Lifestyle

ลีลาแพรวพราว “พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส” มือปราบหรือมือฟอก?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส” มือปราบหรือมือฟอก กันยายนนี้ จะได้ไปต่อหรือไม่??

 

                 คนไทยเวลานี้ จะทั้งรักทั้งชัง เชื่อว่าจะหายใจเข้าออก นึกถึงแต่วันที่ 25 สิงหาคม อันเป็นวันพิพากษาคดีจำนำข้าว ซึ่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็น “จำเลย” และพิพากษาคดีทุจริตการซื้อขายข้าวแบบจีทูจี ที่มี บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวกอีก 28 คน เป็น “จำเลย”

                 แต่กับฝ่ายพลพรรคเพื่อไทย ก็อย่างที่เห็นกัน เวลานี้ปรากฏว่ามีความเคลื่อนไหวถี่ขึ้นเรื่อยๆ บางคนถึงขนาดบอกว่า ดูแล้วร้อนรน เก็บอาการไว้ไม่ค่อยอยู่

                 คือเรื่องที่ ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตรมต.เกษตรฯ ฝั่งพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบการระบายข้าวของรัฐบาล ได้ออกมาตีฆ้องร้องป่าวเรื่องการระบายข้าวของ "รัฐบาลลุงตู่" น่าสงสัย และน่าเชื่อว่ามีการนำข้าวคนไปขายในราคาข้าวสัตว์

                 และเกรงว่าจะมีการเล่นแร่แปรธาตุ นำข้าวที่ประมูลได้ไปเวียนเทียนขายให้คนบริโภค ซึ่งจะเป็นการทำลายตลาดข้าวไปโดยปริยาย

                 ว่าแล้วจึงได้ยื่นหนังสือไปยังหน่วยงานต่างๆ และเตรียมยื่น ป.ป.ช.อีกด้วย พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคดีนายกฯ ยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะ “สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน” (สตง.) ของ พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส นี่แหละ ที่ถือว่ารับเรื่องมาโดยตรง

                 แต่ดูจากลีลาล่าสุดของเขา ปรากฏว่าเจ้าตัวบอกเลย ไม่พบอะไรในยุ้งข้าว !!คือหลังจาก สตง.ตรวจสอบการระบายข้าวของรัฐบาล ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรเครือข่ายภาคอุตสาหกรรมไปร่วมตรวจสอบด้วย ก็ไม่พบอะไรที่บ่งบอกถึงความไม่ชอบมาพากล ทุกขั้นตอนมีความสมเหตุสมผล

                 ทั้งนี้ การจัดเกรดข้าวเพื่อระบายนั้น ต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน เข้าใจว่าในข้าวลอตหลังที่ระบายออกไปมีข้าวดีปนอยู่ด้วย

                 แต่การจะให้ไปสำรวจและแยกข้าวดีออกมาต้องลงทุนเยอะ ไม่คุ้มค่า รวมทั้งหากให้เป็นข้าวดีก็อาจจะไปกระทบกับข้าวของเกษตรกรที่กำลังจะออกมาใหม่

                 แถมยังย้อนถามกลับมาว่า ผู้ที่ออกมาร้องเรียนเรื่องนี้ ทำไมไม่ออกมาโวยตั้งแต่แรก !!

                 แน่นอนคำถามนี้ ยิงตรงกลับมายังพลพรรครักปูทันทีว่า มีวาระซ่อนเร้นทางการเมืองใช่หรือไม่ (โดยเฉพาะในห้วงยามที่การพิพากษาคดีจำนำข้าวกำลังใกล้เข้ามา)

                 แต่แม้จะไม่แปลกที่คิดเช่นนั้น แต่มันจะแปลกก็ตรงที่ว่า ข้างฝ่ายพลพรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับการระบายข้าวของรัฐบาลในลักษณะเดียวกัน

                 โดยล่าสุด 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่ออกตัวว่ามาในนามส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค ได้ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐอาจจะเอื้อผลประโยชน์ให้แก่พวกพ้อง

                 จึงขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอซื้อข้าวอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนครั้งที่ 1/2560 ว่าถูกต้องครบถ้วนในวันที่มีการประกาศคุณสมบัติของบริษัท ณ วันที่ 22 มีนาคม 2560 หรือไม่

                 พูดง่ายๆ ว่าถ้าคุณสมบัติไม่ครบ เหตุใดจึงมีสิทธิเข้าประมูลได้ มีการเอื้อประโยชน์ให้แก่พวกพ้องหรือเปล่า

                 แน่นอนแม้จะคนละมุม แต่ก็คือความสงสัยในความไม่ชอบมาพากลของกระบวนการระบายข้าว โดยการประมูลของรัฐบาลนั่นเอง

                 และที่น่าสนใจ คือ ทั้งคู่ต่างก็มาจากคนละฟากฝั่ง จึงเป็นความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญให้ สตง.เร่งไขข้อข้องใจให้ได้

                 เพียงแต่ถึงเวลานี้ ก็ยังไม่ได้ยินผู้ว่าฯ พิศิษฏ์ จะออกลีลาว่ากระไร แต่หากดูจากชุดข้อมูลที่ตอบทางเพื่อไทยไปแล้วว่า “การระบายข้าวไม่มีอะไรผิดปกติ” ก็น่าที่จะเข้าใจได้ว่า คำอธิบายจะประมาณไหน

                 เพราะอย่าลืมว่า นับแต่ คสช.เข้ามาเมื่อปี 2557 การแต่งตั้ง พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ขึ้นแท่นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน แบบรวดเร็วทันใจ ก็แปลง่ายๆ ว่าเขาทำงานให้ใครกันแน่ ?

                 และที่ผ่านมา ก็ทำงานสนองรัฐบาล (ในการปราบคอร์รัปชั่น) มาอย่างจุใจ เช่น การสอบสวนการใช้จ่ายเงินภาครัฐปมการใช้เงินเกือบ 30 ล้านจัดแสดงไฟให้คน กทม. ได้ไปถ่ายรูปช่วงปีใหม่ปีก่อนโน้น ทำให้คุณชายหมูต้องหลุดจากเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.

                 ตรวจสอบการใช้จ่ายงบทัวร์นอกของหน่วยงานภาครัฐ หรือ การรับลูกสินบนข้ามชาติ “บริษัทโรลส์-รอยซ์” ที่อังกฤษ อเมริกา โดยมีหน่วยงานภาครัฐของไทยไปมีเอี่ยวทั้ง การบินไทย ปตท.

                 ที่เด็ดคือ ไล่บี้กรมสรรพากร เรียกเก็บภาษีของนักการเมือง 2 ยุค ในรัฐบาล นายกฯ มาร์ค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายกฯ ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฯลฯ

                 คือพูดง่ายๆ ว่า “พิศิษฐ์” คนนี้แหละ ที่เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันของ คสช. ทำงานอย่างถวายหัว ดังนั้น จึงไม่ต้องถามว่า ปมที่สังคมหันกลับมาคาใจฝ่ายทหารบ้าง เขาจะมีคำตอบว่าอะไร !

                 อย่างเรื่องการระบายข้าวที่แจงไปแล้วว่า ไม่พบความผิดปกติ พูดจบปุ๊บก็หันไปพูดเรื่องการเพ่งเล็งตรวจสอบการใช้งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ทันที

                 และก็ไม่ใช่เรื่องไหน นอกจากข่าวที่ว่ามีการใช้งบในการจัดยานพาหนะ เพื่อขนมวลชนในต่างจังหวัดมาให้กำลังใจอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในวันพิพากษาคดีจำนำข้าว

                 ซึ่งก็ถือเป็นงานถนัดอยู่แล้ว สำหรับการตรวจสอบการใช้งบฯ หน่วยงานรัฐ

                 ดังนั้นพอถึงตรงนี้ ทำให้หลายคนมองข้ามช็อตไปแล้วว่า ที่ว่ากันว่าพิศิษฏ์นั้น ใกล้จะหมดวาระไปจากเก้าอี้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินในเดือนกันยายนนี้ แต่ในเมื่อตามกฎหมายแล้ว เขาก็ยังมีคุณสมบัติสมัครเป็นผู้ว่าการ สตง.ได้อีก

                 น่าสนใจไม่น้อยว่า “งานดี” ขนาดนี้ ถ้าจะอยู่ต่อ “คสช.” มีหรือจะขัดข้อง?

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ