จับแก๊งมอดไม้พร้อมของกลางลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย สารภาพขายนายทุนชาวจีน
7 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายจิณณะ สามศรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยนำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
ชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 3 จังหวัดอุบลราชธานีเดินลาดตระเวนตามแผนป้องกันพิทักษ์ป่าภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูจองยอย มาถึงบริเวณป่าภูดินแดง ด้านทิศใต้บ้านคำบาก ตำบลห้วยข่าอำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 16 กิโลเมตรในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยและเป็นพื้นที่ทับซ้อนเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าบุณฑริกพบกลุ่มคนประมาณ 5 คน กำลังลักลอบตัดไม้พะยูงจึงนำกำลังปิดล้อมแสดงตัวเข้าจับกุมเมื่อรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ต่างพากันวิ่งหลบหนีอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้
เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามสามารถจับกุมตัวได้ 2 คนทราบชื่อนายพุฒ แสงสัน อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 3 ตำบลนาจะหลวย อำเภอนาจะหลวยจังหวัดอุบลราชธานี และนายอ้วน ธันวิมา อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136หมู่ 9 ตำบลนาจะหลวย อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมไม้พะยูงจำนวน 8 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 0.163 ลบ.ม. และอุปกรณ์ในการกระทำผิด มีดจำนวน 2 เล่ม ดวงไฟชนิดคาดศีรษะ จำนวน 5 ดวง หินลับมีด 1 อัน ตลับเมตรจำนวน 1 อัน กระเป๋าสะพายสีดำ จำนวน 1 ใบ และกระสอบปุ๋ยสีฟ้า จำนวน 4 ใบ
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าร่วมกับพวกที่หลบหนีไปได้ได้แอบลักลอบเข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย เพื่อลักลอบตัดไม้พะยูงจากนั้นจะนำเอาไม้พะยูงไปขายให้กับนายทุนชาวจีนที่มารอรับซื้อที่ชายแดนไทย-ลาว ในราคากิโลกรัมละ120 บาท ที่บริเวณช่องคำปากั้ง เขตติดต่อกับบ้านห้วยทราย เขตเมืองมนแขวงจำปาสัก ประเทศลาว
จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันทำไม้หวงห้าม โดยไม่รับอนุญาต,ร่วมกันแปรรูปไม้พะยูงและมีไม้พะยูงแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันเก็บหานำออกไปหรือทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้หรือทรัพยากรธรรมชาติอย่างอื่นและร่วมกันทำไม้ หรือทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต
เรื่อง / ภาพ วิชิต มีสวัสดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง