ชัยภูมิ - คมข่าวทั่วไทย
เมื่อเวลา13.30 น. วันที่ 23 พ.ค. 2562 ร.ต.อ.สุพจน์ กริดกระกระโทก รอง สว.สอบสวน สภ.แก้งคร้อ รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภํยสว่างพุทธรรมแก้งคร้อ ว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพลิกคว่ำและมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก บริเวณถนนสาย 201 ชุมแพ -ชัยภูมิ ช่วงหมู่บ้านหนองไฮ ตำบลช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ จึงเร่งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบว่าชาวบ้านและอาสากู้ภัยกำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จำนวน 8 ราย ช่วยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลแก้งคร้อ ใกล้กันพบรั้วเหล็กกั้นขอบทางถูกชนพังจนรถกระบะดังกล่าวพุ่งตกลงไปข้างทาง ซึ่งเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ฎจ 4393 กทม. สภาพรถพังยับเยิน
จากการสอบถาม นายวรากร ศรีกุลวงษ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ที่ 5 ตำบลเขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย เล่าว่า ตนเองมีอาชีพขายล็อตเตอรี่ และเป็นคนขับรถคันดังกล่าว เพื่อนำภรรยาและแม่ยายพร้อมด้วยญาติรวมทั้งหมด 8 คน เดินทางมาจากอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เพื่อที่จะพากันไปขายล็อตเตอรี่ที่จังหวัดนครราชสีมา ขณะที่ถึงตัวอำเภอแก้งคร้อ ได้เกิดฝนตกหนัก ซึ่งตนเกรงว่าญาติๆจะเปียกฝนจึงได้จอดให้ญาติๆที่นั่งอยู่หลังกระบะทั้งหมด 7 คน เข้ามานั่งด้านหน้ารถทั้งหมด รวมเป็น 8 คน
จากนั้นก็ได้ขับรถมาได้ประมาณ 4-5 กม.เท่านั้น ถึงช่วงทางโค้งตนเองกลับหักพวงมาลัยไม่ได้เพราะว่ามีญาติมานั่งตรงเบาะหน้าข้างคนขับถึง 3 คน ตนจึงไม่สามารถหักพวงมาลัยรถได้สะดวกและประกอบเป็นช่วงทางโค้งพอดี จึงทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำแหกโค้งลงตกข้างทางพลิกคว่ำม้วนไปหลายตลบดังกล่าวขึ้น ก่อนที่จะมีพลเมืองดีใกล้เคียงเห็นเหตุการณ์แจ้ง เจ้าหน้าที่มาช่วยทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลไว้ได้ทัน ที่โชคยังดีครั้งนี้ที่ทุกคนที่เดินทางมาทั้งหมดด้วยกันเชื่อว่าเพราะมีวัตถุมงคลเกจิชื่อดังหลวงปู่ชอบเกจิชื่อดังของจ.เลยพกติดตัวมาด้วย จึงไม่มีใครบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิตในครั้งนี้ผ่านมาได้ และอยากฝากเตือนเหตุเพราะจากความประมาทที่ให้คนมานั่งเต็มหน้ารถกันหมดแท้ๆจนพารถเสียหลักกันเอง
ด้าน ร.ต.อ.สุพจน์ กริดกระโทก พนักงานสอบสวนสภ.แก้งคร้อ กล่าวว่า อุบัติเหตุในครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงมาก ที่ครั้งนี้ถือว่าเกิดจากความประมาท ที่ในห้องด้านหน้าคนขับจุคนมากเกินจนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น ที่ยังโชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตรุนแรงตามมา แต่ก็เกิดเหตุซวยซ้ำที่รถกระบะดังกล่าวตกข้างทาง ไปชนต้นไม้ที่มีฝูงผึ้งขนาดใหญ่ ยังถูกรุมไล่ต่อยจนทุกคนหน้าตาบวมปูดซ้ำหนักไปอีก แต่ก็ยังพากันไม่เป็นอันตรายอะไรมาก ส่วนหนึ่งก็ต้องรอให้แพทย์ดูอาการใกล้ชิดไปก่อนจนกว่าจะเห็นว่าพ้นขีดอันตรายต่อไปอีกระยะก่อนจนแพทย์ให้ออกรพ.ได้ก่อน เพื่อที่จะเชิญตัวคนขับมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยประมาท และส่วนหนึ่งมีทรัพย์สินทางราชการเสียหายที่จะต้องมีการชดใช้ค่าเสียหายด้วยในครั้งนี้ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง