นครราชสีมา - คมข่าวทั่วไทย
นครราชสีมา- วันนี้(15กรกฎาคม 2562) แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ โดยประชากรอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป มีจำนวนมากกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด และมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำนวนประชากรผู้สูงอายุจาก 7.5 ล้านคนในปี 2553 เพิ่มเป็น 9.7 ล้านคนในปี 2557 และคาดว่าในปี 2583 หรืออีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า ผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็น 20.5 ล้านคน ส่งผลให้ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมสุขภาพเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุเป็นการเร่งด่วน
เนื่องจากพบว่า ผู้สูงอายุเจ็บป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 41 โรคเบาหวานร้อยละ 10 และโรคข้อเข่าเสื่อม ร้อยละ 9 อีกทั้งยังเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ ได้เพียงร้อยละ 56.7 ดังนั้นการส่งเสริมการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนและชะลอชราไม่ให้เสื่อมสภาพด้วยการรวมกลุ่มของผู้สูงอายุ จึงเป็นกระบวนการจัดการปัญหาที่จะเกิดขึ้นโดยตรงกับผู้สูงอายุเอง เพื่อให้ผู้สูงอายุเข้าถึงและเข้าใจปัญหาสุขภาพ สามารถตัดสินใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงให้มีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ และสามารถบอกต่อการจัดการสุขภาพที่มีประสิทธิภาพแก่บุคคลอื่นได้ ซึ่งจะทำให้เป็นผู้สูงอายุมีคุณภาพและมีสุขภาพดีได้ตลอดช่วงชีวิต
กรมอนามัย โดยศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา จึงจัดประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “อนามัย สูงวัย ใจทำดี เขตสุขภาพที่ 9” ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา จังหวัดนครราชสีมา เพื่อบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน อาทิ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เครือข่ายศูนย์วิชาการในเขตสุขภาพที่ 9 และภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนแนวคิด “อนามัย สูงวัย ใจทำดี เขตสุขภาพที่ 9” ดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนารูปแบบการขับเคลื่อนงานชมรมผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน
ด้านนายแพทย์วีรพล กิตติพิบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา กล่าวว่า ที่ผ่านมา ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา ได้พัฒนาสุขภาพผู้สูงอายุที่ครอบคลุม ตั้งแต่สุขภาพดีจนถึงระยะเจ็บป่วย ตั้งแต่กลุ่มติดเตียง ติดบ้าน และติดสังคม ครอบคลุมทุกปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ด้วยกิจกรรมต้นแบบเตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ (pre-aging) คือ กลุ่มอายุ 45-59 ปี ด้วยกิจกรรม 7 ภารกิจพิชิตพุง การตรวจคัดกรองสุขภาพเคลื่อนที่ ส่วนผู้สูงอายุ (aging) กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป ดำเนินกิจกรรม Anamai Aging Activities : ไม่ล้ม ไม่ลืม ไม่ซึมเศร้า กินข้าวอร่อย เป็นการพัฒนารูปแบบส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในโรงพยาบาลและพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เพื่อป้องกันปัญหา 4 ประเภทที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ได้แก่ หกล้ม สมองเสื่อม ซึมเศร้า และภาวะโภชนาการจากปัญหาช่องปากและฟันสำหรับผู้สูงอายุ (preventive) ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นแต่ป่วยติดเตียงติดบ้าน เป็นกลุ่มที่มีภาวะพึ่งพิง (Long Term Care : LTC) ได้ดำเนินการผลิตผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) และผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Care Giver) ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 9 ซึ่งขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 11,092 คน ไปทำหน้าที่ฟื้นฟูให้ผู้สูงอายุกลุ่มนี้กลับมาเป็นกลุ่มติดสังคมได้ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง