กาฬสินธุ์ - คมข่าวทั่วไทย
วันที่ 3 กรกฎาคม 2562 จากการติดตามบรรยากาศการทำนา ของชาวนาในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นสมาชิกศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ พื้นที่ประมาณ 11,400 ไร่ แบ่งเป็นปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 จำนวน 7,600 ไร่ ปลูกข้าวเหนียว กข.6 จำนวน 3,800 ไร่ กระจายในเขตใช้น้ำชลประทานลำปาว 2 อำเภอคือ อ.ยางตลาด และ อ.กมลาไสย รวมทั้งนอกเขตชลประทานหรือนาน้ำฝนในเขต อ.คำม่วง อ.สมเด็จ และ อ.นามน พบว่ามีการปักดำทำนากันเต็มพื้นที่ หลังจากมีฝนตกมาอย่างต่อเนื่องนานติดต่อกันกว่า 2 วัน ทำให้มีน้ำในการปักดำนา
ขณะที่นายคารมย์ ขุนหล้า ผู้อำนวยการเมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์เปิดเผยว่า ในฤดูกาลผลิตข้าวนาปี 2561 ที่ผ่านมา ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ มีโควตาการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวได้ตามเป้าหมายจำนวน 3,900 ตัน แบ่งเป็นข้าวขาวดอกมะลิ 105 หรือข้าวเจ้าหอมมะลิจำนวน 2,000 ตัน ข้าวเหนียว กข.6 จำนวน 1,900 ตัน ทั้งนี้ เพื่อที่จะนำเมล็ดพันธุ์ดังกล่าว จำหน่ายให้ชาวนาได้ใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ สำหรับทำการเพาะปลูกในฤดูกาลผลิตปี 2562 ซึ่งได้จำหน่ายไปหมดแล้วตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
นายคารมย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของโควตาการผลิตข้าวนาปีในฤดูกาลผลิตปี 2562 ตั้งเป้าผลผลิตข้าวพันธุ์ดีจำนวน 3,600 ตัน แบ่งเป็นข้าวขาวดอกมะลิ 105 จำนวน 2,200 ตัน ข้าวเหนียว กข.6 จำนวน 1,100 ตัน และข้าวเหนียว กข.49 ในฤดูแล้งจำนวน 300 ตัน อย่างไรก็ตาม ก่อนทำการเพาะปลูก ได้รณรงค์ให้ชาวนาทำนาแบบดั้งเดิม โดยงดเผาตอซังข้าว ไถกลบ 2 ครั้ง ทำนาดำ งดทำนาหว่าน ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงบำรุงดิน เป็นการลดการทำลายหน้าดินที่เป็นสารอาหารของต้นข้าว รวมทั้งลดปัญหาสร้างมลพิษ โดยเฉพาะการทำนาดำ ยังช่วยให้การคัดแยกพันธุ์ข้าวปลอมปนได้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะได้ผลผลิตเมล็ดข้าวพันธุ์จำหน่ายได้ราคาสูง โดยราคารับซื้อของศูนย์เมล็ดข้าวกาฬสินธุ์ในปี 2561 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 18-19 บาท ขณะที่ข้าวเหนียว กข.6 รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 13-14 บาท ซึ่งสูงกว่าตลาดรับซื้อทั่วไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง