Lifestyle

"ตูน" บุคคลแห่งปี ทำไมจะไม่ใช่เขา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ความเชื่อ" ของตูน ได้ทำให้เขากล้าที่จะริเริ่มคิด และกล้าที่จะไม่หยุดทำ!

         

          ในที่สุด เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา “ตูน” และ “ทีมก้าวคนละก้าว” สามารถวิ่งไปถึงจุดหมายปลายทาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้ตามกำหนดทุกอย่าง!

 

          และสำหรับ “ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย” ในวินาทีที่เขาได้ก้าวเท้าลงไปบนจุดที่เป็นสัญลักษณ์ว่าคือ “เส้นชัย” แม้ว่าสีหน้าของเขาในช่วงเวลานั้น จะราบเรียบ แต่ในแววตาล้วนเต็มไปด้วยประกายแห่งความสุข!

 

          ย้อนกลับไปในวันที่ตูนคิดทำโครงการนี้ หลังจากที่เขาสร้างประวัติศาสตร์พิชิตระยะทาง 400 กิโลเมตร จากกรุงเทพสู่บางสะพาน ภายในระยะเวลา 10 วัน เพื่อระดมทุนช่วยเหลือโรงพยาบาลบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

          แต่ตูนเหมือนจะรู้ว่า “ลิมิต” ของตัวเองไม่ได้มีแค่นั้น เขาจึงท้าทายมันด้วยการ “ไปต่อ”

 

          โดยประกาศระดมทุน 700 ล้านบาท ในโครงการ “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” วิ่งจากใต้สุดที่ อ.เบตง จ.ยะลา สู่เหนือสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมระยะทาง 2,191 กม.พร้อมลั่นจะใช้เวลา 55 วัน!!

 

          จุดสตาร์ทวันแรก “ก้าวแรก” ตรงกับวันพุธที่ 1 พ.ย. 2560 เวลา 06.00 น. ที่ “ป้ายใต้สุดแดนสยาม” ปากอุโมงค์เบตง มงคลฤทธิ์ อ.เบตง จ.ยะลา ท่ามกลางกองทัพนักข่าวและประชาชนที่มาลุ้น มาเชียร์การวิ่งของตูนอย่างคับคั่ง และตลอดระยะทางทั้งสองพันกว่ากิโล มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หยาดเหงื่อ แรงกดดัน และ คราบน้ำตา ราวกับว่าเป็นการเดินทาง “ทั้งชีวิต” ของคนๆ หนึ่ง! ที่ Zip ไว้เพียง 55 วัน!

         

         และที่สุด...จาก 2,000 กิโลเมตร เหลือ 20 เมตรสุดท้ายที่เวลา 18.13 น. ของวันนั้นเอง ตูนและทีมงานวิ่งไปจนถึงที่หมายปลายทางหน้าด่านพรมแดนไทยเมียนมา อ.แม่สาย ซึ่งมีการจัดเตรียมเวทีรออยู่ ท่ามกลางการรอต้อนรับของประชาชนที่ต้องเรียกว่า “มหาศาล!!”

 

          โดยยอดเงินบริจาค ยังคงหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดระยะ ทั้งการบริจาคของผู้ใจบุญทั้งหลาย ที่ทยอยขึ้นมารับมอบกันบนเวที และจากช่องทางการบริจาคอื่นๆ ตามที่กำหนดไว้

 

          จนกระทั่งเพจก้าว ได้รายงานตัวเลขช่วงเย็นวันนั้น ระบุยอดเงินบริจาคอยู่ที่ 1,101,253,637.60 บาท รวมระยะทาง 2,198.82 กิโลเมตร จำนวน 55 วัน รวมเวลา 383.39.01 ชั่วโมง!

 

          วันนั้น ตูนกล่าวบนเวทีว่า “รู้สึกตื้นตันใจ และขอขอบคุณทุกคนที่ให้การช่วยเหลือเป็นข้าวและน้ำมาตลอดรายทางตั้งแต่ภาคใต้ถึงภาคเหนือ หากว่าพี่น้องชาวไทยไม่ช่วยเราคงไม่สามารถทำได้สำเร็จแน่นอน”

 

          พร้อมบอกว่า หากว่ายังมีแรงอยู่ ก็จะหาวิธีช่วยเหลือโรงพยาบาลอื่นๆ ต่อไป และจะทำอัลบั้มใหม่เพราะวงบอดี้สแลมยังไม่ได้ทำมา 4 ปีแล้ว!

 

          นับเป็นความสำเร็จเกินกว่าคำว่าสำเร็จ!! ที่ต้องขอยกให้ตูน เป็นบุคคลแห่งปีในปี 2560 นี้

 

          และทำไม่จะไม่เป็น “ตูน” ล่ะ

 

          เพราะหากดูจากเนื้อเพลงของวงบอดี้สแลมที่ว่า

 

           "ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม แต่มันก็ดีที่อย่างน้อย ได้จดจำว่าครั้งนึงเคยก้าวไป แค่คนที่เชื่อในความฝัน จะเหน็ดจะเหนื่อยก็ยังต้องเดินต่อไป"

 

          ก็น่าคิดตามที่มีคนเคยกล่าวว่า หากจะดูคน ให้ดูเพลงที่เขาฟัง หากจะรู้จักศิลปิน ให้ดูเพลงที่เขาเล่น

 

          สำหรับ “ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย” ศิลปินแห่งวงบอดี้สแลม ได้ถ่ายทอดตัวเองออกมาเหมือนกับบทเพลง “ความเชื่อ” ของเขาข้างต้น

 

          ดังนั้น ในขณะที่หลายค่าย หลายโพลล์ ยกตูนเป็น "บุคคลแห่งปี" หรือแม้แต่พระดัง อย่าง ว.วชิรเมธี ก็ยกให้เขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งปีนี้!

 

          สำหรับ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ก็คงต้องขอยกย่อง “ตูน” ให้เป็น “บุคคลแห่งปี 2560” ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย และสามารถตอบได้เลยว่า...ทำไมจะไม่ใช่ตูน?

 

          แต่หากจะเอาเหตุผลให้ชื่นใจ เห็นกันเป็นลายลักษณ์อักษร ก็ต้องบอกว่า เพราะสิ่งที่ตูน “ทำ” หรือสิ่งที่ตูน “เป็น” ล้วนมาจาก “ความเชื่อ” ของคนชื่ออาทิวราห์คนนี้

 

          “ความเชื่อ” ของตูน ได้ทำให้เขากล้าที่จะริเริ่มคิด และกล้าที่จะไม่หยุดทำ!

 

          เพราะหากตูนไม่เชื่อว่าตัวเองทำความฝันให้เป็นจริงได้ และหยุด! ตัวเองจากการเล่นดนตรี การร้องเพลง กลับไปทำงานในเส้นทางเดิม วันนี้คนไทยจะไม่ได้เห็น “ตูน บอดี้แลม” ในฐานะรอกเกอร์ผู้มากความสามารถ

 

          หากตูนไม่เชื่อว่า ความสำเร็จในเส้นทางดนตรี ยังสามารถนำไปต่อยอดส่งต่อให้กับคนอื่นๆ ได้ แล้วหยุดตัวเองไว้ที่คำว่า “คนเก่ง คนดัง” เราก็จะไม่ได้เห็นโครงการก้าวคนละก้าวฯ ที่ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวิธีการระดมทุนแบบที่ตัวศิลปินลงมาคลุกเอง ลุยเอง ซึ่งน่าจะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ให้กับสังคมไทยต่อไปในวันข้างหน้า 

         

          และหากตูนไม่เชื่อในความตั้งใจของตนเอง แล้วหยุด! ให้กับคำทักท้วง และแรงกดดัน วันนี้เราจะไม่ได้เห็นปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ ที่เกิดขึ้นกับคนไทยตลอดช่วงเวลา 55 วัน เมื่อทุกคนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวเพื่อส่งกำลังใจไปถึงเขา

 

          สุดท้ายหากตูนไม่เชื่อในพลังของตนเอง แล้วหยุด! เมื่อต้องเจอกับความเจ็บปวดภายของร่างกาย วันนี้เราอาจจะไม่ได้เห็นว่า เรื่องบางเรื่องที่เกินขีดความสามารถของมนุษย์ และเป็นไปได้ยากยิ่ง แต่วันนี้มันเป็นไปแล้ว! กับก้าวแรกจากเบตง ลงก้าวสุดท้ายที่แม่สาย ภายใน 55 วัน!

 

          ซึ่งกับคำถามที่ว่า พี่ตูนทำเวลาได้ตรงตามกำหนดได้ยังไง คำตอบคือตูนเองที่เป็นตัวการสำคัญ ในการวางแผน “ทดเวลา” การวิ่ง ด้วยวิธีง่ายๆ คือ แค่ต้องตื่นให้เช้าขึ้น!

 

          อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าจะมีสิ่งเดียวที่หยุดตูนได้ คือ รอยยิ้มของคนไทยในสองข้างทางที่ส่งมา เวทีของเด็กน้อยที่ตั้งคอยท่า ที่ดูเหมือนตูนจะมีความเชื่ออย่างสุดขั้วหัวใจว่า พวกเขาคือขุมพลังงานสำรองที่จะผลักดันให้ตนเองทำได้สำเร็จ ดังนั้นเมื่อ่ไหร่ที่ตูนผ่าน ก็จะต้องแวะ หยุดทักทาย และร่วมเล่นร่วมร้องอย่างไม่มีคำว่าเหน็ดเหนื่อย!

 

          ที่สำคัญคือ ตูนยังได้ปลูกสร้างให้หัวใจคนไทยมี “ความเชื่อ” ในความฝันและพลังของตนเองเช่นเดียวกัน

 

          และสิ่งนี้เอง ที่ยิ่งทำให้เราไม่ลังเล...ที่จะยกให้ตูนเป็นบุคคลแห่งปี 2560 นี้!

 

*****************//***************

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ