พบอีก 5 ราย "ผู้เสียชีวิต" กู้ร่างนำส่งชันสูตรแล้ว - พบกระเป๋าพลทหาร 1 นาย

อัปเดตการค้นหา ผู้สูญหาย ทางทะเล จากเหตุ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง กลาง ทะเลอ่าวไทย ซึ่งวันนี้เข้าสู่วันที่ 6 ของการปฏิบัติการค้นหา ล่าสุดการค้นหาครึ่งวันเช้า ได้รับคำยืนยันจากกองทัพเรือ ว่าพบร่าง "ผู้เสียชีวิต" เพิ่มรวม 6 ราย

 

 

โดยเมื่อช่วงเช้า ในช่วงเวลา 08.38 น. เครื่องบินลาดตระเวน ตรวจพบวัตถุลอยน้ำ ก่อนที่จะพบว่าเป็นร่าง "ผู้เสียชีวิต" 1 ราย โดย เรือหลวงกระบุรี ได้เข้าเก็บกู้และนำส่ง เรือหลวงตากสิน เพื่อเดินทางกลับมา พิสูจน์อัตลักษณ์ ต่อไป

 

ล่าสุดทาง ทวิตเตอร์ ของ กองทัพเรือ ROYAL THAI NAVY ได้โพสต์ข้อความว่า ได้พบ "ผู้เสียชีวิต" อีก 5 ราย ซึ่งทำการเก็บกู้แล้ว ดังนี้

 

เวลา 11.37 น. เรือหลวงตากสิน พบผู้เสียชีวิต 1 นาย (เคสดำ 9) เรือหลวงกระบุรี เข้าเก็บกู้

เวลา 12.10 น. เรือ ต.113 พบผู้เสียชีวิต 1 นาย (เคสดำ 10) เรือหลวงกระบุรี เก็บกู้

เวลา 12.15 น. อากาศยาน พบผู้เสียชีวิต 1 นาย (เคสดำ 11) เรือหลวงตากสิน เก็บกู้

 

กองทัพเรือ กำลังเข้าเก็บกู้ "ผู้เสียชีวิต" เคสดำ ที่ 12 และ 13 ดังนี้

 

เวลา 13.15 น. อากาศยาน พบผู้เสียชีวิต 1 นาย (เคสดำ 12) โดย เรือหลวงตากสิน กำลังเข้าเก็บกู้

เวลา 13.20 น. เรือหลวงกระบุรี พบผู้เสียชีวิต 1 นาย (เคสดำ 13) กำลังเข้าเก็บกู้

 

 

สำหรับร่างที่เก็บกู้ เตรียมที่จะนำขึ้นฝั่ง หลังจากเมื่อช่วง 10:36 น. ได้ลำเลียงร่างเเรกที่พบ ขึ้นมาส่งมูลนิธิทำการชันสูตรเบื้องต้น ส่ง พิสูจน์อัตลักษณ์ เพื่อบืนยันตัวตนบุคคลที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ

 

 

พบกระเป๋า พลทหารทวีศักดิ์ เเซ่เซียว

 

พื้นที่สุราษฎร์ธานี ได้รับการเเจ้งจากนักท่องเที่ยว ในพื่นที่ ต.เกาะเต่า อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎ์ธานี ระบุว่า พบกระเป๋าเป้มีบัตรของทหารเรือในช่วงสายของวันนี้ที่ ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน มีนักท่องเที่ยวพบ ซึ่งภายในมีบัตรของทหารเรือ ระบุชื่อ พลทหารทวีศักดิ์ แช่เชียว กองพันซ่อมบำรุง กรมสนับสนุน กองพลนาวิกโยธิน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าดำเนินการเก็บลง บันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรเกาะเต่า

 

สำหรับ พลทหารทวีศักดิ์ เเซ่เชียว อายุ 22 ปี คือ คนที่ปรากฎบริเวณเหนือเรือ ตอนที่ "เรือหลวงสุโขทัย"กำลังจะจม แล้วมีลายสักที่แขน ซึ่งแม่เคยออกมาบอกว่า จำได้เพราะมีลายสักที่เเขน เเละ ลูกไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพ 

 

ล่าสุดเจ้าหน้าที่เชิญครอบครัวของ พลทหารทวีศักดิ์ ไปที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมถาน ซึ่งเป็นสถานทีที่มีการลำเลียงร่างของทหารอีก 1 นาย ที่พบเมื่อช่วงเช้า โดย แม่ ของพลทหารทวีศักดิ์ เปิดเผย ด้วยความดีใจและแทบจะร้องไห้ออกมา ภายหลังการพบกระเป๋าลูกชายลอยไปติดบริเวณเกาะเต่า บอกว่าตอนนี้รู้สึกดีใจมาก ที่อย่างน้อยของส่วนตัวลูกชายก็มีการพบเจอ ส่วนตัวตอนนี้ให้ความหวังตัวเอง 50/50 แต่รู้สึกดีใจมาก หวังว่าลูกชายจะไปติดเกาะ ปลอดภัย อยากจะพูดบอกลูกชายว่าขอให้ลูกปลอดภัยกลับมา ถ้าลูกรอดกลับมาแม่จะบวชชีให้ แม่มารอลูกตรงนี้ 4 วันแล้ว

 

 

 

 

นักประดาน้ำ 53 นาย ลงค้นหาซาก "เรือหลวงสุโขทัย"

 

สำหรับแผนการค้นหาผู้สูญหาย "เรือหลวงสุโขทัย" ที่ อับปาง กลางทะเล ในวันนี้ ทางกองทัพเรือ ได้ให้ เรือหลวงตากสิน, เรือหลวงนเรศวร, เรือหลวงกระบุรี, เรือหลวงนราธิวาส, เรือ ต.114 และ เรือ ต.270 ลงพื้นที่ค้นหากลางทะเลเป็นวันที่ 6 พร้อมสนับสนุนด้วยอากาศยานประเภทต่างๆ ทั้งเครื่องบินแบบไร้คนขับ หรือ ยูเอวี. เฮลิคอปเตอร์ แบบซีฮอล์ค ที่ใช้ปราบเรือดำน้ำ และค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล รวมทั้งอากาศยานจากกองทัพอากาส และกองบินตำรวจ 

 

นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้ เรือหลวงราวี นำชุดนักประดาน้ำ และทีมแพทย์ทางทะเล จากกรมสรรพาวุธ กองทัพเรือ จำนวน 53 นาย ซึ่งเชี่ยวชาญด้านใต้น้ำ ออกค้นหาผู้ประสบภัยบริเวณจุดที่ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปางกลางทะเล โดยให้นักดำน้ำสำรวจภายนอกตัวเรือ เพื่อตรวจสอบความมั่งคงของเรือ โดย เรือหลวงราวี ได้ออกเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ และถึงที่หมายเมื่อเวลา 06.00 น. (วันที่ 24 ธ.ค.) จากนั้นในช่วงเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ทีมนักประดาน้ำจึงได้เริ่มปฎิบัติการค้นหาแล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้ทุกส่วนงานกำลังเร่งดำเนินการค้นหากันอย่างเต็มกำลังความสามารถ

 

 

ระดมเรือกู้ภัยมูลนิธิ 15 ลำ ค้นหาชายฝั่ง

 

นายเสฏฐ์ เลาหกรรณวนิช หัวหน้าชุดกองอำนวยการกู้ภัยสว่าง พร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยจำนวนประมาณ 200 นาย เรือเล็ก 15 ลำ โดรนทางอากาศ 2 ลำ โดนใต้น้ำ 1 ลำ ได้เข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือค้นหาลูกเรือ "เรือหลวงสุโขทัย" ที่ อับปาง ห่างฝั่งบางสะพาน 15 ไมค์ทะเล เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยฝ่ายกองทับเรือได้ใช้เรือรบจำนวน 4 ลำ เรือตำรวจน้ำ 2 ลำ แล่นห่างชายฝั่ง 10 ไมค์ทะเลขึ้นไป เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ อากาศยานไร้คนขับ 2 ลำ เครื่องบิน 1 ลำ และเรือเล็กอีก 9 ลำ ระดมค้นหา ตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี 

 

โดยกำลังส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครในเขต ประจวบคีรีขันธ์ จากชลบุรี สมุทรสาคร ปทุมธานี ชุมพรและสุราษฎร์ธานี ทั้งหมดเครือสว่าง 14 มูลนิธิ ที่รวมตัวกันประมาณ 200 นาย ได้รับมอบหมายภารกิจจากศูนย์เฉพาะกิจ ให้นำเรือขนาดเล็กคือ ท้องวี ขนาดเครื่อง 30-40 แรง พร้อมเจ็ตสกี 15 ลำ ออกสำรวจเป็นหน้ากระดาน โดยมีโดรนอากาศยานที่ได้ขออนุญาตในการบิน สแกนร่วมกับเรือเล็ก และโดรนใต้น้ำที่จะเข้าไปในจุดต้องสงสัย โดยออกปฏิบัติการแบบปูพรหม จากชายฝั่งทะเลตั้งแต่จุดบริเวณท่าเรือบางสะพาน วิ่งลงสู่ทิศใต้ จนสุดเขตประจวบคีรีขันธ์น้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

 

 

โดย : สุรยุทธ  ยงชัยยุทธ์ / จิรเดช  พัฒนศิริ