Lifestyle

รู้แล้วว่าจะว้าว! หน้ากากฯ ปัง เพราะกึ๋นใคร?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รู้กันแล้วว่า The Mask Singer ยอดเยี่ยม สุดติ่งความฮอตขนาดไหน และงานเบื้องหลังนี่สิ มาจากทีมงานคุณภาพ ที่ต้องบอก ว่าแซ่บ ว่าแต่มีใครกันบ้างมาดูกัน

          ถึงวันนี้ ไม่ต้องพูดกันมากความ ก็รู้แล้วว่า รายการ หน้ากากนักร้อง The Mask Singerยอดเยี่ยม สุดติ่งความฮอตขนาดไหน

          สำหรับเบื้องหน้าที่เราเห็นกันหน้าจอทีวี จากบนเวที เราก็รับรู้กันแล้วว่า เป็นความมหัศจรรย์ของรายการโทรทัศน์ไทยที่ทุกอย่างผสมผสานกลมกลืนสนุกลงตัว

          แต่งานเบื้องหลังนี่สิ มาจากทีมงานคุณภาพ ที่ต้องบอกเลยว่า “แซ่บ” ว่าแต่ รู้กันยังว่ามีใครกันบ้าง

          อันดับแรก ระดับมืออาชีพกลุ่มนี้ เป็นทีมที่ทำรายการ Thailand Got Talent มาก่อน

          ซึ่งการันตีกึ๋นอยู่พอสมควรว่าไม่ธรรมดา

          เพราะพวกเขา คือ ดาราราย ศรีจิตรแจ่ม (ดาว) Group Head ฝ่ายผลิตรายการ, ฐปกร ทวีศรี (พุ) Creativeจุฑาทิพย์ สุขมา (จอย) Creative นิติรัฐ รัตนชารี (เนติ์) Creative

          การที่พวกเขา รับโจทย์มาว่าต้องทำให้รายการ หน้ากากนักร้อง “สนุก” นั้น “ไม่ง่าย”

          และเมื่อแก่นของรายการนี้คือ หน้ากาก ก็แปลว่า จะไม่มีใครรู้ว่าภายใต้หน้ากากนั้น เป็นใคร ดังนั้น ความสนุกของรายการ The Mask Singer ก็คือ “ความลับ”

          เรื่องนี้ ดาว ดาราราย ศรีจิตรแจ่ม หัวหน้าทีม ได้บอกเล่าอย่างเปิดอก กับ เวบไซต์ mangozero ว่า เมื่อความลับของหน้ากาก คือจุดขาย คนภายใต้หน้ากากจะต้องเด็ดดวง รายการถึงจะตอบโจทย์

          อย่างแรกสุด คือการระดมพลทีม creative, ฝ่าย production มานั่งดูเทปรายการ ต้นแบบของเกาหลี จนได้ไอเดียว่าจะต่อยอดต่อไปยังไงให้เหมาะกับบ้านเรา

          ที่สำคัญ คือ ไม่หลุดธีม ไม่หลุดไบเบิ้ลของเจ้าของลิขสิทธิ์ ที่จะต้องเป็นคนดังที่มีเรื่องราวน่าสนใจ ชวนดราม่า เช่น บางคนไม่เคยร้องเพลงมาก่อน อีกประเภทคือเป็นศิลปินเลือดใหม่ที่คนติดตามเยอะ

          ดังนั้น การเลือกซุปตาร์ จึงต้องผ่านการหาข้อมูลว่าดารา นักร้อง พิธีกร หรือคนในวงการบันเทิง คนที่มีชื่อเสียงคนไหนที่สามารถร้องเพลงได้ แล้วสามารถร้องได้หลากหลาย แล้วเขาชอบความท้าทาย

          หรือพูดง่ายๆ ว่า ต้องมี “ลูกบ้า” มากพอที่จะกล้ามาเล่นกับรายการ

          แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ ต้องบอกว่า ไม่ง่าย เพราะเพียงแค่เริ่มติดต่อ ทางทีมงานก็ถูกปฏิเสธที่จะร่วมรายการมาเยอะ เพราะบางคนมองว่า การใส่หน้ากากแล้วร้องเพลงเหมือนโดนดิสเครดิต เขามีเอกลักษณ์แต่ใส่หน้ากากทับเอกลักษณ์เขา ยิ่งถอดหน้ากากมาเพราะแพ้ จะยิ่งเสียเซลฟ์

          “ยอมรับว่า “งง” มากๆ ในช่วงแรก คนที่เชิญไปก็งง ปฏิเสธมาเยอะ เลยหาคนจากหลากหลายวงการ”

           “อาจจะไม่ทั้งหมดทุกคนที่เปิดหน้ากากมาแล้วจะรู้จัก แต่ที่แน่ๆ เปิดมาแล้วต้องมีคนรู้จักชัวร์ 70% ดังนั้นการหาซุปตาร์ที่มาออกรายการต้องหลากหลายวงการ นักแสดง นักร้อง นักมวย นักกีฬา แต่ต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียง และคนรู้จัก เปิดมาแล้วต้องว้าว! ไม่ใช่ ว้า!”

          “แต่พอเทปออกไปได้สักพัก มีคนติดต่อกลับมาว่าอยากออกรายการนี้ เพราะเขาเห็นว่า ทั้งศิลปิน คนดังเบอร์ใหญ่ เบอร์เล็กมากันหมด คราวนี้มาให้เลือกเพียบเลย โดยที่เราไม่ต้องทำอะไร นั้นแปลว่ารายการน่าสนใจ และเขามองเห็นภาพชัดขึ้น”

          และหากถามถึงจุดเด่นหลักๆ ของ The mask Singer คืออะไร ดาวตอบเลยว่า มี 4 พอยท์ คือ

          1.ซุปตาร์ต้องร้องเพลงได้อย่างดี 2.รายการมีความสนุก ตลก ตรงจริตคนไทย 3. ชุดกับหน้ากากต้องอลังการงานสร้าง และ 4. โปรดัคชั่นต้องเล่นใหญ่ไปให้สุด

          สำหรับข้อแรก ดาวเล่าว่า ซุปตาร์ที่มานั้น ก็เป็นฮีโร่ของแฟนคลับของเขาอยู่แล้ว ยิ่งถูกจับมาใส่หน้ากากแล้ว ยิ่งมีความลึกลับ น่าค้นหา

          “ทุกคนจะมีคนที่เป็นฮีโร่ในใจอยู่แล้ว พอมีรายการที่คนใส่หน้ากาก ใส่ชุดเท่ๆ มาร้อง มันก็เหมือนเขาได้เห็นคนที่ชื่นชอบมาในลุคใหม่ที่ไม่คุ้นตา พอเฉลยออกมาก็ตื่นเต้น”

          ส่วนเรื่องความสนุกนั้น ต้องบอกเลยว่าครบเครื่อง!

          “อีกอย่างรายการเราไม่ได้แข่งกันแบบเอาเป็นเอาตาย รายการเราตลก เราหัวเราะเจ็บใจได้กับการทายผิด ทายถูก ซึ่งจุดนี้เรามั่นใจว่าคนพูดถึงเยอะ”

          สำหรับเรื่องชุด และหน้ากากนั้น อย่างที่เราเห็นกันแล้วว่า งดงามอลังการขนาดไหนนั้น ดาวเล่าว่า “หน้ากาก” ทั้งหมดนั้น ไม่ได้มาลอยๆ แต่มีความเกี่ยวข้องกับคนสวมใส่ ยิ่งทำให้มีเสน่ห์

          โดยเริม่ต้นทางรายการจะได้ผู้เข้าแข่งก่อน แล้วค่อยออกแบบหน้ากากตามเรื่องราวของเขา และตามที่เห็นเลยว่า ทุกหน้ากากจะใบ้บางอย่างถึงตัวตนของคนข้างในอยู่แล้ว ที่สำคัญ ทุกคนร้องจริง ร้องสด ไม่มีลิปซิงค์

          ส่วนเรื่อง โปรดัคชั่น ที่ว่า “ต้องเล่นใหญ่ไปให้สุด” นั้น แน่นอนว่า ต้องใช้งบมหาศาล มุมนี้ดาวเล่าอย่างอารมณ์ดีว่า ถ้าทำออกมาแล้วคนจ่ายตังค์ชอบ ก็ถือว่า “ผ่านฉลุย”

          “สิ่งที่กลัวคือกลัวทางผู้บริหารที่นี่ (หัวเราะ) เราอยากรู้ว่าผู้บริหารจะดูรายการเราแล้วชอบไหม ดูรู้เรื่องไหม ถ้าเขาชอบนั่นแปลว่าเราโอเคกับสิ่งที่ทำแล้ว มันเป็นรายการที่ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ เป็นสิ่งที่คนไทยไม่เคยเห็นโดยเฉพาะคนใส่หน้ากากมาร้องเพลง”

          ส่วนหากถามว่า “ความท้าทายของรายการนี้ คืออะไร ตอบเลยว่า “ทุกด้าน” ยิ่งการทำรายการที่ต้องเล่นกับความลับ ล้อกับความอยากรู้อยากเห็นของคนยิ่งยาก

          “การเอาซุปเปอร์สตาร์ของรายการมารวมกันทั้งหมดที่นี่ แล้ววัดว่าคนดูจะตามโจทย์เราได้ไหม นั่นคือการเปิดหน้ากากมาแล้วคนดูจะว้าว! ไหม เข้าสามารถร้องอ้อ! ได้ทันทีเลยไหมอย่างน้อยคนดู 70% รู้จัก เราพอใจแล้ว หากสังเกตดูอาจจะเคยได้ยินคนดูจะบ่นว่า เอาใครมาวะ กูไม่รู้จัก (หัวเราะ) แต่นั่นคือส่วนหนึ่ง สมมติเราเอาดาราเด็กมาก็จะได้คนกลุ่มหนึ่งที่รู้จัก อีกกลุ่มหนึ่งถ้าไม่รู้จักก็ไม่แปลก"

           นี่คือเคล็ดลับของรายการ หน้ากากนักร้อง ที่ ดาว ดาราราย ผู้หญิงเก่งของเวิร์คพอยท์นำมาบอกต่อ

           ส่วนหากถามว่าเธอคือใคร นอกจากข้อมูลเล็กน้อยที่บอกว่า เธอเคยเรียนที่โรงเรียนสตรีนครสรรค์แล้ว น่าจะยังมีข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจมากกว่านี้ ซึ่งวันหน้า “คมชัดลึก” จะนำเรื่องราวของเธอมาเล่าสู่กันฟังในไม่ช้า

           แต่ยังมีบางมุมที่ทีมงานพูดถึงเธอว่า ดาวคนนี้เป็นพี่ ที่น้องๆ ทีมงานรักเคารพและนับถือในความสามารถ เพราะเธอจะสอนให้น้องไม่หยุดอยู่กับที่ ไม่ต้องไปพะวงรายการอื่น เรามองเฉพาะของเรา มองเฉพาะทีมเรา

          “ทุกวันคือความท้าทาย พี่ดาวทำงานที่เวิร์คพอยท์มานาน เขาเซ้นส์ดี มีรสนิยมของเวิร์คพอยท์ รู้ว่าองค์รวมใครจะชอบอะไร และทำงานกับเขาโจทย์แรกที่เราต้องผ่านก็คือตัวเขา ถ้าเขายิ้ม เรารอด (หัวเราะ)”

          หรือนี่จะเป็นไม้เด็ดของจริงของรายการ “หน้ากากนักร้อง”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ