าง พลังงานของชาติ

               7.ปัญหาโครงสร้างการศึกษา-สังคมและวัฒนธรรม

               8.ปฏิวัติโครงสร้างทรัพยากรสิ่งแวดล้อม

               9.ปฏิวัติโครงสร้างการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

               หากการปฏิวัติประชาชน 1 ธันวาคม 2556 ประสบชัยชนะ "กำนันสุเทพ" ก็พร้อมจะนำเอาพิมพ์เขียว 9 ปฏิวัติมาเปลี่ยนแปลงประเทศไทย

               รัฐบาลของประชาชน และสภาประชาชน จะเกิดขึ้นหลังการปฏิวัติสันติมีชัย แต่เฉพาะหน้านี้ ก็ต้องวัดใจ กปปส.ใต้การนำของกำนันสุเทพว่า จะปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่?

.................................

(หมายเหตุ : เปิดตัวคลังสมอง'กำนัน' 'ต้อย ทีนิวส์-สหายช่วง' ชูธงปฏิวัติประชาชนสูงเด่น :  รายงานพิเศษ)