Lifestyle

เอื้ออาทรฉันที!! 'วัฒนา เมืองสุข' เจอชุดใหญ่ไฟกะพริบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตามกฎหมายอาญา มาตรา 148 และ 149 โทษขั้นสูงสุดถึงประหารชีวิตเลยทีเดียว


               ข่าวร้อนๆ ที่ว่า ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด วัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ในพฤติกรรมทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยเวลานี้รอผ่านกระบวนการที่จะพิจารณาส่งฟ้องศาลต่อไปนั้น

               เกิดเป็นกระแสให้พูดถึงกันอื้ออึง ถึงขนาดว่างานนี้ วัฒนาและพวกอาจเจอโทษหนักหนา ตามกฎหมายอาญา มาตรา 148 และ 149 โดยมีขั้นสูงสุดถึงประหารชีวิตเลยทีเดียว !!

       

       แต่กว่าจะไปถึงบทสรุป คงต้องว่ากันอีกยาวไกล ตอนนี้ที่ทำได้ คือติดตามข่าวอยู่ห่างๆ และก็อดไม่ได้ที่จะต้องมาทำความรู้จักกับผู้ชายคนนี้อีกครั้ง เพราะอันที่จริง คนไทยรุ่นหลัง ก็เพิ่งได้ยินชื่อเขาจังๆ ก็ตอนปะฉะดะกับทหาร จนถูกเรียกไปจิบน้ำชาในค่ายทหารอยู่เสมอ

               วัฒนา เมืองสุข หรือ เสี่ยไก่ เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2500 เป็นคนปราจีนบุรี ครอบครัวมีฐานะปานกลาง บิดา คือ “ย้อม” เคยทำสวนทุเรียน มารดา คือ “นวรัตน์” ที่เป็นชาวนามาก่อน โดยต่อมาทั้งคู่หันมาประกอบกิจการวิ่งรถโดยสารระหว่างจังหวัดนครนายกกับปราจีนบุรี

               ไก่ วัฒนา จบชั้นมัธยมที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และมาจบปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต เนติบัณฑิตไทย และระดับปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สาขากฎหมายเศรษฐกิจ) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยระหว่างที่ร่ำเรียนอยู่นั้น เขาพักอาศัยกินนอนเป็นเด็กวัด อยู่ที่วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร

               นอกจากนี้เขายังเป็นเพื่อนร่วมรั้วจามจุรีแบบซี้ย่ำปึ๊ก กับ ศ.ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี และ ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อีกด้วย

               หลังเรียนจบกฎหมาย วัฒนาในวัยเบญจเพส ไปเป็นทนายความประจำสำนักกฎหมายดิศญุตม์และวัฒนา ตั้งแต่ปี 2525 ทำอยู่ราว 10 ปี เขาก็พบรักกับทายาทซีพี คือ พัชรา เจียรวนนท์ บุตรสาวของสุเมธ เจียรวนนท์ ผู้บริหารเครือบริษัทซีพี จากการที่ฝ่ายหญิงได้มาเป็นลูกความ

               วัฒนาทำการสู่ขอสาวถึงที่อาคารซีพีทาวเวอร์ ที่ถนนสีลม โดยที่ตัวเองเป็นเถ้าแก่ให้ตัวเอง

               กระทั่งปี 2539 ชีวิตของทนายหนุ่มผู้นี้ เรียกว่าลงตัวไปหมดทุกด้านแล้ว จึงตัดสินใจลงเล่นการเมือง โดยการชักชวนของ ส.ส.ปราจีนหลายสมัย สมาน ภุมมะกาญจน ขณะสังกัดพรรคชาติพัฒนา

               ลงปุ๊บก็ได้เป็น ส.ส.ปราจีนบุรีบ้านเกิดทันที โดยเวลานั้นเม้าท์กันว่า ที่ได้มาเพราะนอกจากมีแบคดีเป็น ส.ส.เก่าแล้ว เขายังมีฐานเสียงจากบรรดาลูกจ้างของซีพี ซึ่งก็ไม่ใช่น้อยๆ

               และรู้กันดีว่า เสี่ยไก่สมัยหนึ่งราว 20 ปีก่อน เดินเข้าออกค่ายทหารแถวปราจีนบุรี เป็นว่าเล่นเหมือนกัน แต่อาจคนละอารมณ์กับสมัยนี้

               ยิ่งกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตอนที่ยังเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ค่ายพรหมโยธี ปราจีนบุรี ก็เรียกว่าผูกพันกันอยู่เก่าก่อน

               มาปี 2541 - 2542 เสี่ยไก่ได้เป็นเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ แต่ผ่านไปไม่นาน ช่วงปี 2543 เขาก็ลาออกจากพรรคชาติพัฒนา แล้วเดินหน้าเข้าพรรคใหม่ชื่อ “พรรคไทยรักไทย”

               เวลานั้น เสี่ยไก่คนนี้ก็ได้ดิบได้ดี เริ่มจากเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ตั้งแต่ปี 2544 - 2545 ตามด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และขยับขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในปี 2546

               ผ่านมาจนปี 2548 ก็ได้เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จนปี 2548 เขาขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งปีนั้นเอง คือปีที่โครงการบ้านเอื้ออาทรกำเนิดเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ

               เมื่อการเมืองพลิก 19 กันยายน 2549 พรรคไทยรักไทยแตกกระจาย เสี่ยไก่ก็ยังมีบทบาทอยู่พอตัว โดยเฉพาะช่วงความขัดแย้งปี 2552 - 2553 ค่าที่มักคุ้นกับทหารแห่งบูรพาพยัคฆ์ เสี่ยไก่จึงมักเป็นคนกลางระหว่างคนชุดเขียวกับคนเสื้อแดง ทั้งที่ถนนราชดำเนินหรือที่แยกราชประสงค์อยู่เสมอ

             

 แต่อีกด้านหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2549 นั่นเอง ที่ “เรื่องทุจริตบ้านเอื้ออาทร” ก็ได้ไปตกในมือของฝ่ายที่เดินหน้าจะเอาเรื่องให้มั่นคั้นให้อยู่หมัดเรียบร้อยแล้ว

               อย่างไรก็ดี แม้ว่าระหว่างนั้นเส้นทางการเมืองของเสี่ยไก่ จะยังคงเฉิดฉาย โดยช่วงปี 2554 เสี่ยไก่จะกลับมาอีกครั้งในฐานะ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย หรือรอดมาได้หวุดหวิดกับคดีรถดับเพลิง ช่วงปี 2556 แถมยังได้เป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อต่อในพรรคเพื่อไทย ช่วงปี 2557

               แต่ด้วยความเป็น ไก่ วัฒนา ผู้กล้าท้าชนตามสไตล์ โดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลทหาร เขาจึงมักต้องไปคุยกับ คสช. อยู่เสมอ

               เช่น ช่วง 2 มีนาคม 2559 เขาตกเป็นผู้ต้องหาในคดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ จนศาลอนุมัติฝากขัง 12 วัน แต่ก็ได้ขอประกันตัวโดยวางเงินหนึ่งแสนบาท ศาลอนุญาตแต่ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

               มาวันที่ 20 เมษายน ยังถูกแจ้งความข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเสี่ยไก่ได้โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้การบริหารงานของรัฐบาลหลายครั้ง มาช่วง 1 ตุลาคม 2559 เสี่ยไก่ก็ยังไปเข้าร่วมกับกลุ่ม นปช. ที่ สหรัฐอเมริกาอีก

               ที่สุดแล้ว ต้นปีที่ผ่านมานี้เอง ป.ป.ช. เลยจัดชุดใหญ่ คดีบ้านเอื้ออาทรให้ จนมาเป็นข่าวดังอยู่ตอนนี้

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ