ข่าว

เปิดโมเดลโคราชสู้ภัยแล้ง ภูมิปัญญาชาวบ้านดึงน้ำขึ้นที่สูง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สถาบันปิดทองหลังพระ ผนึกภาครัฐและเอกชนช่วยเกษตรกรในพื้นที่โคราชสู้ภัยแล้ง ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านผสมผสานการใช้เทคโนโลยีดึงน้ำขึ้นที่สูง


นายกฤษฎา บุญราช ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เป็นประธานเปิดเครื่องสูบน้ำหางนาคตามภูมิปัญญาชาวบ้าน เพื่อดึงน้ำจากแหล่งน้ำที่อยู่ต่ำกว่าพื้นที่ของเกษตรกรเพื่อให้สามารถใช้น้ำนั้นได้ตามโครงการซ่อมแซมเสริมศักยภาพระบบกระจายน้ำคลองลุง บ้านจานเหนือ ม.13 ต.กำปัง อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา โดยได้รับงบประมาณในการจัดทำระบบชักน้ำขึ้นที่สูงดังกล่าวจากมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

เปิดโมเดลโคราชสู้ภัยแล้ง ภูมิปัญญาชาวบ้านดึงน้ำขึ้นที่สูง

 

นายกฤษฎา กล่าวว่าในปี 2565-2566 สถาบันปิดทองหลังพระฯ มีภารกิจที่สำคัญ เข้ามาช่วยซ่อมแซมเสริมศักยภาพแหล่งน้ำขนาดเล็กซึ่งหน่วยราชการไม่สามารถดำเนินการได้เพราะติดขัดระเบียบและงบประมาณมาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 9 จังหวัดลุ่มน้ำมูล ซึ่งเป็นพื้นที่แล้งซ้ำซาก

นายกฤษฎา บุญราช ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ

โดยจังหวัดนครราชสีมาเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายที่สถาบันปิดทองหลังพระฯได้เข้ามาดำเนินการที่หมู่บ้านจานเหนือ ต.กำปัง อ.โนนไทย ซึ่งมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่กรมทรัพยากรน้ำได้ก่อสร้างไว้แล้วโดยสามารถกักเก็บน้ำได้ 260,000 ลูกบาศก์เมตรแต่ประสบปัญหาเกษตรกรที่อาศัยอยู่รอบอ่างเก็บน้ำดังกล่าวไม่สามารถนำน้ำไปใช้เพาะปลูกทำการเกษตรได้ เนื่องจากระดับน้ำในอ่างอยู่ต่ำกว่าแปลงนาและพื้นที่ทำกินของเกษตรกร 

เปิดโมเดลโคราชสู้ภัยแล้ง ภูมิปัญญาชาวบ้านดึงน้ำขึ้นที่สูง

 

กลุ่มเกษตรกรจึงได้ร้องขอสถาบันปิดทองหลังพระฯเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขดังกล่าว สถาบันปิดทองหลังพระ จึงส่งอาสาสมัครผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาแหล่งน้ำซึ่งเป็นอดีตวิศวกรของกรมชลประทานลงมาสำรวจพื้นที่ ออกแบบวางระบบชักน้ำจากอ่างน้ำโดยใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านสูบน้ำด้วยท่อหางนาคให้ไหลเข้าบ่อขนาดเล็กก่อน เมื่อน้ำในบ่อเล็กมีระดับสูงขึ้นจนมีแรงดันเพียงพอแล้วได้ต่อท่อจากบ่อเล็กกระจายน้ำ สู่แปลงนาและพื้นที่ทำกินของเกษตรกรรายย่อย

เปิดโมเดลโคราชสู้ภัยแล้ง ภูมิปัญญาชาวบ้านดึงน้ำขึ้นที่สูง

เปิดโมเดลโคราชสู้ภัยแล้ง ภูมิปัญญาชาวบ้านดึงน้ำขึ้นที่สูง

ทั้งนี้เนื่องจากระดับพื้นที่ทำการเกษตรของเกษตรกรมีระดับแตกต่างกัน ดังนั้นในการวางท่อกระจายน้ำนั้นอาสาสมัครวิศวกรของสถาบันปิดทองหลังพระฯได้ใช้โดรนที่ติดเครื่องวัดระดับความสูงด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ขึ้นบินสำรวจระดับความสูงของพื้นที่เพื่อให้ทราบระดับความลาดเอียงของผิวดินและใช้เป็นข้อมูลในการวางท่อน้ำวีโฮไลท์ฝังไว้ใต้ดินลึกประมาณ 70 เซนติเมตร ซึ่งจะทำให้เกษตรกรไม่ต้องเสียพื้นที่ทำกินในการวางท่อน้ำ

เปิดโมเดลโคราชสู้ภัยแล้ง ภูมิปัญญาชาวบ้านดึงน้ำขึ้นที่สูง

รวมทั้งเกษตรกรก็ยังใช้รถไถหน้าดินได้ไม่มีผลกระทบต่อตัวท่อ ทำให้เกษตรกรสามารถใช้พื้นที่ดินของเกษตรกรได้เต็มศักยภาพ ไม่จำเป็นต้องขุดส่งน้ำหรือทำคลองไส้ไก่แบบเดิมที่ทำให้เสียพื้นที่ดิน โดยมีพื้นที่รับประโยชน์กว่า 300 ไร่ ทำให้เกษตรกรที่เคยทำนาได้ปีละครั้ง แต่หลังจากนี้สามารถทำเกษตรได้ตลอดทั้งปี ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น

เปิดโมเดลโคราชสู้ภัยแล้ง ภูมิปัญญาชาวบ้านดึงน้ำขึ้นที่สูง

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่อยอดอาชีพการเกษตรทฤษฎีใหม่หลังจากมีระบบน้ำ เช่น การปลูกข้าวแบบนาดำเพื่อเพิ่มผลผลิต การขุดร่องน้ำเพื่อเลี้ยงปลาในนาข้าว การปลูกหญ้าเนเปียร์เพื่อเป็นอาหารเลี้ยงแพะ เป็นต้น 


สำหรับงบประมาณที่ใช้ดำเนินงานโครงการนี้สถาบันปิดทองหลังพระได้รับงบประมาณสนับสนุนจากมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 580,000 บาทโดยสถาบันปิดทองหลังพระได้กำหนดเงื่อนไขการดำเนินงานโครงการ คือ

เปิดโมเดลโคราชสู้ภัยแล้ง ภูมิปัญญาชาวบ้านดึงน้ำขึ้นที่สูง

  1. ต้องมีการร้องขอจากเกษตรกรหรือประชาชนในพื้นที่หรือมีความต้องการจากประชาชน
  2. ระหว่างดำเนินงานโครงการของสถาบันปิดทองหลังพระ ประชาชนหรือเกษตรกรในพื้นที่ต้องยินดีเสียสละแรงงานเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการด้วย
  3. เมื่อโครงการเสร็จแล้ว ประชาชนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการต้องรวมกลุ่มบริหารจัดการในการใช้น้ำ บำรุงรักษา ตามกฎ กติกาที่ตกลงกันเอง
     

เปิดโมเดลโคราชสู้ภัยแล้ง ภูมิปัญญาชาวบ้านดึงน้ำขึ้นที่สูง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ