Lifestyle

ปี่กลองดัง! “ไพบูลย์” มือปราบมาร เอาไง..พรรคหนุนลุงตู่?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คนนี้นะ! จะเรื่องร้อนอะไรของสงฆ์เป็นต้องเจาะเข้าไปหมด จนมาถึงหนนี้ ที่บ้านเมืองอยู่ในบริบทของ "การปฏิวัติวงการสงฆ์" แน่นอนจะขอร่วมขบวนการด้วยทุกกรณี !

               ตามติดเรื่องปฏิรูปพระสงฆ์ไทยมาตลอด วันนี้วงการสงฆ์ร้อน คนคนนี้ก็ยิ่งร้อนจะจัดการให้สำเร็จเข้าไปอีก

               จากข่าวล่าสุดที่ว่าจะมีการจัดทำบัญชีวัด โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เสนอมาว่าควรทำเป็นรูปแบบบัญชีรายรับ-รายจ่าย เหมือนกับบัญชีครัวเรือนทั่วไป และที่ประชุมมหาเถรสมาคม ก็เห็นชอบ

               อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” คนนี้มีหรือจะไม่หนุน

               แน่นอนเรื่องนี้มาพร้อมกับกรณีที่เจ้าคณะปกครองสงฆ์ทำหนังสือถึงเจ้าคณะในปกครองเพื่อแจ้งวัดทั่วประเทศให้ปฏิบัติตามธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ห้ามจำหน่ายพระบูชา วัตถุมงคล เทวรูปต่างๆ ห้ามปลุกเสกพระเครื่อง ฯลฯ คือ ห้ามอีกมากมายที่ไม่เหมาะสม

               ซึ่งเรื่องนี้ ไพบูลย์ นิติตะวัน คนนี้ในฐานะประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป ก็ออกมาปรบมือชื่นชมว่า มาตรการของเจ้าคณะปกครองสงฆ์คราวนี้เป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก

               ว่าแล้วบอกเลย แค่นั้นไม่พอ ควรต้องให้วัดทำบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายที่เปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้ด้วย ทั้งหมดก็เพื่อผลดีแก่ทุกฝ่าย เพราะก็อย่างที่บอกว่า ตามติดมานานแล้วกับการปฏิรูปวงการสงฆ์ไทย อย่างเรื่องนี้เจ้าตัวก็เคยดันมาก่อนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา

               แม้ว่าไพบูลย์ จะพ้นไปจากเก้าอี้ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มาแล้ว ก็ยังไม่ยุติบทบาท จนบางคนอดสงสัยไม่ได้ว่า ไพบูลย์คนนี้ไปมีเรื่องกับพระสงฆ์ไทย มาแต่หนไหน

               แฟนคลับจะรู้ดีว่า ถ้าไม่นับที่เขาเคยสนับสนุนให้มีภิกษุณี ที่มหาเถรสมาคมไม่ขานรับแล้ว ย้อนไปราวปีสองปีก่อนหลายคนคงจำได้ ตั้งแต่ช่วงที่เป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ คงด้วยความเหมาะสม ไพบูลย์ได้รับมอบหมาย ตรวจสอบกรณีพระลิขิตสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ที่มีพระวินิจฉัยว่าพระธัมมชโยได้ปาราชิกไปแล้ว

               ครั้งนั้น เป็นประเด็นจนนำมาสู่การเรียกร้องให้พระธัมมชโยปาราชิกไปตามพระวินิจฉัยของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

               หลังจากนั้นช่วงต้นปี 2559 ไพบูลย์ได้ร่วมกับเครือข่ายปกป้องพระเกียรติพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช และเครือข่ายสตรีปกป้องพระพุทธศาสนา ออกมาคัดค้านการแต่งตั้ง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เป็นสังฆราชองค์ใหม่ เพราะอาจจะมีเรื่องเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือพระธัมมชโยไม่ต้องปาราชิก

               และก็เป็นไพบูลย์ คนนี้นี่แหละที่ได้ยื่นหนังสือต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบกรณีที่เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช และประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ครอบครองรถเบนซ์หรูจดประกอบ รุ่น W186 จำนวน 1 คัน มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

               อย่างเรื่องล่าสุดกับการเปิดบัญชีรายรับรายจ่ายวัด จำได้หรือไม่ ว่าเขาเคยเดินเรื่องมาแล้ว โดยทำหนังสือถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ระบุว่า รู้นะว่า มหาเถรสมาคมได้มีมติที่ 40/2558 ให้วัดทุกแห่งทั่วประเทศ จัดทำรายงานบัญชีทางการเงินและทรัพย์สินของแต่ละวัด โดยให้จัดส่งมาให้ พ.ศ.เก็บรักษาไว้ ตามปีงบประมาณ พ.ศ.2558 และ พ.ศ.2559

               จากนั้นระบุประมาณว่า ก็ถ้าเอกสารดังกล่าวมิใช่ข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐหรือเป็นความลับของทางราชการ ดังนั้น จึงขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ขอถ่ายสำเนาได้หรือไม่ !!

               แถมยังเคยพูดกับมหาเถรสมาคมว่า ถ้ามหาเถรสมาคมยึดมั่นในหลักพระธรรมวินัยจริง ทำไมไม่ห้ามเรื่องเกี่ยวกับพระภิกษุรับเงิน ซึ่งเป็นหลักของพระธรรมวินัยด้วย ทำไมทำเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ทำเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นหลักสำคัญด้วย เพราะพระพุทธเจ้าบอกว่าเงินเป็นอสรพิษของพระภิกษุ

               พูดไปพูดมา เลยถึงขั้นว่าเสนอให้มีการออกกฎหมายเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินวัด โดยให้ทุกวัดจัดทำบัญชีทรัพย์สินและเปิดเผยต่อสาธารณะเสียเลย !!

               ตอนนี้ไม่มีข่าวว่ากระไร แต่บทบาทของไพบูลย์ไม่เคยหยุดนิ่ง พอข่าวทุจริตเงินทอนวัดร้อนขึ้นมา เขาก็ลุยต่อ เดินหน้าทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อให้ตรวจสอบว่า ในจำนวนการทุจริตที่เกิดขึ้นกับ 12 วัดนั้น เจ้าอาวาสทั้ง 12 วัดสมรู้ร่วมคิดด้วยหรือไม่

               เรียกได้ว่า ไม่ว่าเรื่องร้อนอะไรของสงฆ์เป็นต้องเจาะเข้าไปหมด จนมาถึงหนนี้ที่บ้านเมืองอยู่ในบริบทของการปฏิวัติวงการสงฆ์ แน่นอนจะขอร่วมขบวนการด้วยทุกกรณี !

               อย่างที่บอกว่า บางคนสับสนว่าทำไมเขาเอาจริงเอาจังกับวงการพระไทยมากมายขนาดนี้ แต่ที่จริงวงการอื่นไพบูลย์ก็มีแผน

               จำได้หรือไม่ที่เขาประกาศตั้งพรรคการเมืองเมื่อสิงหาคมปีก่อน ชื่อว่า “พรรคประชาชนปฏิรูป”

               แถมยังยอมรับตรงๆ ว่า เพื่อเป็นเครื่องมือของประชาชนในการสนับสนุนให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกฯ หลังเลือกตั้ง เพราะเชื่อในความเป็นคนดีมีความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริต

               บางคนบอกก็แน่ล่ะสิ ไพบูลย์มากับ คสช. ถ้าจะไปทำอะไรจากนี้ ก็ต้องเอาด้วยกับ คสช. ถึงขนาดหาญกล้าประกาศตั้งพรรค ทั้งที่บ้านเมืองยังอยู่ในช่วงกฎหมายพิเศษ ห้ามมีกิจกรรมการเมือง

               อย่างไรก็ดี ปรากฏว่าช่วงนี้ ข่าวคราวพรรคการเมืองของเขาเงียบๆ ไป พอๆ กับข่าวคราวของโรดแม็พที่ยังวนเป็นบันไดงู หาที่ลงไม่เจอ

               บางที อดีตสมาชิกวุฒิสภาคนนี้ อาจยุ่งๆ อยู่กับการทะลวงวงการสงฆ์ให้เข้าที่เข้าทาง หรืออาจจะรู้วงในก็ได้ ว่าเรื่องการเมือง หรือแผนเลือกตั้ง...ไม่ต้องรีบแล้ว !

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ