จ่อค้นจุด'เฮียหมู'ถูกลูกชาย สะใภ้จับขัง-วางยาเน้นหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์

13 ก.พ..2566 พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยภายประชุมชุดสืบสวนสอบสวน และเตรียมเข้าค้นจุดเกิดเหตุที่ เฮียหมู (นามสมมุติ) ให้ข้อมูลว่าถูกลูกชายและลูกสะใภ้บังคับกักขังหน่วงเหนี่ยว และใช้ยาสลบหมูผสมกับอาหารให้กิน ตั้งแต่ปี 2563 และลูกชายยังได้ยื่นต่อศาลขอพิทักษ์ทรัพย์และโอนทรัพย์สินจำนวน 65 ล้านมาเป็นผู้จัดการ 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โดยเจ้าหน้าที่จะเน้นใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสต์พิสูจน์ข้อเท็จจริงเนื่องจากคดีที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายกล่าวหาลูกชายตนเองถือว่าเป็นเหตุความรุนแรงในครอบครัว ส่วนกรณีที่เฮียหมูติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิตของภรรยาตนเองว่าเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมหรือไม่ ตำรวจจะใช้นิติวิทยาศาสตร์และการแพทย์เข้าพิสูจน์ทราบเนื่องจากภรรยาเฮียหมูเสียชีวิตเมื่อปี 63 พนักงานสอบสวนได้ทำสำนวนผลการชันสูตรพลิกศพไว้แล้ว โดยมีผลการตรวจพิสูจน์จากทางแพทย์ไว้โดยละเอียด ตำรวจจะแกะรอยจากผลดังกล่าว

 

และเท่าที่ตรวจสอบผล พบว่ามีสิ่งตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ตำรวจสงสัย ก็จะไปทำการตรวจพิสูจน์โดยนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนสารตกค้างจะใช้ยาตามที่เฮียหมูให้การหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้จะต้องให้แพทย์ยืนยัน แต่ทราบว่าเป็นสารที่เกี่ยวกับยารักษาโรคซึมเศร้า และคาเฟอีน 

 

ผบก.จ.ฉะเชิงเทรา ยังบอกอีกว่าก่อนหน้านี้น้านี้เฮียหมูเคยเข้าแจ้งความแล้ว แต่ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่กล่าวอ้างโดยให้กลับไปปรึกษาญาติพี่น้องก่อนจะกลับมาแจ้งความอีกครั้ง

 

 

 

 

 

ส่วนหลักฐานการโอนเงินนั้น ยืนยันว่ามีหลักฐานอยู่ในสำนวน และเฮียหมูมีพยานหลักฐานเรื่องการโอนเงินด้วย เพราะนอกจากเฮียหมูจะดำเนินคดีทางอาญาแล้วยังดำเนินคดีทางแพ่งคู่ขนานไปด้วย โดยจะต้องสอบพยานแวดล้อมเพื่อชี้ให้เห็นมูลเหตุจูงใจ

 

ขณะเดียวกัน เฮียหมู ซึ่งเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่าตนเองมีหลักฐานการโอนเงินทั้งหมด ส่วนหลักฐานการวางยาตนเองและภรรยาต้องให้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ แต่ตนจำทุกจุดที่ถูกกระทำได้ สำหรับข้อสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิตของภรรยา ที่ถูกอ้างว่าผูกคอตายนั้นเนื่องในห้องที่ถูกกักขังไม่มีอะไรในห้องจะฆ่าตัวตายได้อย่างไร  จึงต้องการดำเนินคดีเพื่อที่จะต้องการให้ทราบว่าภรรยาตนเองเสียชีวิตอย่างไร และยืนยันว่าสิ่งที่พูดนั้นเป็นเรื่องจริง

 

นอกจากนี้เฮียหมูยังได้ฝากบอกถึงลูกชาย ให้กลับมารับผิดในสิ่งที่กระทำไว้ และฝากไปถึง ครอบครัวของลูกสะใภ้ให้สำนึกผิดได้แล้ว    

 

 

 

สำหรับเรื่องราวของเฮียหมู ถูกเปิดเผยขึ้นหลังจากที่พนักงานไปรษณีย์ นำจดหมายของเฮียหมูไปส่งให้ญาติก่อนที่จะเข้าให้การช่วยออกมาจากบ้านของลูกสะใภ้ และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกลูกชายและลูกสะใภ้กระทำการทรมานตนเองนานกว่า 2 ปี เพื่อหวังฮุบสมบัติ