ข่าว

อธิรัฐ ลุยตรวจแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงทรุด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กำแพงเพชร - คมข่าวทั่วไทย

 

 

          กำแพงเพชร -  "ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ" รมช.คมนาคม เดินทางตรวจราชการ ปัญหาน้ำกันเซาะตลิ่งพังริมแม่น้ำปิง พบร่องรอยการพังทลาย ระยะ 4 กม. อยู่ระหว่าง 2 หมู่บ้าน ในพื้นที่จ.กำแพงเพชร  พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการขุดลอกแม่น้ำปิงเพื่ออุปโภคบริโภคและทางการเกษตร

 

 

          ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ ผมม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า โดยเดินทางถึงจังหวัดกำแพงเพชร ได้ไปติดตามงานนโยบายของรัฐบาล ในการสนับสนุนงบประมาณในการขุดลอกแม่น้ำปิง ในพื้นที่ตำบลวังแขม อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร  ตามที่ นายชัยวัฒน์ พันธ์วิทยากูล องค์การบริหารส่วนตำบลวังแขม ขอความอนุเคราะห์ขุดลอกแม่น้ำปิง บริเวณหมู่ที่ 1,2 และ 3 ตำบลวังแขม เนื่องจากเกิดการทับถมของตะกอนทราย เกิดสันดอนขนาดใหญ่ขวางทางน้ำ ทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 2   สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ ได้เริ่มดำเนินการขุดลอกแม่ปิง ตำบลวังแขม อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น ปัจจุบันสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 2   ได้ดำเนินการขุดลอกแม่น้ำปิงแล้วเสร็จ ประชาชนสามารถใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคและเกษตรกรรมได้

 

          ดร.อธิรัฐ ได้เดินทางต่อไปที่ตำบลเทพนคร และได้ ไปยังจุดที่เป็นปัญหาความเดือดร้อน นั่นก็คือบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำปิง ซึ่งพบร่องรอยการพังทลาย ระยะ 4 กิโลเมตร 500 เมตร อยู่ระหว่าง 2 หมู่บ้าน คือหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 16 เดิมริมตลิ่งจะมีบ้านเรือนของราษฎรอยู่ประมาณ 5-6 หลัง น้ำกัดเซาะตลิ่งพังจนต้องโยกย้ายออกจากพื้นที่ และล่าสุด กินมาถึงบริเวณถนนสาธารณะ ซึ่งจะกระทบต่อการสัญจรและกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน รวมทั้งพื้นที่ทำการเกษตร นายนเรศ อินทปัตย์ นายกเทศมนตรีตำบลเทพนครได้ยื่นหนังสือ ถึง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

 

          ด้านนายสมศักดิ์ ผมม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่าการช่วยเหลือในระยะสั้นต้องดูดทรายชายฝั่งตรงข้ามแม่น้ำปิงที่ทับถมจนเป็นสันดอนมา มาถมฝั่งที่ตลิ่งพังและการดูดทรายจะช่วยเปลี่ยนทางน้ำไหลลดการกัดเซาะริมตลิ่ง  และแผนระยะยาวต้องจัดสรรงบประมาณ ทำเขื่อนตลิ่งหินทิ้งอย่างถาวร ซึ่งรัฐมนตรีช่วยได้พบปะและนำปัญหาเข้าสู่ ครม.เพื่อดำเนินการต่อไป

 

 

อธิรัฐ ลุยตรวจแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงทรุด

 

 

อธิรัฐ ลุยตรวจแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงทรุด

 

 

อธิรัฐ ลุยตรวจแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงทรุด

 

 

อธิรัฐ ลุยตรวจแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงทรุด

 

 

อธิรัฐ ลุยตรวจแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงทรุด

 

 

อธิรัฐ ลุยตรวจแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงทรุด

 

 

          หลังจากนั้นเดินทางไปในพื้นที่ อำเภอโกสัมพีนคร พบปัญหาเดียวกัน คือน้ำกัดเซาะตลิ่งพัง นางสาวนภัสวรรณ บุตรดี นายก อบต.ลานดอกไม้ตก เปิดเผยว่าบริเวณดังกล่าว เป็นแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงซึ่งมีการทรุดพังเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ริมถนนระหว่างบ้านอยู่ที่ 1 กับหมู่ 8 แนวทางแก้ไขของคือการจัดทำเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง และทำลายเกาะกลางแม่น้ำเพื่อเปลี่ยนทางน้ำไหล ไม่ให้พุ่งมาที่แนวตลิ่ง จากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในปี พ.ศ.2554 กินระยะพื้นที่เข้ามายังฝั่ง 20เมตร​ ส่งผลให้บ้านเรือนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งต้องอพยพออกจากพื้นที่

 

          ขณะที่ นายนิตพิฐพนธ์ คูรัตนศิริ​ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทรงธรรม ได้ยื่นหนังสือ ปัญหาเดียวกันของตำบลทรงธรรมบ้านไร่เหนือ ระยะการแนวตลิ่งยาว 3 กิโลเมตรติดต่อกับเขตของตำบลลานดอกไม้ ซึ่งท้องถิ่นได้แก้ปัญหาระยะสั้น โดยการนำต้นยูคา ปักเป็นแนวเขตและทรายใส่กระสอบทิ้งเป็นแนวยาว 120 เมตร ลดการกัดเซาะ ที่กินพื้นที่แผ่นดินหายไปเป็นระยะ 8 เมตร​ ส่งผลกระทบซึ่งก็คือถนนในการสัญจรสำคัญของหมู่บ้าน และบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ตามแนวตลิ่ง

 

          นางสาวมัชฌิมา จันทราพร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโกสัมพี ยื่นหนังต่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้างถนนหลายโครงการในเขต อบต.โกสัมพี ขอความอนุเคราะห์ติดตามงบประมาณที่ขอรับการสนับสนุนอุดหนุนเฉพาะกิจประจำปีงบประมาณ 2562 เป็นเงินจำนวนกว่า 9 ล้านบาท เป็นงบที่อุดหนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของหมู่บ้านซึ่งเป็นงบประมาณที่ตกค้างในรัฐบาลที่ผ่านมา จึงได้เรียนหนังสือเพื่อที่จะให้ได้งบประมาณมาพัฒนาท้องถิ่นได้ให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากรัฐต่อไป

 

          ในโอกาสเดียวกันนี้ นายสดุดี พุทธังนายอำเภอโกสัมพีนคร หน้ารายงานความต้องการของราษฎรในพื้นที่ที่ต้องการให้มีสะพานข้ามระหว่างแม่น้ำปิงทั้งสองฝั่ง เนื่องจากอำเภอโกสัมพีนครมีพื้นที่ถูกแม่น้ำปิงผ่ากลาง แบ่งพื้นที่เป็นสองฝั่ง การสัญจรไปมาในการติดต่อราชการกับทางอำเภอก็ยากลำบาก เนื่องจากต้องอ้อมไปยังสะพานที่ข้ามแม่น้ำปิงที่อยู่ไกล นับสิบ ยี่สิบกิโลเมตร สิ้นเปลืองทั้งค่าใช้จ่ายและยังกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวและความปลอดภัย หากมีสะพานก็จะสามารถเชื่อมทั้งสองฝั่งไปมาหาสู่กันง่ายขึ้น เกิดความคล่องตัวและยังติดกับถนนสายเอเชียระหว่างกรุงเทพฯเชียงใหม่ ก็สามารถส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อย่างดีถ้าหากมีสะพานข้ามแม่น้ำปิง

 

 

อธิรัฐ ลุยตรวจแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงทรุด

 

 

อธิรัฐ ลุยตรวจแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงทรุด

 

 

อธิรัฐ ลุยตรวจแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงทรุด

 

 

อธิรัฐ ลุยตรวจแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงทรุด

 

 

อธิรัฐ ลุยตรวจแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงทรุด

 

 

อธิรัฐ ลุยตรวจแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงทรุด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ