ผู้ประกอบการโรงแรม นักธุรกิจท่องเที่ยวในสตูล รุกยื่นหนังสือผู้ว่าฯ ค้านด่าน ตม. เกาะหลีเป๊ะ
วันที่ 21 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวรัตนา คงนวล อายุ 52 ปี เจ้าของธุรกิจร้านอาหารในตัวเมืองจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นตัวแทนยื่นหนังสือเอกสาร เรื่อง ขอยกเลิกด่าน ตม. เกาะหลีเป๊ะ ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มี นายศักดา วิทยาศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ออกมารับหนังสือหน้าห้องสำนักงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูล ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดสตูล
นางสาวรัตนา กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ถึงสาเหตุของปรากฏการณ์ดังกล่าวอาจจะเพราะด้วยสาเหตุหลายประการ ทั้งที่เป็นปัจจัยภายนอกและภายใน หากแต่มีสาเหตุหนึ่งที่พวกข้าพเจ้ามีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ความเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจในเมืองสตูล เริ่มเกิดขึ้นจากปัจจัยของนโยบายของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล และจังหวัดสตูลที่ได้ตั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองที่เกาะหลีเป๊ะ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557
ที่จากเดิมนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาเที่ยวจังหวัดสตูลไม่ว่าจะเป็นบนฝั่งหรือทะเลล้วนจะต้องเข้ามาประทับตราหนังสือเดินทางที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองสตูล ที่จะเดินทางไปเที่ยวเกาะแก่งหรือที่ต่างๆ ซึ่งหมายถึง นักท่องเที่ยวเหล่านั้นจะต้องเข้ามาพักผ่อนและมีการใช้จ่ายในกิจกรรมต่างๆ ในระหว่างที่พำนักอยู่ในที่แห่งนี้ ซึ่งหากย้อนเวลาได้ในยุคนั้นจะทำให้นึกถึงบรรยากาศความคึกคักของเมืองเป็นอย่างมากและได้ทำให้ทุกอาชีพในพื้นที่แห่งนี้สามารถดำรงชีวิตและธุรกิจของตนเองได้อย่างดีเยี่ยมหากแต่ภาพเหล่านั้นได้กลาย เป็นอดีตไปแล้ว
และกลายเป็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดค่อยๆ หายไปจน เมืองแทบจะกลายเป็นเมืองร้างเข้าไปทุกที เมื่อเป็นเช่นนี้ คำถามที่เราจะต้องการคำตอบคือ การตั้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่เกาะหลีเป๊ะ คือการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นและส่งผลให้เศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัดสตูลดีขึ้นจริงหรือไม่ หรือจากกรณีดังกล่าวนี้ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจของคนสตูลทั้งหมดอย่างไรบ้าง
นายธนิตศักดิ์ ธนาศักดิ์กุลศิริ มัคคุเทศก์จังหวัดสตูล กล่าวเป็นเช่นเดียวกันอีกว่า เพื่อให้มีการวิเคราะห์ถึงรากปัญหาของสิ่งที่เป็นอยู่ที่ว่าสตูลกำลังจะเป็นเมืองร้างนั่นคือความเป็นจริงหรือเป็นเพียงวิตกจริตของพวกเราเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เรายังมีความเชื่อบนฐานของข้อเท็จจริงที่ว่าหากมีการยกเลิกด่านตรวจคนเข้าเมืองที่เกาะหลีเป๊ะและให้กระบวนการดังกล่าวกลับไปสู่รูปแบบเดิมเช่นเมื่อก่อนนั้นจะทำให้การกระจายตัวของระบบเศรษฐกิจไปสู่กลุ่มธุรกิจและผู้ประกอบการอื่นๆ ได้อย่างทั่วถึงเพราะสมมติฐานที่ว่าหากนักท่องเที่ยวตั้งใจที่จะเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ เขาก็ต้องทำทุกทางเพื่อจะไปให้ได้และต้องถือว่าการเดินทางจากฝั่งหรือการทำให้นักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งที่สตูลคือการกระจายเม็ดเงินให้กับทุกองค์ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของนักท่องเที่ยวตั้งแต่การกินอยู่การใช้ชีวิตการเดินทางและอื่นๆ และเชื่อว่าจะทำให้การท่องเที่ยวบนฝั่งจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
เรายังไม่เคยได้รับเสียงตอบรับจากหน่วยงานรัฐในระดับท้องถิ่นหรือในระดับประเทศแม้แต่น้อย ตกลงโรงเรียนนี้และถือเป็นความอึดอัดของพวกเราในฐานะผู้ประกอบการและคนที่ทำมาหากินบนฝั่งแผ่นดินเมืองสตูลทั้งที่เคยมีการยื่นหนังสือไปหลายครั้งซึ่งรวมถึงครั้งที่นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางมาจังหวัดสตูลเมื่อปี พ.ศ. 2560 นั้นด้วย
ในขณะที่ปัญหาดังกล่าวนี้อยู่ในวิสัยอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดที่สามารถตัดสินใจได้แต่ด้วยเพราะความไม่เข้าใจหรือความตั้งใจภายใต้เหตุผลบางประการที่เราไม่อาจรู้ได้จึงทำให้เรื่องนี้นิ่งสงบ และไม่เคยมีเสียงตอบรับใดๆ ดังออกมาจากศาลากลางจังหวัดสตูล จึงยิ่งยังความสงสัยว่า ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่เกาะหลีเป๊ะนั้นมีผลประโยชน์ใดแอบแฝงกับใครบางคนบางกลุ่มเป็นการเฉพาะด้วยหรือไม่อย่างไร
และเราเชื่อแน่ว่าความคิดเห็นต่อเรื่องนี้แม้แต่ผู้ประกอบการ ในเกาะหลีเป๊ะเองก็มีความอึดอัดใจไม่น้อยไปกว่าเราเช่นกันดังนั้นการสร้างเหตุผลเพียงบางมุมต่อเรื่องการนำด่านตรวจคนเข้าเมืองไปตั้งที่เกาะหลีเป๊ะจึงเป็นเหตุผลที่ไม่ได้วิเคราะห์ผลกระทบอย่างรอบด้านจึงจำเป็นต้องกลับมาศึกษาทบทวนโดยคำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยภาพรวมของจังหวัดสตูลทั้งหมดด้วยเช่นกันมิใช่ปล่อยเลยให้พวกเราต้องดำรงอยู่ในสภาพเช่นนี้อีกต่อไป
พร้อมกันนี้กลุ่มที่เรียกร้องการยื่นหนังสือคัดค้าน ตม. ที่เกาะหลีเป๊ะ กล่าวอีกว่า ในนามของเครือข่ายผู้ประกอบการห้างร้าน ผู้ได้รับผลกระทบจากด้านเศรษฐกิจจังหวัดสตูล รวมทั้งผู้ประกอบการต่างๆ ที่ทำธุกิจในจังหวัดสตูล จึงขอเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลดำเนินการแก้ไขปัญหาและหาทางออกต่อเรื่องนี้ด้วยกัน
1. ประสานงานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. เพื่อให้มีการดำเนินการยกเลิกหรือยุบด่านตรวจคนเข้าเมืองที่เกาะหลีเป๊ะ 2. ให้กลับมาใช้ที่สำนักงานที่ตั้งอยู่ในเมืองสตูลเหมือนเช่นเดิม 3. ขอให้มีการกำหนดมาตรการส่งเสริมหรือกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองสตูลในมิติต่างๆ เพื่อให้เมืองกลับมามีชีวิตและมีความคึกคักดังเช่นเมื่อก่อนอีกครั้ง ทั้งนี้ จะต้องสร้างกระบวนการขับเคลื่อนที่ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
นายศักดา วิทยาศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า ได้รับหนังสือแล้วจะเร่งดำเนินการเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมจะต้องตั้งคณะกรรมการประชุมหาแนวทางต่อไป ส่วนด้านอำนาจในจังหวัดไม่มีสิทธิ์ที่จะยกเลิกการตั้งด่าน ตม. ที่เกาะหลีเป๊ะได้ ต้องเรียนถึงทางรัฐบาลต่อไป
-----------------
เอนก ขันทสิกรรม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค คมชัดลึก จ.สตูล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง