Lifestyle

“อนันต์ อัศวโภคิน” หมองู โดนงูฉกซะงั้น!?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“อนันต์ อัศวโภคิน” โดนดีเอสไอออกหมายเรียกรับทราบข้อหาสมคมฟอกเงิน-ร่วมกันฟอกเงิน ...หมองู โดนงูฉกซะงั้น!?

 

                 มาถึงตัวจนได้ อนันต์ อัศวโภคิน กับคดีการทุจริตภายในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ที่คนชื่อ ศุภชัย ศรีศุภอักษร ทำไว้

                 เพราะที่สุดขณะนี้ เจ้าตัวก็ต้องมาเจอกับความผิดฐานฟอกเงิน ที่ดีเอสไอได้ออกหมายเรียกตัวอยู่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บุตรสาว คือ อลิสา อัศวโภคิน เพิ่งวิ่งรอกเข้าไปให้ปากคำเรื่องนี้อยู่แหมบๆ (อ่าน..."DSI"ออกหมายเรียก"อนันต์"สมคบฟอกเงินธรรมกาย) 

                 ถึงตรงนี้ ไม่พักถามว่าเรื่องลากยาวมาได้ยังไงขนาดนี้ แม้ว่าต้นใหญ่ใจความอาจซับซ้อนกว่าที่คิด แต่หากเอาเฉพาะเรื่องเจ้าสัวอสังหาริมทรัพย์คนนี้ หลายคนก็อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร

                 แน่นอนว่าปัจจุบัน เจ้าสัวอนันต์ ดำรงตำแหน่งประธาน และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH โดยมีสัดส่วนหุ้น 23.99% ซึ่งบริษัทดังกล่าวคนไทยรู้ดีว่า ถ้าพูดถึงคำว่า “บ้านแลนด์” ไม่มีใครไม่ยอมรับในคุณภาพ

“อนันต์ อัศวโภคิน” หมองู โดนงูฉกซะงั้น!?

                 แต่คุณภาพของคน ก็เป็นที่มาของงานดีๆ อนันต์ หรือ “เสี่ยตึ๋ง” เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2493 สัญชาติไทย แต่ครอบครัวดั้งเดิมนั้น ต้องบอกว่าอพยพมาจากจีนโพ้นทะเลเลยทีเดียว

                 โดยบิดา คือ บุญทรง อัศวโภคิน เป็นคนจีนแต้จิ๋ว มาลงหลักปักฐานกับหญิงไทย เพียงใจ หาญพาณิชย์ บุตรสาวเจ้าของโรงสีแถวหัวตะเข้ ลาดกระบัง

                 นิตยสารผู้จัดการช่วงปี 2531 เล่าถึงมารดาของเสี่ยอนันต์ไว้ว่า ผู้หญิงคนนี้ ถึงแม้ว่าจะได้รับการศึกษาเพียงแค่ประโยคประถมศึกษา ทว่าชั้นเชิงทางการค้าแปดเหลี่ยม สิบสองคมมาตั้งแต่เด็กๆ จึงได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากเตี่ย-แม่ ให้คุมโรงสีตั้งแต่ยามที่ยังเป็นสาวแรกรุ่น

                 จนเมื่อมาแต่งงานกับบิดาของเสี่ยอนันต์ ซึ่งขณะนั้นก็อยู่ในยุครุ่งเรืองพอตัว เพราะฐานะของลูกชายเจ้าของห้างขายผ้า และเจ้าของโรงรับจำนำมั่งเชียง มั่งเฮง ก็นับว่ามีชื่อเสียงอยู่ และยังกว้างขวางเป็นที่รู้จักในคนจีนแต้จิ๋วในเมืองไทย ด้วยเคยเป็นนายกสมาคมแต้จิ๋ว

                 แรกเริ่มครองรัก ก็ช่วยกันขายผ้าอยู่แถวสะพานหัน ชื่อห้างขายผ้าสิวลี และยังทำโรงรับจำนำมั่งหลี กิจการขายผ้าไปได้ดีมาก จนฝ่ายภรรยานี่แหละที่สายตายาวไกล มาเล็งเห็นหนทางที่เข้าสู่วงการอสังหาฯ ซื้อ-ขายที่ดิน จนปี 2504 ได้เริ่มทำโครงการจัดสรรที่ดินครั้งแรกแถวประชาชื่น

                 ต่อมาจัดตั้งบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮาส์ ขึ้นในปี 2516 เพื่อดำเนินงานบ้านจัดสรรศรีรับสุขเป็นโครงการแรก และโครงการอื่นๆ ต่อๆ มานับไม่ถ้วน โดยขณะนั้นยังมีโรงแรมภายใต้ชื่อ “แมนดาริน” ที่ได้ลูกๆ ทั้ง 4 ช่วยกันดูแลอีกด้วย คือ นอกจาก อนันต์ บุตรคนที่ 2 แล้ว ยังมี “ทรงพล”, “สุดา” และ อนุพงษ์ อัศวโภคิน

“อนันต์ อัศวโภคิน” หมองู โดนงูฉกซะงั้น!?

                 ตัดฉากมาที่อนันต์ ช่วงชีวิตวัยเรียน เขาจบการศึกษาจากระดับประถมถึงมัธยมที่โรงเรียนอัสสัมชัญ (บางแหล่งบอกว่า จบม.ต้นที่เตรียมอุดมฯ) จากนั้นจบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรุ่น 11 รุ่นเดียวกับ “บุญคลี ปลั่งศิริ” จากนั้นไปจบ ปริญญาโท M.S. Industrial Engineering, สถาบันเทคโนโลยีอิลลินอยส์, และ ปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

                 ชีวิตส่วนตัวอนันต์สมรสกับ วารุณี (กี่ศิริ) ต่อมาหย่าร้างกัน โดยมีบุตร-ธิดา 3 คน ได้แก่ อาชวิน-อลิสา-อาชนัน อัศวโภคิน

                 “เสี่ยตึ๋ง” อนันต์ มีตำแหน่งอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทัรพย์ของครับครัวมาตั้งแต่ต้น โดยช่วงปี 2528 จนถึงปัจจุบัน เขาเป็นประธานกรรมการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) จากนั้นปี 2535 จนถึงปัจจุบัน ยังเป็นกรรมการบริษัท สยามธานี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด, กรรมการบริษัท สยามรีเทลดีเวลล๊อปเม้นต์ จำกัด, กรรมการบริษัท จี.เอส.พร็อพเพอร์ตี้ แมนเนจเม้นต์ จำกัด

                 จากนั้นปี 2536 มี บริษัท สยามธานี เรียลเอสเตท จำกัด ปี 2537 มีบริษัท เซนเตอร์พอยท์ แมเนจเม้นต์ จำกัด, และบริษัท ควอลิตี้ คอนสตรัคชั่น โปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) โดยมีชื่ออนันต์เป็นกรรมการทั้งหมดถึงปัจจุบัน

                 เช่นเดียวกับบริษัทชื่อดังอื่นๆ เช่น บริษัท คิว.เอช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, กรรมการบริษัท โฮมโปรดักส์ เซนเตอร์ จำกัด (มหาชน) (โฮมโปร), บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), ประธานกรรมการ บริษัทเงินทุน บุคคลัภย์ จำกัด (มหาชน), กรรมการ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

                 ชีวิตแบบนี้ การงานแบบนี้เหมือนจะเรียบง่าย ชิลล์ๆ บนกองเงินกองทอง และกองโล่ห์กองป้าย เพราะเคยได้รับรางวัล Best CEO Of The Year และเคยได้ตำแหน่งเศรษฐีหุ้นที่มีมูลค่าสูงที่สุดในไทยหลายปีซ้อน และได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บให้เป็น มหาเศรษฐีของไทยลำดับที่ 18 (ประจำปี 2555)

                 แต่ชีวิตของ “เสี่ยตึ๋ง” ก็มีสีสันให้อะดรีนาลีนทำงานอยู่บ้าง เช่นเป็นเจ้าของความคิดในการทำธุรกิจค้าปลีกอสังหาริมทรัพย์ เทอร์มินอล 21 อโศก

                 หลักคิดคือ เป็นร้านของเอสเอ็มอีกว่า 700 ราย และ ใช้กลยุทธ์ “แท็งก์น้ำ” ด้วยการเปิดฟู้ดคอร์ตบริเวณชั้นบน มีร้านอาหารดังราคาถูก ประสบความสำเร็จจน ต้องตามด้วย เทอร์มินอล 21 ที่โคราช และที่อื่นๆ ต่อไปที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ (https://www.sentangsedtee.com/thinking-executive/article_1919)

                 ความเก่งกาจนี้ ถึงขนาดที่ สมประสงค์ บุญยะชัย อดีตประธานกรรมการบริหารอินทัช กรุ๊ป เคยออกปากชมว่าเสียตึ๋งคนนี้ เปรียบเป็นนโปเลียน ทำธุรกิจจนเป็นเบอร์ 1 ในวงการอสังหาฯ มายาวนาน ด้วยเพราะ “นโปเลียน โบนาปาร์ต” หรือจักรพรรดิของฝรั่งเศส จะเลือกรบเฉพาะสงครามที่คิดว่าตัวเองจะชนะ (http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/682945)

                 แต่ดูเหมือนเรื่องการเป็นศิษย์เอก ของ วัดพระธรรมกาย จะทำให้หัวใจสูบฉีดมากสุด กับข่าวการถือครองที่ดินแทน “ธัมมชโย” ที่ดีเอสไอพบมีการฟอกเงินไปมา แต่ท้ายสุดก็กลับมาสู่มูลนิธิของวัดพระธรรมกาย นั้นแหละ

                 ตอนนี้เลยไม่รู้ว่า “เสี่ยตึ๋ง” เลือกสงครามถูกสนามหรือไม่ เพราะคนทำงานกับอสังหาฯ ดันมาจนแต้มเพราะอสังหาฯ เสียเองแบบนี้ มันน่ามั้ย!!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ