Lifestyle

สายเดี่ยว! "โน้ส อุดม" ฮาแบบไทยแลนด์ 4.0 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไม่ว่าจะเวทีเดี่ยว หรือเวทีหมู่ โน้ส อุดม แซวมาแล้วทุกรัฐบาล แซวเจ๊ปูแรงสุดด้วยซ้ำ ลุงตู่อ่ะเบาสุดแล้ว อย่างหนนี้เรื่องไทยแลนด์ 4.0 โน้สก็แค่ถากๆ เบาๆ เอง

               
               ต้องบอกว่าเป็นขาประจำผู้สร้างเสียงหัวเราะ กับลีลาเดี่ยวไมโครโฟน ของเจ้าของจมูกโต๊...โต โน้ส อุดม แต้พานิช
 

               แต่วันนี้เขากลับเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง ด้วยการพูดเสียดสี เรื่องไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลลุงตู่ ทำเอาหลายคนถึงกับหนาวแทนเลยทีเดียว

             

              ที่จริงงานนี้เกิดขึ้นในงานสัมมนาวิชาการของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นอีเวนท์ที่ทางสถาบันจัดอยู่แล้วเป็นประจำซึ่งน้อยคนจะรู้

 

               แต่พอเชิญพี่โน้สมาเท่านั้น งานนี้ก็ได้อานิสงส์ดังเป็นพลุแตกไปด้วย

 

               ยิ่งลองคลิกเข้าไปดูคลิปที่มีคนตัดมาให้ดูสั้นๆ ราว 4 นาที แค่นี้ก็สร้างทั้งเสียงหัวเราะ และคำถามไปในคราวเดียวกันไปยังผู้วางนโยบายเลยทีเดียว

 

               ในเนื้อหาการเสียดสี ที่เริ่มด้วยคำถามชวนคิดว่า ถ้ายังแก้เรื่องแท็กซี่อูเบอร์ไม่ได้ แก้เรื่องคาดเข็มขัดนิรภัยไม่ได้ หรือบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดที่ใช้งานจริงไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาพูดเรื่องที่จะก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ในเมื่อมีเทคโนโลยีแล้วไม่ได้ใช้ !

 

               “เรามีเทคโนโลยี นี่หรือ นี่หรือ การใช้เทคโนโลยี มาสร้างประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ไม่ต้องถึงการศึกษา แค่นี้ก็ไปไม่รอด”

 

               ก็ไม่รู้ว่า 4 นาทีนี้จะคุ้มค่าเสียงหัวเราะหรือเปล่า สำหรับ “โน้ส อุดม" แต่หากไปดูมีเรื่องราวที่กว่าจะมาถึงวันนี้ ก็คุ้มค่าที่จะรู้จัก

 

               โน้ส มีชื่อเสียงจากการพูดตลกคนเดียวบนเวที หรือเรียกว่า Stand Up Comedy หรือในชื่อไทย “เดี่ยวไมโครโฟน”

 

               ทั้งนี้ โน้สมักเล่าเรื่องของตนเองบนเวทีเสมอ จนทำให้คนไทยรู้ดีว่า เขานั้นเป็นคนไทยเชื้อสายจีน เป็นบุตรของคุณนายทองสุข “ทองสุข อารีล้น” อดีตแม่ค้าไก่ย่างส้มตำ กับ “สมจิต แต้พานิช”

 

               โน้สมีพี่น้องรวม 3 คน ตนเองเป็นลูกคนกลาง น้องชายของเขานั้นคือ สันติ แต้พานิช ผู้กำกับภาพยนตร์อิสระ

 

               ที่สำคัญ เขามักบอกเล่าถึงความยากจนของครอบครัวตนเองให้ฟังบ่อยๆ โดยกล้าพูดเลยว่า “เกลียดความจน” และตั้งมั่นว่าชีวิตนี้จะไม่ขอจนอีกแล้ว

 

               โน้สเข้ากรุงเทพฯ มาเรียนอยู่แผนกวิชาพาณิชยศิลป์ วิทยาลัยเพาะช่าง และค่อนข้างเกเร ที่สุดก็ไม่สำเร็จระดับอาชีวศึกษา

 

               แต่เขาก็ใช้ทักษะที่มีในการเขียนการ์ตูนที่ นิตยสารชัยพฤกษ์ จากนั้นมาอยู่สำนักพิมพ์ “สำนักศิษย์สะดือ” ไปเป็นนักแสดงละครของศิษย์สะดือ ละครเรื่องแรกคือ “ความรักของมาลัยในห้องไอซียู”

 

               ต่อมาโชว์ทักษะในการเขียนจนออกหนังสือ “ครั้งหนึ่งในชีวิตกับแตงโมปั่น” งานเขียนเรื่องแรกที่แจ้งเกิดในสนามไปยาลใหญ่ และยังได้รับผิดชอบคอลัมน์ต่างๆ โดยใช้นามปากกาว่า “โน้สหน้ามึน หลานเจ๊นี้ขายผลไม้” คอลัมน์ ‘สารภีมีดีให้’ ซึ่งโน้สนี่แหละ ที่เป็นสารภีในช่วงท้ายของหนังสือ

 

               เมื่อสำนักพิมพ์ไปยาลใหญ่ปิดตัวลง โน้สเข้าสู่วงการบันเทิง โดยไปเป็นตัวประกอบในวิก 07 ของค่ายเจเอสแอล กระทั่งมีโอกาสได้แจ้งเกิดเป็นหนึ่งในทีม “ยุทธการขยับเหงือก” เป็นเสนาโน้ต ที่คนไทยรู้จัก

 

               ต่อมา โน้สแยกตัวออกมา แล้วหันไปจัดเดี่ยวไมโครโฟน โดยเริ่มทำจากเงินทุน 4 แสนบาท เปิดแสดง 3 รอบ ครั้งแรกเมื่อ 23 สิงหาคม 2538 ที่หอประชุมเมืองไทยประกันชีวิต อาคารเมืองไทย-ภัทร คอมเพล็กซ์ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากมาจนทุกวันนี้

 

               นอกจากจะเป็นคอมเมเดียนตามที่กล่าวมาแล้ว โน้สยังมีผลงานทางภาพยนตร์บ้าง และถือเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งที่มีส่วนในการสร้างสรรค์สังคม

 

               ชีวิตส่วนตัวด้านความรัก ปัจจุบันเขายังโสด แต่ที่ผ่านมามักมีสาวสวยแวะเวียนเข้ามาในชีวิต แถมล้วนแล้วแต่เป็นคนดังและไฮโซ ซึ่งอาจเพราะความอารมณ์ดี ช่างพูดของเจ้าตัวที่เป็นเสน่ห์

 

               กล่าวสำหรับงานเดี่ยวไมโครโฟน ดูจะเป็นตัวตนของโน้ส อุดม “นม อุโด๊ส” มากที่สุด เพราะบนเวทีเขาจะเล่าเรื่องต่างๆ ผ่านมุมมองอันแหลมคม และถ่ายทอดออกมาได้อย่างขบขันและสอดแทรกคำถามไปพร้อมกัน แถมภายหลังยังมีการแสดงที่เรียกว่า “หมู่” คือการเชิญคนดังมาร่วมแสดงด้วย

 

               สำหรับความสนุกเราคงไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ เขาจัดเดี่ยวไมโครโฟนมาแล้ว 11 ครั้ง-ยังไม่นับโชว์ครั้งยิบย่อย กินระยะเวลายาวนานกว่ายี่สิบปี! และยังเป็นเจ้าของ วลี Thailand Only! ที่เขามักเล่าความเป็นไทย ที่ชาติใดไม่มีเหมือน

 

               แต่ที่ต้องยอมรับว่าเป็นลีลาเฉพาะตัว คือ โน้สกล้าที่จะเอาเรื่องการเมืองมาพูด ด้วยสไตล์ที่ยากจะเลียนแบบ โดยเฉพาะโน้ส 11 ที่จัดขึ้นสองสามปีก่อน มีการโจมตีในโลกโซเชียลที่เอารัฐบาลมาแซวบนเวที หรือล่าสุดกับการนำเรื่อง ไทยแลนด์ 4.0 มาพูด ก็สร้างกระแสอยู่ในสังคมไทยไม่น้อย

 

               แต่ต้องอย่าลืมว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะตลอดมา บนเวทีทั้งเดี่ยว และ “หมู่” ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ โน้สแซวมาแล้วทุกรัฐบาล ขนาดที่กองเชียร์โน้สยังเคยเม้นท์ว่า แซวเจ๊ปูนี่แรงสุดแล้ว ต่างจากของลุงตู่ ที่ดูแล้วเบากว่าใครเพื่อน !

           

              ครั้งหนึ่ง โน้สยังเคยแร็พแหล่การเมือง ถึงคนไกลว่า “...มีคนเขาอยู่เมืองนอก ไม่ต้องบอกว่าชื่ออะไร เขานั้นอยากกลับมาบ้าน ไม่รู้ทหารให้กลับเมื่อไหร่ กลับมาเถอะครับ กลับมาสักที มาพิสูจน์คดีให้หายข้องใจ ถ้าท่านไม่กลับมาปีนี้ๆ ขอให้ แมนซิตี้ ตกชั้นไวๆ...”

 

               หรือกับรัฐบาลมาร์ค “...เฝ้านึกถึงนายกที่เขาว่าหล่อ มีดีพอเรามั่นใจ มีทุกอย่างเลย ยกเว้นอำนาจตัดสินใจ เฝ้านึกถึงนายกที่เขาว่าหล่อ มีดีพอเรามั่นใจ ลูกศิษย์ท่านชวนมีดีไม่โกงใคร...”

 

               ก็ประมาณอย่างนี้ !!

 

               เหมือนกับที่เจ้าตัวพยายามบอกมาตลอดว่า “สแตนด์อัพ คอมเมดี้” เป็นสิ่งที่ต้องล้อเลียน เสียดสี ถ้าจะไม่ให้เสียดสีเลย ก็ทำอาชีพนี้ไม่ได้ แถมยังเป็นเรื่องท้าทาย ว่าจะหาวิธีเล่าเรื่องอย่างแยบยลได้อย่างไร

 

               และก็แยบยลจริงๆ ตามว่า เพราะโน้สก็ยังคงเป็นโน้ส ที่มีแฟนคลับติดตามล้นหลาม สร้างรายได้ส่งชีวิตให้อยู่ดีมีสุขทั้งบ้าน

 

               และเผื่อแผ่ไปยังทีมงานลูกน้อง...ตามความฝันของตัวเองที่จะไม่ยอมจนอีกแล้ว !

 

ไปดูคลิปโลด!!!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ