เด้ง!'พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์'พ้นปลัดกห.

                27 ส.ค.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 14.30 น. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ได้เซ็นคำสั่งย้าย สามนายพลออกจากตำแหน่ง โดยให้ไปช่วยราชการสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย  1.พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม  2.พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม  และ 3.พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์  เจ้ากรมเสมียนตรา ซึ่งทั้งสามมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายทหารปี 2555 ทั้งหมด  ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า พล.อ.อ.สุกำพล ได้ให้ พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม นั่งรักษาการแทน

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ รมว.กห.ได้ออกจากกระทรวงไปตั้งแต่เวลา 15.00 น. และระบุว่าจะให้สัมภาษณ์ถึงรายละเอียดในวันที่ 28 ส.ค.นี้

                 ขณะที่ พล.อ.เสถียร ยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องทำงาน

“มาร์ค”อัด“สุกำพล”เอาการเมืองเอี่ยวกองทัพ

                นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร  ให้สัมภาษณ์ในรายการฟ้าวันใหม่ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชลแนล ถึงกรณีที่มีการโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงกลาโหมก่อนที่จะมีคำสั่งย้ายปลัดกระทรวงกลาโหมว่า  พล.อ.อ.สุกำพล  สุวรรณทัต  รัฐมนตรีกลาโหม พยายามจะลากให้กองทัพนั้นมาเกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่ตลอด

                “คงจำได้ว่าพล.อ.สุกำพล เคยออกมาพูดว่ากองทัพไม่เอาประชาธิปัตย์ ซึ่งมันไม่เคยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนไหน มาคิดว่ากองทัพอยู่กับพรรคไหนเพราะกองทัพไม่มีพรรค กองทัพมีหน้าที่ปกป้องประเทศ แล้วก็ทำภารกิจของตนเองตามกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ แต่พอมาคิดเรื่องพรรค เรื่องพวก ปัญหามันก็จะเกิดขึ้น ฉะนั้นวันนี้รัฐบาลต้องตั้งหลักว่า ควรจะเคารพเจตนารมณ์ของกฎหมาย แล้วอย่าไปลากเอากลไก หรือสถาบันใด ๆ เข้ามาสู่เรื่องของการเมือง หรือผลประโยชน์เลย ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

                 นาอภิสิทธิ์ กล่าวว่า  สมัยเป็นนายกรัฐมนตรีเคยคุยเรื่องนี้ในสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และบอกว่า นโยบายต่าง ๆ ต้องมาทำความเข้าใจ แล้วก็ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล แต่ยืนยันว่าจะไม่เอาหน่วยงานความมั่นคงเข้ามาเกี่ยวข้องกับปัญหาทางการเมืองโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เสียระบบ และในที่สุดก็จะเป็นอันตราย

                 ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวการโยกย้าย ข้าราชการระดับสูง ในกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะปลัดกระทรวงนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นปลัดกระทรวง ก็ต้องเสนอเข้าครม. แต่โดยปกติ ก็จะเป็นดุลพินิจของเจ้ากระทรวงเป็นหลัก ยกเว้นมีข้อท้วงติงมีอะไรต่าง ๆ ชัดเจนขึ้นมา ส่วนจะกระทบต่อคุณธรรมและจริยธรรมของนายกฯหรือไม่นั้น คงไม่น่าจะเป็นปัญหาถ้าเป็นเรื่องนโยบาย และมีการรายงานของตัวผู้บังคับบัญชาขึ้นมาตามสายงาน แต่อย่าให้เป็นเรื่องของการเมือง

 

"ปชป." อัด "สุกำพล" ยับลุแก่อำนาจ ไม่รักษาศักดิ์ศรีกองทัพ

                นายโกวิทย์ ธารณา สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึงกรณีคำสั่งย้าย พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า ไม่คาดคิดว่ารัฐบาลนี้จะลุแก่อำนาจแทรกแซงโผทหารแล้วเมื่อถูกจับได้ว่าทำผิดขั้นตอนกลับไม่ปรับปรุง แต่กลับใช้อำนาจสั่งย้าย ถือเป็นการทำลายองค์กรทหาร และทำลายอนาคตของนายทหารดีๆ คนหนึ่ง ทั้งที่ พล.อ.เสถียร ควรจะปลดเกษียณอย่างสง่างามในตำแหน่งปลัดกลาโหมที่เหลือเวลาอีกประมาณ 1 เดือนเท่านั้น แต่รัฐบาลและนายกฯ กลับไม่ให้ความเป็นธรรม และไม่ทำตามนโยบายที่แถลงต่อสภาว่าจะใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศ ซ้ำยังไม่ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ใช้ความรู้สึกมาตัดสิน ถามว่านี่หรือคือหลักที่ผู้บริหารแผ่นดินที่ดีได้ยึดถือและใช้กัน

                “อยากถามรัฐมนตรีกลาโหมว่า ตัวท่านเองก็เคยเป็นนายทหารมาก่อน แต่พอย่างเข้าวงการเมืองกลับไม่รักษาศักดิ์ศรีของกองทัพ และนอกจากจะไม่ปกป้องต่อสู้ให้องค์กรแล้ว ยังใช้วิถีทางทางการเมืองเข้ามาแบ่งแยกกองทัพ ทำให้อ่อนแอลงเช่นนี้ ชายชาติทหารเขาไม่ทำกัน และผมก็อยากถามนายกฯ เช่นกันว่า การสั่งย้ายพล.อ.เสถียรในครั้งนี้ถือเป็นการลุแก่อำนาจหรือไม่ และสวนทางกับคำว่าประชาธิปไตยที่รัฐบาลเรียกร้อง การใช้อำนาจเช่นนี้จะเป็นการสร้างปัญหาความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เปรียบแล้วเหมือนไฟสุมขอน หรือจะเป็นการย้ายเพื่อเป็นตัวอย่างไม่ให้ข้าราชการกล้าท้วงติงในการบริหารแผ่นกดินของรัฐบาลใช่หรือไม่” นายโกวิทย์ กล่าว

"สมเจตน์"  ชี้ "สุกำพล" เปิดฉากความขัดแย้ง "รัฐบาล - กองทัพ" หลังเด้ง "เสถียร"
               
               พล.อ.สมเจตน์  บุญถนอม สว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนามคำสั่งให้ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ไปช่วยราชการสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหมว่า  ว่า ตนยังไม่ทราบข้อมูลว่าเป็นข้อเท็จจริงตามข่าวที่ปรากฎหรือไม่ แต่ตนมองว่าหากประเด็นนี้เกิดขึ้นจริง จะเท่ากับเป็นการเปิดฉากความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและกองทัพ และอาจจะสร้างวิกฤตให้กับรัฐบาล ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้อีกรอบ ส่วนเหตุผลการออกคำสั่งดังกล่าวหากเป็นประเด็นกรณีที่ พล.อ.เสถียร คัดค้านการตั้ง พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาทหารบก มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมจริง ตนมองว่า อนาคตฝ่ายการเมืองอาจจะลงนามคำสั่งโยกย้าย ผู้นำเหล่าทัพใดๆ ก็ได้ เนื่องจากได้มีการสร้างบรรทัดฐานใหม่ คือ การสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่น ทั้งที่บุคคลนั้นไม่ได้กระทำความผิด

              "ตนสนับสนุนการกระทำของ พล.อ.เสถียร ที่ทำหนังสือร้องเรียนต่อนายกฯ  เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับการเข้ามาล้วงโผของกองทัพโดยฝ่ายการเมือง ซึ่งตามหลักการแล้วการตั้ง พล.อ.ทนงศักดิ์ ที่ถือว่าไม่ได้อยู่ในอัตราจอมพลมาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมไม่สามารถทำได้" พล.อ.สมเจตน์ กล่าว