Lifestyle

สายลึก(ลับ) “สันธนะ ประยูรรัตน์” ขาดเขา-เราขาดสีสัน?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทุกครั้งที่ “รองต่อ” ออกมาตั้งโต๊ะแถลง ก็ทำเอา “คนเล่าข่าว” ลูบปาก ได้เรื่องเมาท์รสชาติจี๊ดจ๊าด ว่าแต่หนนี้เรื่องอะไรที่ทำให้คนอย่างเขาต้องออกมาโชว์พาว!!

               นั่นไง “มันต้องมีเงื่อนงำมากกว่านี้แน่ๆ” หลายคนพูดคำนี้ ทันทีที่เห็นข่าวมีคนออกมา “ปูด” เกี่ยวกับคดีฆ่าล้างครัว วรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ รวม 8 ศพ ว่ายังมีคนอยู่เบื้องหลังอีกจ้า !!!

               คนที่ปูดเรื่องนี้ คือ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สันติบาล 2 ที่ออกมาอ้างว่า แท้จริงแล้วชนวนมาจากเรื่องผลประโยชน์ มูลค่า 40-50 ล้านบาท ที่มีกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ ได้ว่าจ้างผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้จักกันในนาม “เจ๊ชุมพร” ให้ไปจ้าง บังฟัต ไปสังหารผู้ใหญ่วรยุทธอีกทอดหนึ่งนั่นเอง ส่วนเรื่องที่ดินนั้น เป็นเพียงประเด็นรองที่ บังฟัตได้ประโยชน์อีกทีหนึ่งเท่านั้น

               งานนี้ต่อม “โคนัน” ของคนไทยก็ทำงานทันที ตกลงมันอะไร ยังไงกันแน่ เช่นเดียวกับที่อยากรู้ว่า ว่าแต่ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ คนนี้เป็นใคร และมีความน่าเชื่อถือขนาดไหน

               พอไปค้นข้อมูลเท่านั้น พบเลยไม่ธรรมดา ! ข่าวคราวที่ผ่านมาของเขาเอง ก็ใช่ย่อย !!

               พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ หรือ ที่เรียกกันว่า “รองต่อ” เกิดวันที่ 13 มกราคม 2502 เป็นคนกรุงเทพฯ เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 6 คนของ พล.ต.ต.สมชาย และ นิตยา ประยูรรัตน์ ภรรยาชื่อ พรรณี ประยูรรัตน์ มีบุตร-ธิดา 2 คน

               นอกจากนี้ เขายังเป็นน้องชายแท้ๆ ของ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อีกด้วย

               พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ สำเร็จการศึกษามัธยมต้นที่โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก จากนั้นไปต่อที่โรงเรียนเตรียมทหาร(รุ่นที่ 17), โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 33 เมื่อปี 2523, วิทยาลัยตำรวจเอฟบีไอ สหรัฐอเมริกา, ปริญญาตรี รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต, ปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

               ชีวิตราชการตำรวจของรองต่อ รู้กันดีว่าถือเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในสายตำรวจสันติบาล เคยเป็น สารวัตรงาน 5 กองกำกับการ 3 กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจสันติบาล 2 ตุลาคม 2535, สารวัตรงาน 4 ฝ่าย 4 กองตรวจคนเข้าเมือง 2 เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2538,

               จากนั้นขึ้นรองผู้กำกับการชุดตรวจงานป้องกันปราบปราม ส่วนตรวจราชการ 5 สำนักงานจเรตำรวจ 31 สิงหาคม 2539 และรองผู้กำกับการ 1 กองตำรวจสันติบาล 2 วันที่ 16 พฤศจิกายน 2543 ก่อนจะลาออกจากราชการ

               ข่าวคราวของเขาเร็วๆ นี้ก่อนจะมาเรื่องคดี 8 ศพ คือเขาเพิ่งยื่น สตช.สอบพฤติกรรมข้าราชการระดับสูงของ ตม. หลังพบมีพฤติการณ์อำนวยความสะดวกนักพนันข้ามไปเล่นบ่อนประเทศเพื่อนบ้านอย่างสบายๆ ไม่ต้องมีเอกสารใดๆ นั่งรถวีไอพีผ่านฉลุย

               แต่หากย้อนไปราวสิบปีก่อน ชื่อของสันธนะ อดีตรองผกก.4 ส.2 คนนี้ เรียกว่ามีข่าวเยอะ! อย่างที่ต้องหันหลังให้อาชีพราชการ ก็ด้วยผลงานไปขัดขวางการเข้าจับกุมบ่อนการพนันของตำรวจ สน.บางกอกน้อย ตอนนั้นโดนเล่นงานหนักทั้งทางอาญาและวินัย จนโดนให้ออกจากราชการ

               ช่วงปี 2549 ชื่อของเขาดังกระฉ่อนเมื่อถูกซัลโวใส่รถ นับ 10 นัด แถวสามแยกสวรรคโลก ตัดถนนสุโขทัย เจ้าตัวรอดตายหวุดหวิด เพราะวันนั้นไม่ได้ใช้รถคันนี้ แต่เป็นลูกน้องคนสนิทที่รับเคราะห์แทน ซึ่งเจ้าตัวออกมาปูดเลยว่า น่าจะเกี่ยวพันกับธุรกิจใต้ดิน เกี่ยวโยงถึงคนแถวๆ เตาปูน

               เพราะภายหลังจากที่กองปราบปรามบุกเข้าทลายบ่อนย่านเตาปูนแล้ว ตัวเขาเองได้เข้าไปในบ่อนดังกล่าวอีก ก็พบว่ายังคงมีการลักลอบเล่นการพนันเช่นเดิม โดยที่ตัวเขาเองเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.เตาปูนถึง 2 ครั้ง 2 คราว

               ส่วนในทางการเมือง สันธนะก็เรียกว่าเป็นตัวพ่อคนหนึ่ง เพราะเขาคนนี้เป็นอีกรายที่ออกมาชน “ระบอบทักษิณ” อย่างต่อเนื่อง

               หากจำกันได้เขาเป็นหนึ่งในผู้เคลื่อนไหวในฐานะแกนนำชั้นรองของกลุ่มพันธมิตร และเป็นหนึ่งใน 25 แกนนำม็อบเสื้อเหลืองผู้ต้องหาบุกยึดสุวรรณภูมิ

               บางคนมองมุมนี้ว่า น่าแปลกที่สองพี่น้องตระกูรประยูรรัตน์ พ.ต.อ.สีหนาทผู้พี่ กับ พ.ต.ท.สันธนะ ผู้น้อง เหมือนเดินคนละเส้นทาง เพราะคนหนึ่งเติบโตใน ปปง.ยุครัฐบาลสีแดง (ซึ่งแน่นอนที่เวลานี้ถูกส่งเข้ากรุไปนั่งตบยุงที่สำนักนายกฯ แล้ว) ส่วนอีกคนหนึ่งก็ท้าชนเย้วๆ อยู่ฝั่งตรงข้าม

               ทั้งนี้ “สันธนะ” เคยลงสมัคร ส.ส.กทม. เขตบางเขน ในยุคพรรคประชากรไทย ตอนนั้นเป็นรองหัวหน้าพรรค และลงสมัคร ส.ว.ปี 2549 ก่อนรัฐประหาร แต่สอบตก และยังกลับมาสอบตกอีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2550 กับพรรคประชากรไทยยุคหลัง

               อย่างไรก็ดี นอกจากจะเป็น “ขาประจำเจ้าของข่าวดัง” แล้ว ที่จริงบทบาทที่คนตามข่าวจะคุ้นเคย คือ เป็นจอมเปิดโปงไม่น้อยหน้าไปกว่าเจ้าพ่ออ่าง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โดยเฉพาะเงื่อนปมกับธุรกิจลับ เกมสีเทา รวมทั้งอิทธิพลมาเฟีย

               ขณะที่บางคนบอกว่า ต้นฉบับออริจินัลคือ สันธนะ แต่คนก๊อปปี้คือเสี่ยอ่าง เพราะสันธนะเป็นเจ้าของไอเดียใช้คลิปมาแฉลายแทงบ่อนในกรุงเทพฯ และถ้าจะพูดเรื่องวงการบ่อนแล้ว รองต่อคนนี้แหละเป็นผู้เชี่ยวชาญ รู้หมดว่าในกรุงเทพฯ มีบ่อนอะไร ที่ไหน ของใครบ้าง

               ช่วงปี 2554-2555 เขาออกมาเปิดเบื้องลึกเบื้องหลัง “เกมปราบบ่อน” ของรัฐมนตรีคนดัง โดยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับบ่อน และการอยู่เป็น อยู่ให้ได้กับเจ้าหน้าที่รัฐ

               วันนี้เรื่องบ่อนจบลงยังไง ไปถามคนแถวบ่อนจะตอบได้ดีที่สุด แต่เรื่องอื่นๆ ต่อมา อดีตตำรวจคนนี้ก็ยังออกมาปูดไม่หยุด สมชื่อ "รองต่อ”

               ช่วงปี 2556 เขาออกมาแฉปมสังหาร “เจ้าพ่อแชร์ชาร์เตอร์” เอกยุทธ อัญชันบุตร อ้างว่าเจอเหยื่อโดยบังเอิญ บอกว่ารู้ตัวจะโดนปองร้าย เพราะไปเคลื่อนไหวการเมืองบนโลกออนไลน์ พาดพิงนักการเมืองต่อเนื่อง

               เรียกว่า ทุกครั้งที่ “รองต่อ” ออกมาตั้งโต๊ะแถลง ก็ทำเอา “คนเล่าข่าว” หรือ “สำนักข่าวออนไลน์” ลูบปาก เพราะได้เรื่องเมาท์รสชาติจี๊ดจ๊าด..ทำนองขาดเขาเราขาดสีสันว่างั้นเถอะ !

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ