Lifestyle

ใครปล่อยข่าว? “เจ้าสัววิชัย” เล่นเอง นำทัพพรรคสีน้ำเงิน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ข่าวลือเรื่องเจ้าสัววิชัยกับพรรคสีน้ำเงิน คงจะถูกปล่อยออกมาเป็นระยะๆ อาจเป็นเกมลับลวงพรางจากฝ่ายตรงข้าม หรือโยนหินถามทางจากพวกเดียวกัน!!

               เมื่อการเมืองขยับ คนการเมืองก็เขยื้อน โดยเฉพาะพรรคขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่อย่าง “พรรคภูมิใจไทย” ที่มาแรงด้วยดีกรีความแน่น !! ทั้งกำลังบุคลากร และกระสุนดินดำเต็มหน้าตัก !!

               อย่างที่รู้กันว่า พรรคนี้มีหัวหน้าพรรคคือ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ผู้ที่ไม่เคย “แอ๊บ” ว่าจะขอเสนอตัวเป็นทางเลือกในสนามการเมืองรอบใหม่ ถึงขั้นจะขอชิมลางนั่งเก้าอี้นายกฯ คนต่อไป

               แต่อย่าลืมว่า ในพรรคนี้ไม่ใช่มีเสี่ยหนูคนเดียว ที่ชี้เป็นชี้ตายได้ทั้งหมด แต่ยังมีเนวิน ชิดชอบ คนใหญ่แห่งอาณาจักรบุรีรัมย์อีกคนที่ถามใครก็รู้ว่ามีบทบาทในพรรคขนาดไหน

               ที่เด็ดคือ ทีมเนวิน ยังมี กนกศักดิ์ ปิ่นแสง, วิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของคิงเพาเวอร์ และพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย

               ทัั้งหมดนี้ แค่ได้ยินชื่อก็หนาวเข้ากระดูก ที่คนอย่างเสี่ยหนูก็ประมาทไม่ได้

               ถามว่า ทำไมต้องไม่ประมาท ก็เพราะกลิ่นฟุ้งกระจายทั่วแล้วว่า ได้เกิดการแย่งชิงการนำภายในพรรคภูมิใจไทยอีกระลอกใหม่

               โดยเฉพาะเบอร์ใหญ่ อย่าง “เสี่ยวิชัย” เจ้าของคิงเพาเวอร์ และสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ที่อาจจะขอใช้พรรคเพื่อเป็นแบ็กอัพสำหรับทุกความเคลื่อนไหวในธุรกิจ

               ซึ่งหากหันมาถาม เนวิน และ กนกศักดิ์ ชัดๆ ว่าอยู่ข้างเสี่ยวิชัยแน่ๆ เพราะใกล้ชิดสนิทสนมกันอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นทางธุรกิจ สังคม หรือการเมือง

               ที่สำคัญ ถ้าจะพูดถึงข้อต่อกับฝ่ายทหาร ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เหนียวแน่นขนาดไหน

               ยิ่งถ้าลองย้อนไปดูลีลาของ เสี่ยวิชัย กับการพบพิงอิงแอบกับนักการเมืองและรัฐบาลแต่ละยุคแล้ว ก็อาจถึงบางอ้อเลยว่า ถ้าเสี่ยวิชัยเกิดเอาจริงขึ้นมา เสี่ยหนูอาจจะมีเงิบก็ได้

               เดิมทีตอนที่เขาเริ่มธุรกิจดิวตี้ฟรีที่สนามบินฮ่องกง จนต่อมาสามารถสร้างสายสัมพันธ์กับภาครัฐผ่านทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ เขาก็ได้เปิดดิวตี้ฟรีที่กลางเมืองย่านเพลินจิตในปี 2532

               จนมาปี 2538 ได้สัมปทานในสนามบินดอนเมือง ช่วงรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา โดยมี วันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

               จนผ่านมาถึงยุครัฐบาลทักษิณ ราวช่วงปี 2549 ตอนที่ี่สนามบินสุวรรณภูมิ เตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ กลุ่ม “คิงเพาเวอร์” ก็ได้บริหารพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารแต่เพียงรายเดียว ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลอดภาษี กิฟต์ช็อป ร้านอาหาร ไปจนถึงป้ายโฆษณา

               เวลานั้นคนไทยรู้ทั่วกันว่า เสี่ยวิชัยคงจะสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับอดีตนายกฯ คนไกลอย่างลึกซึ้ง

               อย่างตอนรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จะพบว่า ในขณะที่บางคนบอกคิงเพาเวอร์ เดี้ยงแน่ๆ แต่ปรากฏว่าอาณาจักรของเสี่ยวิชัย ก็ยังไปได้ต่อเรื่อยๆ

               แถมว่ากันว่า กับขนาด “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้โค่นทักษิณในครั้งนั้น เสี่ยวิชัยก็เข้าหารือได้อย่าง "ทุกเมื่อ ทุกที่ ทุกเวลา"!!

               ก็ไม่รู้ว่าไปอะไรกันตอนไหน แต่เสี่ยวิชัยเคยเล่าว่าด้วยความบังเอิญ ที่บิ๊กบังมาช็อปปิ้งที่ดิวตี้ฟรีกับภรรยา จึงได้คุยกัน จนถูกใจ ถูกคอกัน

               ยังไม่จบแค่นั้น หากใครจำได้ ย้อนไปดูหน้าตาของแขกในงานฉลองครบรอบ 20 ปี อาณาจักรคิงเพาเวอร์ ตอนปี 2552 ก็จะมีแต่ระดับ “บิ๊กเนม” ที่มาปรากฏกาย

               ไล่ตั้งแต่ อนุทิน ชาญวีรกูล, ทนง พิทยะ, เนวิน ชิดชอบ, โภคิน พลกุล, พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์, พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เด็ดอีกรายคือ สุเทพ เทือกสุบรรณ ลุงกำนันของเรานี่เอง

               จากรายชื่อนี้ ต้องบอกเลยว่า หลากสีคละเคล้าผสมผสานแบบคัลเลอร์ฟูลเลยทีเดียว ซึ่งก็คงเป็นตามที่เจ้าพ่อดิวตี้ฟรีคนนี้เคยให้สัมภาษณ์ไทยรัฐช่วงปี 2553 หรือหลังวิกฤติเสื้อแดงว่า

               “ผมสนิทกับนักการเมืองหลายคน คนที่เอ่ยถึงก็สนิทชิดเชื้อกันมานาน (เนวิน) ตั้งแต่ที่เขายังอยู่กันคนละซีก แต่ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด ผมยังคงยืนอยู่ตรงกลางเสมอ”

               แต่ชื่อที่ต้องยกให้คือ “เนวิน ชิดชอบ” ที่เป็นระดับวีไอพีเพราะคุยถูกคอเกือบทุกเรื่อง ตั้งแต่การเมืองถึงฟุตบอล โดยมีผู้เชื่อมโยงคือ “กนกศักดิ์ ปิ่นแสง” เพื่อนสนิทของ “เนวิน” และคนใกล้ชิดของ “วิชัย” นั่นเอง

               แน่นอน เมื่อเข้ามาสู่รัฐบาล ปู ยิ่งลักษณ์ ยิ่งไม่ต้องนึกว่า เสี่ยวิชัยจะชิลและฟีลกู๊ดขนาดไหน ว่ากันว่า คนในเครือข่ายที่ปรึกษาบริษัทของวิชัย ก็มีเก้าอี้ทั้งในฝ่ายบริหาร ข้าราชการ

               ยิ่งเมื่อผ่านมาจนยุค คสช. เสี่ยวิชัยยิ่งอุทานว่า “หวานเจี๊ยบ” เพราะก็มีพี่ใหญ่อย่าง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่มักคุ้นกันมาแต่เก่าก่อนคอยดูแลอยู่

               ตรงนี้แหละที่สื่อหลายสำนัก มักจะวิเคราะห์ว่า “พรรคทหาร” เกิดแน่ และมีชื่อเสี่ยวิชัย เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทุกครั้ง

               จนมาถึงช่วงหลังที่ข่าวคราวของการยึดพรรคภูมิใจไทยของเสี่ยวิชัย เริ่มหนาหูมากขึ้น แม้ช่วงปีก่อน เสี่ยวิชัยจะออกมาปฏิเสธเสียงแข็ง !

               จะอย่างไรก็ตาม ทุกจังหวะก้าวของ “เซเลบศิษย์วัด” แห่งวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี นำโดย วิชัย ศรีวัฒนประภา, กนกศักดิ์ ปิ่นแสง และเนวิน ชิดชอบ ย่อมถูกจับตามองเป็นพิเศษ

               ข่าวลือเรื่องเจ้าสัววิชัยกับพรรคสีน้ำเงิน คงจะถูกปล่อยออกมาเป็นระยะๆ อาจเป็นเกมลับลวงพรางจากฝ่ายตรงข้าม หรือโยนหินถามทางจากพวกเดียวกัน ขึ้นชื่นว่า เกมการเมือง ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

               เอาเข้าจริง เรื่องของพรรคภูมิใจไทย ผู้ที่ชี้ขาดน่าจะเป็น “เนวิน” ศิษย์เอกของ “ท่านคมสรณ์” พระครูปริยัติโพธิวิเทศ ผู้ประสานงานการสร้างวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

               เหนืออื่นใด เจ้าสัววิชัย ไม่มีเวลามาคิดเรื่องนี้หรอก เพราะฤดูกาลพรีเมียร์ลีกเพิ่งเปิด คอยลุ้นจิ้งจอกสยามเก็บแต้มไปก่อนดีกว่า

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ