รุดเยี่ยมมอบเงินสิ่งของช่วยเหลือแม่ถูกหาว่าทิ้งลูก

 

 เมือเวลา 13.30  น. วันที่ 23 พ.ค. 2562 ที่ รพ.เลย   พ.ต.อ.ศักดิ์รพี ไพเมือง นายประมวล ลาภจิตต์ นายอุปถัมภ์ ลีสาน์สว ณิช นางภิรมย์ ภักดีมี พร้อมคณะ ผู้แทนชมรมชาวปักษ์ใต้จังหวัดเลย ได้เดินทางไปเยี่ยมนางหยาดฝน เทียมทัน อายุ 38 ปี ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 197 บ้านขอนแก่น หมู่ที่ 7 ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย ที่ห้องผู้ป่วยรวม โรงพยาบาลเลย ซึ่งปรากฏข่าวสารในสื่อมวลชนว่า คลอดบุตรคนที่ห้าทิ้งไว้ในสวนยางพารา เขตพื้นที่บ้านโนนสวรรค์ ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง และมีคนไปพบเมื่อวันที่ 20 พฤษภา คม 2562 ที่ผ่านมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

จนเกิดกระแสข่าววิพากวิจารณ์ว่า พบทารกแรกเกิด ถูกทิ้งไว้ในสวนยาง พารา จากการสอบถามนางหยาดฝน เทียมทันบ้านเดิม อยู่บ้านเลขที่ 11/1 หมู่ที่ 7 ต.กำพวน อ.สุขสำราญ จ.ระนอง มามีครอบครัวอยู่ที่บ้านขอนแก่น ต.เขาหลวงหลายปีแล้ว สามีอาชีพทำไร่ทำสวนและรับจ้างทั่วไป ต้องโทษอยู่ที่เรือนจำจังหวัดหนอง บัวลำภูมาหลาย ปีกำหนดพ้นโทษวันที่ 24 พฤษ ภาคม 2562 นี้ ทั้งคู่มีบุตรด้วยกันรวม 4 คน คนโตเพศชาย อายุ 13 ขวบ เรียนอยู่โรงเรียนมูลมังหลวงปู่ชอบ ฐานสโม อ.เชียงคาน คนที่สอง สาม และสี่ อาศัยอยู่กับปู่ - ย่า ที่บ้านขอน แก่น ส่วนบุตรคนที่ห้าที่คลอดใหม่ล่าสุด เพศชาย หลังจากถูกนำตัวส่งไปโรงพยาบาลเลย อาการปลอดภัย ตั้งชื่อว่า "น้องพารา " เนื่อง จากถูกพบในสวนนางพาราของขาวบ้าน

 

 

 

จากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แพทย์โรงพยาบาลเลย ได้ทำหมันให้นางหยาดฝน อย่างถาวรแล้ว และแจ้งว่าไม่มีความพร้อมที่จะเลี้ยงดูบุตร ประสงค์ที่จะมอบให้มูลนิธิ หรือสถานสง เคราะห์เด็ก รับไปดูแล ส่วนตัวเองจะเดินทางกลับไปอยู่ภูมิลำเนาเดิม ต่อไป ในการนี้ได้มอบเงินสดจำนวนหนึ่งพร้อมเสื้อผ้า เรื่องนุ่งห่มสำหรับเด็กเล็กและทา รกแรกเกิด ให้แก่นางหยาดฝน พร้อมติดต่อญาติทางภาคใต้ให้เดินทางมาเยี่ยม อนึ่ง มีข้าราชการบำนาญ ที่ปรึกษาชมรมชาวปักษ์ใต้จังหวัดเลย แจ้งความจำนงค์ที่จะรับน้องพารา ไว้ในความอุปการะดูแล หลังผ่านกระบวนการขั้นตอนการแจ้งเกิดและขั้นตอนของกระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเลยแล้ว ซึ่งนางหยาดฝน ก็ยินดีและไม่ขัดข้องแต่ประการใด              

ด้านสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเลย ได้ออกไปเยี่ยมบ้านของครอบครัวนี้ ส่วนแม่และเด็กยังพักรักษาตัวที่ รพ.เลย มีอาการตกเลือด   เมื่อออกจาก รพ.แล้วหากต้องการกลับไปภูมิลำเนาก็จะดำเนินการจัดส่งให้  ตอนนี้ไม่มีที่พักทางราชการก็ต้องหาที่อาศัยชั่วคราวให้ก่อน ก็จะทำความความประสงค์ของครอบครัวว่าเด็กนั้นจะส่งไปดูแลที่สถานสงเคราะห์เด็กให้ ส่วนทางผู้ใหญ่บ้านก็จะรับรองการเกิดและทำการแจ้งเกิดให้ถูกต้องตามกฎหมาย ใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กเข้าดำเนินการทุกขั้นตอนจะเยียวยาให้ตามระเบียบของทางราชการ  สำหรับคดี นั้นก็อยู่ในความรับผิดชอบของทางเจ้าหน้าทีตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป