"สุราษฎร์ธานี" น้ำป่าทะลักท่วมแล้ว 2 อำเภอ กระทบชาวบ้าน 8 ตำบล 30 หมู่บ้าน 1520 ครัวเรือน 5,180 คน หลังรับมวลน้ำจากนครศรีธรรมราช ส่งผลทำให้โรงเรียนปิดการเรียนการสอนแล้ว 2 แห่ง ขณะที่ปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่ต้นน้ำ 170 มล.
27 พ.ย. 2566 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ส่วนท้องถิ่น และ ทหาร นพค.46 ลงพื้นที่ ให้ช่วยเหลือชาวบ้าน ที่บ้านปากคู ม.1 ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี หลังชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากล้นคลองกระแดะ เข้าท่วมถนนสายปากคูระยะทางกว่า 1.5 กม. ระดับน้ำ 50-80 ซม. ทำให้รถเล็กสัญจรลำบาก และน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในที่ลุ่มบางจุดน้ำสูงเกือบหนึ่งเมตร ประชาชนต้องนำสิ่งของและรถยนต์ไว้ที่สูง โดยจุดนี้มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 150 ครัวเรือน โดยพื้นตำบลช้างซ้าย มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบในพื้นที่ หมู่ 1 ,3, 6, และ 11 ประชาชนกระทบกว่า 300 ครัวเรือน ทั้งที่น้ำท่วมบ้านและท่วมเส้นทางสัญจรและโรงเรียนที่ต้องหยุดทำการสอนเป็นการชั่วคราวในพื้นที่น้ำท่วมขัง
ด้านนายพูลศักดิ์ โสภณปทุมรักษ์ นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ ที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและเยี่ยมชาวบ้าน กล่าวว่า ตอนนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 5 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลช้างซ้าย, ต.ช้างขวา, ต.กรูด, ต.ท่าอุแท, ต.คลองสระและ ต.ป่าร่อน เบื้องต้นมีชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้ว 27 หมู่บ้าน 1,200 ครัวเรือน
ถึงแม้ฝนในพื้นที่จะลดระดับและทิ้งช่วงให้บ้างแล้ว และทำให้น้ำลดระดับเล็กน้อย แต่ยังต้องเฝ้าระวังน้ำจากตอนบนที่ไหลมาจาก อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช และน้ำจากต้นน้ำในพื้นที่คลองสระ วัดปริมาณน้ำฝนได้ 170 มล.ซึ่งคาดว่าจะไหลถึงพื้นที่ในช่วงเย็นวันนี้ โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัด คอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยชาวบ้าน และช่วงนี้ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจะทำให้น้ำป่าที่ไหลหลากลงมาถูกน้ำทะเลหนุนจึงทำให้มวลน้ำไหลอย่างล่าช้า
ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีพื้นที่น้ำท่วมบางจุดแล้ว จำนวน 2 อำเภอ คือ อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.ดอนสัก รวม 8 ตำบล 30 หมู่บ้าน 1,520 ครัวเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,180 คน วัดปริมาณน้ำฝนสูงสุดได้ในพื้นที่ต้นน้ำ ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ 170 มิลลิเมตร โดยเจ้าหน้าที่ในแต่ละพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนเบื้องต้นและประจำตามจุดบริการ รอช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ ที่มวลน้ำยังไหลไม่ถึงพื้นที่รับน้ำจากคลองสวาด บ้านปากฮาย ตำบลคลองสระ และเตรียมอพยพทรัพย์สินมีค่าไว้บนที่สูง
ขณะที่ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566) ฉบับที่ 9
หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซียจะเคลื่อนลงสู่ทะเลอันดามัน ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่าง และภาคใต้ตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชน บริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทย ตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็ก บริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งอีก 1 วัน รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง
สุวรรณี บัณฑิศักดิ์ จ.สุราษฎร์ธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง