ข่าว

พท.รับค่าแรง300ทั่วปท.ไม่ได้ทันที

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ปลอดประสพ' รับแล้ว ขึ้นค่าแรงทั่วปท. 300 บ. ทำไม่ได้ในทันที โอด มีแค่บางจว. ได้เต็ม 300 โบ้ย แค่พูดหาเสียง

          นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศว่า อยากบอกว่าตัวเลข 300 บาทนั้นเป็นจำนวนที่เราวิเคราะห์กันแล้วว่า แรงงานสามารถอยู่รอดได้ และสาเหตุที่ต้องขึ้นให้ทั่วประเทศนั้น เนื่องจากไม่ต้องการให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานทะลักเข้ามาในกทม.

          นายปลอดประสพ กล่าวว่า เราต้องการให้แรงงานกระจายอยู่ทั่วประเทศ อยู่ที่บ้านเกิด และเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้วยเพราะได้อยู่กับครอบครัว ทำให้สถาบันครอบครัวเข้มแข็ง และยังเป็นการกระจายความเจริญสู่ต่างจังหวัดด้วย เพราะแรงงานจะไม่ไหลออกจากถิ่นกำเนิด เป็นการพัฒนาให้เกิดเมืองหลวงภูมิภาค เช่น ขอนแก่น สงขลา ภูเก็ต เชียงใหม่ และนครสวรรค์

          ส่วนขั้นตอนในการดำเนินการนั้นมีอยู่ 2 ขั้นตอนคือ 1.ทำให้ได้พร้อมกันทั่วประเทศ และเร็วที่สุด และ 2.ทำในบางพื้นที่ก่อน

          อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า นโยบายดังกล่าว จะไม่มีการยกเลิกแน่นอน และเป้าหมายเราไม่ใช่อยู่ที่ 300 บาทเท่านั้น แต่อยู่ 1,000 บาทในอีก 9 ปีข้างหน้าด้วย

          "ที่เราหาเสียงไว้ว่า จะทำทั่วประเทศ และทำทันทีนั้น ในความเป็นจริงแล้ว คงทำไม่ได้ เพราะต้องเข้าใจด้วยว่า นั่นเป็นการพูดเพื่อหาเสียง แต่ทั้งหมดนั้นก็เป็นสิ่งที่เราตั้งใจจะทำให้ได้ โดยเบื้องต้นที่ทำได้แน่นอน หลังจากได้เป็นรัฐบาลเรียบร้อยแล้วคือ ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน จะมีบางจังหวัดที่ได้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทแน่นอน"

          ทั้งนี้ ระยะเวลาเป้าหมายของเรา คือภายใน 1 ปีจะทำได้ทั่วประเทศ ส่วนหลักเกณฑ์ในการเลือกจังหวัดที่ได้เพิ่มค่าแรงก่อนนั้น อาจจะดูจากรายได้ประชากร จำนวนแรงงาน ผู้ประกอบการ และสภาพเศรษฐกิจของจังหวัดนั้น ๆ เราพร้อมฟังคำติติง และคำแนะนำของนักวิชาการทุกเรื่อง ยืนยันว่าเรื่องนี้ เป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ในเรื่องของรายได้และเศรษฐกิจ

 

อ้าง ต้องรับฟังนักลงทุน-ภาคธุรกิตเอกชนด้วย

 

          ด้านนายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เราต้องรับฟังนักลงทุน และภาคธุรกิจเอกชน แล้วมาคิดระบบปรับโครงสร้างค่าแรงขั้นต่ำให้ยืดหยุ่นที่สุด โดยอาจจะดูว่า จังหวัดไหนทำได้ทันที เช่น กทม.และปริมณฑล หรือจังหวัดที่มีค่าแรงไม่ห่างจาก 300 บาทมากนัก หรือจังหวัดแหล่งท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต พัทยา และสมุย

          "เราจะต้องดูในรายละเอียด เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาคธุรกิจมากเกินไป SME ธุรกิจขนาดย่อม เราก็ต้องดูผลกระทบว่า มีอะไรบ้าง จะมีมาตรการอะไรช่วยได้บ้าง นอกจากการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30 % เหลือ 23 % ในปี 2555 และ จาก 23 % เหลือ 20 % ในปี 2556"

          อย่างไรก็ตาม อาจมีบางจังหวัดที่ได้ขึ้นค่าแรงเต็ม 300 บาท แต่บางจังหวัดอาจยังขึ้นไม่ถึง 300 บาท ซึ่งในกลุ่มจังหวัดที่ยังได้ไม่ถึง 300 บาท ก็จะต้องมีมาตรการอื่นมาช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้แรงงานไหลออกไปอยู่ในจังหวัดที่ได้ค่าแรง 300 บาทด้วย โดยอาจจะเป็นมาตรการสร้างขีดความสามารถในการผลิต หรือการยกระดับฝีมือแรงงาน

          ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีข้อห่วงใยจากหลายหน่วยงาน เช่น สภาอุตสาหกรรม ที่เป็นห่วงเรื่องการเพิ่มค่าแรง โดยเสนอว่า หากมีการปรับค่าแรงจริง ภาครัฐจะต้องเข้ามามีส่วนช่วยในการแบกรับภาระในการอุดหนุนส่วนต่าง

 

เตรียมเชิญ สภาอุตฯ-หน่วยงานต่าง ๆ ร่วมให้ความเห็นต่อนโยบาย

 

          นายคณวัฒน์ กล่าวว่า พรรครับฟังและเห็นใจสภาอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม หากพรรคจัดทำร่างนโยบายเสร็จสิ้นแล้วจะเชิญสภาอุตสาหกรรมและหน่วยงานอื่นๆ มาขอความเห็นในร่างนโยบายที่เราได้ดำเนินการด้วย และจะพูดคุยกับภาคธุรกิจด้วย

          "การดำเนินนโยบายดังกล่าว อาจจะต้องมีการปรับปรุง ในเรื่องของเม็ดเงินงบประมาณปี 2555 ให้ตรงกับยุทธศาสตร์ของพรรคด้วย เพราะกรอบงบประมาณ ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ร่างไว้ และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา มีหลายนโยบาย ที่ไม่ตรงกับแนวนโยบายของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นพรรคจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนงบประมาณ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายด้วย"

          สำหรับความกังวลว่า อาจจะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น ยอมรับว่า ในช่วงแรกอาจจะมีแรงกดดัน ที่ส่งผลทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่จะเป็นเพียงแค่ในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น หลังจากนั้น เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลได้

          ทั้งนี้ ปัจจุบันเงินเฟ้อเป็นผลมาจากต้นทุนการผลิต ที่วัตถุดิบและพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่ได้เกิดจากการบริโภคเกินตัว หรือปัจจัยทางด้านอุปสงค์ ทั้งนี้ ในส่วนของแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในการทำนโยบายนั้นจะมาจาก 3 ส่วนหลักคือ 1.งบประมาณประจำปี 2.การออกพันธบัตร และ3.เงินลงทุนจากต่างประเทศ โดยจะเป็นการเติมเงินเพื่อกระตุ้นการซื้อในประเทศ

          "มั่นใจว่า จะทำให้การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ หรือจีดีพี ในไตรมาสสุดท้ายนั้น ดีกว่าที่หลายฝ่ายประเมินไว้อย่างแน่นอน"

          อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการประเมินผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจขอ งกลุ่ม EU และปัญหาหนี้สินของสหรัฐอเมริกา ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยด้วย

 

เผย "โอฬาร" จัดทำสูตรมาตรฐานราคาสินค้า แก้ของแพง

 

          สำหรับนโยบายเร่งด่วน ในการแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพงนั้น ขณะนี้นายโอฬาร ไชยประวัติ หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย อยู่ระหว่างการจัดทำสูตรมาตรฐานราคาสินค้าประมาณ 40 รายการ เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ในการควบคุมโครงสร้างต้นทุน เพื่อกำหนดราคาสินค้าในอนาคต

          ทั้งนี้ ในวันอังคารที่ 19 ก.ค.นี้ คาดว่า นายโอฬาร น่าจะรวบรวมสูตรมาตรฐานราคาสินค้าได้ประมาณ 10 รายการในเบื้องต้น เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายของพรรคเพื่อไทย

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ