รู้ยัง?? "เสี่ยโต้ง" ว่าที่เลขาฯพรรคชาติไทยพัฒนา
เปิดตัว... "เสี่ยโต้ง - สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ" ว่าที่เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนายุคที่จะมีหัวหน้าพรรคชื่อ "วราวุธ ศิลปอาชา"
ชัดเจนแล้วว่าจะเป็นคนนี้ “สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ” ที่จะก้าวมาทำหน้าที่เป็นแม่บ้านพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ในยุคผลัดใบ ที่จะมี “วราวุธ ศิลปอาชา” เป็นหัวหน้าพรรค
อาจจะมองได้ว่า “พลิกโผ” เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสออกมาว่า คนที่จะมาเป็นเลขาธิการพรรคอาจจะเป็น “ภราดร ปริศนานันทกุล” ทายาท “สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล” คนสนิท “บรรหาร” อดีตหัวหน้าพรรค
แต่หากเป็นเช่นนั้น คงจะตอกย้ำว่าพรรคชาติไทยพัฒนาเป็น “พรรคภาคกลาง” เป็นพรรคที่อยู่แค่สุพรรณบุรีกับอ่างทอง ยิ่งไปกว่านั้น คงจะถูกมองว่าพรรคชาติไทยพัฒนามีแค่ตระกูล "ศิลปอาชา” และ “ปริศนานันทกุล” เท่านั้น
ไม่แปลกถ้าหลายคนจะไม่คุ้นชื่อ “เสี่ยโต้ง - สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ” เพราะเขาคนนี้เข้ามาเป็น ส.ส. ได้ไม่ถึง 1 สมัย
“สิริพงศ์” ได้เข้ามาเป็น ส.ส.ครั้งแรกในการเลือกตั้งเมื่อ 23 ธันวาคม 2550 เขาเป็น ส.ส.ศรีสะเกษ อยู่ได้ไม่ถึง 1 ปีก็ต้องพ้นจากการเป็น ส.ส. หลังจากพรรคชาติไทยถูกยุบไปพร้อมกับพรรคพลังประชาชน และพรรคมัชฌิมาธิปไตย เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551 เขาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปด้วยเพราะเป็นกรรมการบริหารพรรค
ความจริง “สิริพงศ์” เข้าสู่การเมืองครั้งแรกตั้งแต่ปี 2548 ตอนนั้นเขาอายุ 28 ปี โดยลงสมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ ครั้งนั้นเขาสอบตก แต่ “บรรหาร” ชวนเขามาทำงานในพรรคและได้เป็นกรรมการบริหารพรรค
ตระกูลของ “สิริพงศ์” เป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่ศรีสะเกษมายาวนาน พ่อของเขา คือ “ฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ” เป็นนายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษมาตั้งแต่ปี 2527
เขาบอกว่า ตอนที่จะเข้าสู่การเมืองครั้งแรกมีหลายพรรคมาจีบ ทั้งไทยรักไทย ประชาธิปัตย์ มหาชน และชาติไทย แต่เขาตัดสินใจเลือกพรรคชาติไทย เพราะ พรรคชาติไทยไม่ใช่พรรคใหญ่ และไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ที่สำคัญเชื่อว่าหากอยู่ในพรรคชาติไทยจะทำให้เสียงของเขาไปถึงผู้ใหญ่ในพรรค กระแสพรรคไม่แรงมาก จึงจะสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ได้ แต่ถ้าอยู่พรรคที่กระแสแรง กระแสพรรคจะมาก ลบความเป็นตัวเอง และอาจจะถูกพรรคครอบ
ช่วงที่เขาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เขาเพิ่งอายุ 31 ปี
จากนั้น “สิริพงศ์” หรือ “เสี่ยโต้ง” ก็หันไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำธุรกิจโรงพยาบาล และอีกหลายอย่าง ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก และได้รับเลือกให้เป็นประธานหอการค้าศรีสะเกษตอนอายุ 32 ปี ซึ่งน่าจะเป็นประธานหอการค้าที่อายุน้อยที่สุด
เขาเป็นประธานหอการค้าอยู่ 2 สมัย (4 ปี) ในช่วงท้ายเขาได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมกีฬาศรีสะเกษด้วย หลังจากเข้าไปจัดอีเวนท์เกี่ยวกับเรื่องกีฬาในจังหวัด และหลังมีกฎหมายกีฬาฉบับใหม่ในปี 2558 เขาก็ได้รับเลือกเป็นตัวแทนของนายกสมาคมกีฬาจากทั่วประเทศ เข้าไปเป็นบอร์ดการกีฬาแห่งประเทศไทย
“สิริพงศ์” เล่าว่า ตอนนั้นเขาต้องแข่งกับคนดังอีกหลายคนรวมทั้ง “พูนผล อัศวเหม” และ “ร.อ.มนัส พรหมเผ่า”
“เสี่ยโต้ง” ตัดสินใจวกกลับสู่การเมืองอีกครั้ง หลังจากได้รับทาบทามให้มาเป็น “เลขาธิการพรรค” ซึ่งเขาเปิดเผยกับ “คม ชัด ลึก” ว่า ได้รับการติดต่อจาก “วราวุธ” เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว
เขาบอกว่า ตอนแรกก็ชั่งใจออยู่พักหนึ่ง เพราะก็ต้องถือว่าตอนนี้เขาประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจพอสมควร ในที่สุดก็ตัดสินใจเพราะความคิดหนึ่งที่มีอยู่ในตัวคือ อยากทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ และเชื่อว่าการเป็นนักการเมืองจะทำให้มีโอกาสนำสิ่งที่พูดหรือสิ่งที่คิดไปกำหนดเป็นนโยบายเพื่อช่วยสังคมได้
สำหรับเป้าหมายในการเข้ามาเป็นเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนานั้น “สิริพงศ์” บอกว่า “อยากทำพรรคชาติไทยพัฒนาให้เป็นพรรคทางเลือกที่สาม ในอดีตที่ผ่านมาเป็นการต่อสู้กันของ 2 ขั้วการเมืองและแทบไม่มีพรรคที่เป็นทางเลือก ในอนาคตไม่ว่าจะมีวิกฤติหรือไม่ก็ตาม เราอยากให้มองว่าพรรคชาติไทยพัฒนาคือทางเลือกที่สาม ต้องการให้นักการเมืองพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นนักการเมืองที่พูดแทนประชาชน เป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพในการอภิปราย ในการทำงานในสภา ซึ่งก็ต้องใช้เวลา”
สำหรับตัวเลข ส.ส.ที่ตั้งเป้าไว้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นอกจากเป้าหมาย ส.ส.ทั้งหมดประมาณ 30 คน เช่นเดียวกับที่ว่าที่หัวหน้าพรรคบอก ว่าที่เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งจะต้องสวมบทบาท “แม่ทัพ” ของพรรคในภาคอีสาน บอกว่า เป้าหมายที่อีสานคือส.ส.เขตประมาณ 7 ที่นั่ง และคะแนนสำหรับ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อีกประมาณ 5-6 คน
รอดูผลงานการเมืองของเขาว่าจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับการทำธุรกิจหรือไม่
====================
โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
"ท็อป" หัวหน้า "โต้ง" เลขาฯ พรรคชาติพัฒนาโฉมใหม่
