Lifestyle

“จารุพงศ์” ฟิเจอริ่ง “โกตี๋” แบบนี้ก็ได้เหรอ???

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชื่อ “จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” ที่เกี่ยวข้องกับ “โกตี๋” คนที่ทางการหมายหัว ถามว่าเขาเป็นใคร? บอกเลยคนนี้ ไม่ธรรมดา!

          ชื่อหนึ่งที่มาเกี่ยวข้องกับ “โกตี๋” วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ คนทางการไทยหมายหัว คือชื่อของ “จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ”

          เพราะ "องค์การสหพันธรัฐไท” ของวิทยุแดงใต้ดินของโกตี๋ ก็เชื่อมต่อถึงกันเป็นอย่างดี กับ สองพ่อลูกแห่งตระกูลเรืองสุวรรณ "จารุพงศ์" และ "จารุวงศ์"

          โดยคนพ่อนั้น เคลื่อนไหวในฐานะประธาน “องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย” ที่แท็คทีมกับ จักรภพ เพ็ญแข

          ขณะที่คนลูกก็คอยเดินสายพบปะ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ในต่างแดนให้กับองค์กรแห่งนี้

          แถมโกตี๋ยังเคยกล่าวผ่านยูทูบว่า งานต่อต้าน คสช. ก็ได้รับน้ำเลี้ยงจาก “จารุพงศ์” นี่แหละ ที่เด็ดคือ จารุพงศ์ ยังให้คำแนะนำที่จะเปลี่ยนไทยให้เป็นระบอบสหพันธรัฐ! (แบบนี้ก็ได้เหรอ???)

          ถามว่า จารุพงศ์ เรืองสุรรณ เป็นใคร ไปไงมาไง?

          จารุพงศ์ นั้น เกิดเมื่อ 15 สิงหาคม 2489 เป็นบุตรของ ร้อยโทจารุบุตร กับ อรนุช เรืองสุวรรณ

          จบชั้นม.ต้น ที่โรงเรียนวัดบวรนิเวศ และ ม.ปลาย ที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ จบปริญญานิติศาสตร จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

          ผ่านการศึกษาอบรมในหลักสูตรนายอำเภอ รุ่นที่ 16 (พ.ศ. 2521) หลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่นที่ 19 (พ.ศ. 2527) และหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 41 (วปรอ.4111)

          เขาสมรสกับ “สุพัตรา” มีบุตร 3 คน คือ จารุวงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, จารุพัตรา อาร์ นีล และ จารุพันธุ์ เรืองสุวรรณ

          จารุพงศ์ มีเส้นทางการทำงานในสายข้าราชการเต็มขั้น เป็นทั้งปลัดอำเภอ และเป็นนายอำเภอมาหลายที่ จนมามีชีวิตเป็นข้าราชการในสังกัด กทม.อยู่พักใหญ่

          เป็นทั้งเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. (อาษา เมฆสวรรค์) เป็น ผู้อำนวยการเขตบางบอน, เป็นรองผู้อำนวยการสำนักรักษาความสะอาด กทม. และเป็นผู้ช่วยปลัด กทม.

          กระทั่งปี 2538 ได้ตำแหน่งนักบริหาร ระดับ 10 (เป็นผู้อำนวยการสำนักพัฒนาชุมชน ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา และรองปลัดกรุงเทพมหานครตามลำดับ)

          บางคนคิดว่า จารุพงศ์เกี่ยวข้องกับ ทักษิณ ชินวัตร หลังลงเล่นการเมือง แต่แท้จริงแล้ว คนสองคนนี้เกี่ยวข้องกันมาแล้วก่อนหน้า

          โดยช่วงปี 2545 ในยุคทักษิณ จารุพงศ์ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก) และช่วงปลายปียังย้ายจาก รองปลัดกทม. เป็นรองปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

          ต่อมาปี 2546 ยังได้เลื่อนไปเป็นประธานบอร์ด ขสมก, และเลื่อนเป็นปลัดกระทรวง พม. ในปลายปีเดียวกัน และยังเคยเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงแรงงานในเวลาต่อมา

          จนมาปี 2549 เขาต้องย้ายจากปลัดกระทรวงแรงงาน ไปเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยให้น้องเขยนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ มานั่งปลัดกระทรวงแรงงานแทน

          กระทั่งเกิดรัฐประหารปี 2549 เขาก็เกษียณอายุราชการ แล้วไปนั่งเก้าอี้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ อยู่ 4 ปี จนถึงปี 2553

          จากนั้นกลับมาเกี่ยวข้องกันใหม่ โดยมาอยู่กับ ”พรรคพลังประชาชน” และมาเป็น “เพื่อไทย”

          โดยช่วงปี 2554 เขาได้นั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค แทนคนเก่าที่ลาออกไป แถมส่งให้ทายาท จารุวงศ์ เรืองสุวรรณ ไปงเป็นเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ อีกด้วย

          ในปี 2555 รัฐบาลปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จารุพงศ์ ได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคมนาคม และนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีมหาดไทยต่อในรัฐบาลปู 3

          ต่อมาได้รับเลือกเป็น “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” เมื่อ 30 ตุลาคม 2555 จนมาปี 2557 เขาสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กระทั่งมาลาออกเมื่อ 16 มิถุนายน 2557 หลังเกิดเหตุการรัฐประหาร โดย คสช.

          แต่เขาไม่หยุดเคลื่อนไหว ออกตัวแรงเลยว่า ขอต่อต้าน คสช. สุดฤิทธิ์ ปี 2557 ประกาศตั้งองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย เคลื่อนไหวในต่างประเทศ

          โดยมีสมาชิกเช่น เสน่ห์ ถิ่นแสน (หรือนามแฝง ดร.เพียงดิน รักไทย) ชูพงศ์ ถี่ถ้วน จรัล ดิษฐาอภิชัย สุนัย จุลพงศธร จาตุรนต์ ฉายแสง ดารุณี กฤตบุญญาลัย มนูญ หรือ เอนก ชัยชนะ จอม เพชรประดับ จรรยา ยิ้มประเสริฐ

          อย่างไรก็ดี บางคนว่า ผู้ชายสูงอายุคนนี้ ไม่น่าจะห้าวเป้ง แต่จารุพงศ์นี่แหละ เป็นหนึ่งในผู้ที่ไม่ยอมมารายงานตัวตามคำสั่งของ คสช.

          แถมยังโพสต์เฟสบุ๊คว่า ไม่ยอมก้มหัวให้ทหารที่ยึดอำนาจและผู้กบฏ เพราะตนนั้นได้รับเลือกตั้งจากประชาชน จะต่อต้านทหารทุกรูปแบบ

          ปรากฏว่า “งานจัดหนัก” ก็มา เพราะคสช. สั่งอายัดการทำธุรกรรมทางการเงินในที่สุด

          แต่ความห้าวเป้งนี้ บางคนบอกว่า เพราะเขามีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา ตระกูล เรืองสุวรรณ ที่เป็นตระกูลชั้นสูงเก่าแก่ 

          โดยมีบรรพบุรุษเป็นเจ้าผู้ครองนครหลวงพระบางและเจ้านางแห่งนครเชียงใหม่ สืบเชื้อสายเป็นเจ้าเมืองสำคัญในหัวเมืองอีสานหลายหัวเมืองมาอย่างต่อเนื่อง

          โดย “จารุบุตร เรืองสุวรรณ” ผู้พ่อของ จารุพงศ์ นั้น ก็มีบทบาททางการเมืองไทยมากอยู่ เพราะเคยเป็นสมาชิกขบวนการเสรีไทย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

          จนมาลงเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งแรกในปี 2489 และได้รับเลือกติดต่อกันรวม 5 ครั้ง ในสังกัดพรรคธรรมสังคม ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของ ทวิช กลิ่นประทุม (บิดาของสรอรรถ กลิ่นประทุม) ตามด้วยเป็นสมาชิกวุฒิสภาในปี 2524 และเป็นประธานรัฐสภาในปี 2526 ถึงปี 2527

          มารุ่นลูก บุตรชายหนึ่งเดียวของเขาอย่าง “จารุพงศ์” ก็เสรีไทยเหมือนกัน แต่เบี่ยงๆ ออกไปทางไหน คนไทยน่าจะรู้ดี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ