Lifestyle

อธิบดีคนดัง! "ณรัชต์ เศวตนันทน์" หวานใจ "มาดามแป้ง"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เส้นทางบุรุษต้องมีสุภาพสตรีเคียงข้าง ฉลองความสำเร็จในวันขึ้นแท่นอธิบดีกรมคุก..ว่าแต่ "ดร.เอ" มีดีอะไรกันนะ ถึงมัดใจคน "สวย รวย เก่ง" อย่างมาดามแป้งคนนีได้!!

             

              บิ๊กลอตแต่งตั้ง โยกย้าย “ปลัด-อธิบดี” จาก ครม.ชุดนี้เพียบไปด้วยคุณภาพ แต่ชื่อที่เร้าใจคนหนึ่ง คือ พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ ที่มาวิน เป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตามคาด!

               ที่บอกว่าตามคาด เพราะชื่อชั้นของ “ดร.เอ” ณรัชต์ หลายคนยอมรับในฝีมือ พลิกไปดูประวัติ โอ้โห คนนี้ไง หวานใจของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ไฮโซคนดัง หญิงแกร่งที่คนไทยรู้จักกันดี

 

               แต่ถ้าหันมาดูที่โปรไฟล์ของ ดร.เอ ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน

 

               พ.ต.อ.ณรัชต์ เกิด 16 มิถุนายน 2503 เป็นคนกรุงเทพฯ และยังเป็นบุตรชายคนเดียวของ พล.ต.ต.นิทัศน์-รศ.อมรรัตน์ เศวตนันทน์ บ้านนี้เรียกว่าเป็นคนสีกากีมาสามรุ่น โดยนอกจากบิดาแล้ว รุ่นปู่ก็คือ พล.ต.ต.จรุง เศวตนันทน์

 

               “ดร.เอ” เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จากนั้นย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ช่วง ป.5 กระทั่งไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 20 ช่วงปี 2520

 

               สมัยเรียนเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน ใช้ชีวิตแบบโจ๋ใหญ่ ทะเลาะวิวาทกับสถาบันอื่นบ่อยๆ ทำให้ผลการเรียนไม่ค่อยดี แต่พอมาเรียนที่เตรียมทหารก็เลยเกิดจุดเปลี่ยนจนได้เป็นหัวหน้าปกครองเพื่อนหลายร้อยคน ตอนช่วงปี 2

 

               เรียนเตรียมทหารอยู่ 2 ปี ก็เลือกเหล่า มาเรียนที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 36 โดยได้เป็นทั้งหัวหน้าตอน ผู้ช่วยผู้บังคับหมวด และเป็นนักกีฬารักบี้กรีฑา แบดมินตัน กระทั่งขึ้นปี 4 ก็ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้านักเรียนอีกครั้ง

 

               ต่อมา ดร.เอ เรียนจบปริญญาตรี ในปี 2526 สาขารัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 36 จากนั้นไปรับราชการตำรวจ เป็นรองสารวัตรสอบสวน สน.ลุมพินี ทำงานอยู่ได้ประมาณปีครึ่ง ช่วงปี 2530 ก็จบปริญญาโท M.P.A. สาขาบริหารรัฐกิจ ที่มหาวิทยาลัยเคนทักกีสเตต เมืองแฟรงก์เฟิร์ต รัฐเคนทักกี สหรัฐอเมริกา

 

               เผื่อใครลืมไป ที่นี่นายกฯ ปูก็ไปจบปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต เมื่อปี 2533 ! นับดีๆ ดร.เอ น่าจะเป็นรุ่นพี่ร่วมสถาบัน

 

               ต่อมาช่วงปี 2534 หนุ่มเอก็ได้ดีกรีดอกเตอร์ในสาขาอาชญาวิทยา ที่ มหาวิทยาลัยฟลอริดาสเตต เมืองทัลลาฮัสซี รัฐฟลอริดา

 

               จากนั้นปี 2549 ยังได้ทุน Chevening Fellowship ไปจบหลักสูตร “ประชาธิปไตย กฎหมาย และความมั่นคง : การก่อการร้าย” มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม สหราชอาณาจักร อีกด้วย

 

               นอกจากนี้ ดร.เอ ยังนับว่าเป็นเจ้าคอนเนกชั่น เพราะเขาได้ลงหลักสูตรพิเศษมากมาย หลายตัวย่อ เช่น ปี 2548 ประกาศนียบัตรชั้นสูงทางการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายเอกชน สถาบันพระปกเกล้า (ปรม.3)

 

               ปี 2551 หลักสูตรนักบริหารระดับสูง สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน รุ่นที่ 60 (นบส.60) ปี 2552 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.8) รุ่นเดียวกับ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม

 

               ปี 2553 หลักสูตรนักบริหารงานยุติธรรมระดับอัยการพิเศษฝ่าย สำนักอัยการสูงสุด รุ่นที่ 2, ปี 2554 หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง วิทยาลัยการยุติธรรม (บ.ย.ส.15) และ ช่วงปี 2555 หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (วปอ.54)

 

               เส้นทางการทำงานของ ดร.เอ หลังเรียนจบกลับมารับราชการตำรวจที่กรมตำรวจ โดยเป็นนายเวรของ พล.ต.อ.วิรุฬห์ พื้นแสน

 

               จากนั้นไปเป็นสารวัตรป้องกันปราบปรามที่ สน.ลุมพินี ช่วงท้ายของการเป็นตำรวจ เขาเป็นรองผู้กำกับการฝ่ายป้องกันและปราบปราม ดูแลสายตรวจ ที่ สภ.เมืองชลบุรี ตำแหน่งสุดท้ายคือ ผู้กำกับการ ฝ่ายองค์การตำรวจสากล หรืออินเตอร์โปล กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

               สำหรับเส้นทางในดีเอสไอของ ดร.เอ เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2546–30 เมษายน 2550 เป็นผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ

 

               จากนั้นช่วง 1 พฤษภาคม 2550–30 กันยายน 2550 เป็นผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ, ช่วง 1 ตุลาคม 2550–30 กันยายน 2551 เป็นผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ

               

               ต่อมาช่วง 1 ตุลาคม 2551–23 มกราคม 2555 เป็นรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ, 24 มกราคม 2555–30 กันยายน 2555 เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม และตามด้วยอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรม กระทั่งปี 2558 ขึ้นนั่งเก้าอี้อธิบดีกรมคุมประพฤติ จนถึงปัจจุบัน ที่กำลังจะนั่งเก้าอี้อธิบดีกรมราชทัณฑ์อย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้

 

               นอกจากนี้ยังเป็นผู้กำกับดูแลคดีพิเศษ ที่เกี่ยวข้องกับประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 5 คดี คือ คดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ทูตซาอุดีอาระเบีย จำนวน 3 คดี, คดีการหายตัวไปของนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย (อัลรูไวลี่) จำนวน 1 คดี และคดีติดตามทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมจากประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 1 คดี

 

               ขณะเดียวกัน ดร.เอ ยังทำหน้าที่เป็นอาจารย์พิเศษ วิทยากร และผู้ทรงคุณวุฒิ เคยบรรยายในหลักสูตรต่างๆ ในหลากหลายสถาบัน

 

               สำหรับชีวิตส่วนตัว ดูจะเป็นไฮไลท์ที่สังคมให้ความสนใจมากที่สุดในสองสามปีมานี้ เพราะหลังจากหย่าขาดกับอดีตภรรยา เขาก็มาใช้ชีวิตคู่กับ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ สาวรุ่นน้องที่สาธิตปทุมวัน อายุห่างกัน 6 ปี ผู้เป็นกรรมการผู้จัดการ บมจ.เมืองไทยประกันภัย และผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงไทย

 

               โดยความรักเกิดขึ้นในชั้นเรียนหลักสูตร วตท.รุ่น 8 ดูใจกันจนมีพิธีวิวาห์อย่างเรียบง่ายไปเมื่อเช้าวันที่ 19 มกราคม 2557 โดยเวลานั้นหลายคนตาร้อนผ่าวไปกับความเหมาะสม ลงตัว เป๊ะปัง ของทั้งคู่มาก!!

 

               เป็นอันว่าเส้นทางบุรุษก็ต้องมีสุภาพสตรีเคียงข้าง ฉลองความสำเร็จในวันที่ขึ้นแท่นอธิบดีกรมคุกเร็วๆ นี้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ