ข่าว

"ปิยะณัฐ" ผู้สมัคร พปชร. เชื่อ ส.ส. ทำชีวิตชาวบ้านดีขึ้นได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศรีสะเกษ - คมข่าวทั่วไทย

 

ค่ำของวันที่ 18 มีนาคม 2562 ที่ สี่แยกบ้านหัวเสือ หมู่ที่ 13 ตำบลหัวเสือ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีพี่น้องประชาชนจากหมู่บ้านหัวเสือ หมู่ที่ 1, 14 และหมู่ที่ 15 จำนวนกว่า 300 คน ออกมานั่งรอเพื่อรับฟังการปราศรัยหาเสียงของ ทนาย ปิยะณัฐ วัชราภรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 12 เขตเลือกตั้งที่ 6อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ห่างเวที ส.ส.ไปกว่า 20 ปี เนื่องจากการประสบอุบัติเหตุใหญ่ หวิดที่จะเอาชีวิตไม่รอด จึงได้ละจากเวทีในการที่จะลงสมัครเป็นผู้แทนของประชาชนไป ประกอบกับสายตาไม่ค่อยดีเช่นเดิม มองไม่ค่อยที่จะเห็นได้ชัดเจน ยังจะต้องมีคนคอยจับแขนพาเดินไปในที่ไหนๆ อยู่ แต่วันนี้ทุกคนก็ต้องตกใจ เมื่อทราบว่า ทนาย ปิยะณัฐ วัชราภรณ์ ได้หวนกลับมาลงสมัครผู้แทนราษฎรในนามของพรรคพลังประชารัฐ ด้วยเหตุผลที่ว่า ในช่วงหยุดพักทางการเมือง ก็ยังทำงานในฐานะทนายความ ช่วยแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน ทำงานนอกสภาฯ มาโดยตลอด เพราะประชาชนเรียกร้องให้ช่วย วันนี้จึงตัดสินใจโดนลงมาสมัคร ส.ส.รอให้ประชาชนพิสูจน์ หากต้องการใช้ก็เลือกเข้าไป แต่หากไม่เลือกต่อไปก็จะได้มีเหตุผลอ้างได้ หรือปฎิเสธชาวบ้านที่มาขอร้องให้ช่วยได้ว่า ตนไม่ใช้ผู้แทนของประชาชน และเชื่อมั่นว่า ส.ส.สามารถทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นได้

 

 

 

"ปิยะณัฐ" ผู้สมัคร พปชร. เชื่อ ส.ส. ทำชีวิตชาวบ้านดีขึ้นได้

 

 

 

"ปิยะณัฐ" ผู้สมัคร พปชร. เชื่อ ส.ส. ทำชีวิตชาวบ้านดีขึ้นได้

 

 

 

 

ทนาย ปิยะณัฐ วัชราภรณ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เปิดใจให้สัมภาษณ์ ว่า ที่ชาวบ้านเข้าใจกันว่าผมห่างจากเวทีการเมืองไปนั้นนานมาก จนไม่อยากที่จะนับว่ากี่ปี เพราะเป็นการประสบอุบัติเหตุที่ร้ายแรงมากสำหรับชีวิตตนเอง เข้าใจว่า เราน่าจะเป็นคนคอยดูคนอื่นเขาทำงานบ้าง แต่เนื่องจากความผูกพันระหว่างตนเองกับพี่น้องประชาชน มันมีอยู่อย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชน มันยังไม่มีใครแก้ไขได้ ปัญหาความทุกข์ ความไม่เป็นธรรม

นายปิยะณัฐ  กล่างอีกว่า โดยเฉพาะปัญหาที่ผมสามารถที่จะช่วยได้ เพราะเมื่อรับฟังปัญหาชาวบ้านแล้ว ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกกลั่นแกล้ง หรือรวมทั้งประชาชนที่ควรตะได้มีสิทธิต่างๆ ตนมีความรู้สึกกระวนกระวายและเดือนร้อนแทนประชาชน รวมทั้งประชาชนได้เดินทางมาพบขอให้ตนช่วย ผมจึงทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรนอกสภาฯ มาโดยตลอด อึดอัดมาก็คือว่า ผู้แทนราษฎรที่เขาเป็นอยู่ในขณะนั้น เขาไม่แก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน ถามว่าผมไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎรแล้วใช้ไหม ชาวบ้านกลับตอบว่า ไม่ใช้ ที่ตนไม่เป็นผู้แทน เพราะไม่ได้ลงสมัคร ไม่ใช้ว่าชาวบ้านเขาไม่เลือก แล้วเมื่อชาวบ้านเขาบอกเช่นนี้ตนจะปฎิเสธชาวบ้านได้อย่างไร ตนก็เลยต้องทำงานช่วยเหลือชาวบ้านอยู่เรื่อยมา สิ่งไหนที่แก้ไขให้ชาวบ้านได้ก็รีบแก้ สิ่งไหนที่แก้ไม่ได้ก็พยายาม ก็เลยผูกพันอยู่กับชาวบ้านตลอด โดยเฉพาะการใช้วิชาชีพ การเป็นทนายความที่ทำงานช่วยชาวบ้านตลอดมา สิ่งเล่านี้ทำให้ตนต้องมานั่งตรวจดูว่า ทำไมเราต้องมานั่งทำงานช่วยชาวบ้านอยู่นอกสภาฯ เพื่อช่วยชาวบ้านตามสภาพของคนธรรมดา

"ผมหยุดพักแต่ชาวบ้านไม่ยอมให้หยุด ชาวบ้านยังเดือนร้อนอยู่ ผมหนีชาวบ้านไม่ได้ ผมจึงคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว ที่ผมจะต้องพิสูจน์ว่า ชาวบ้านยังต้องการให้ผมช่วยเหลืออีกหรือไม่ และเมื่อเราสมัครขอเป็นตัวแทนของเขาแล้ว เขาไม่สนับสนุนผมก็เป็นอันว่า มีเหตุผลที่จะกล่าวได้ว่า ชาวบ้านไม่ควรที่จะมาใช้ผมไปแก้ปัญหาของเขาให้อีก ซึ่งแผ่นดินไทยนี้ศักดิ์สิทธิ์ ผมก็คิดว่า ตผมควรจะได้ทำงานเพื่อตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน แล้วใช้ความสุจริตในการที่จะทำงานให้กับบ้านเมือง มาเป็นนักการเมืองอีกครั้ง "นายปิยะณัฐ กล่าว

 

 

 

นายปิยะณัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนชอบใจคำพูดของท่านอดีต นายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย ที่บอกว่า เราไม่สามารถที่จะทำให้ประชาชนมีความร่ำรวยเสมอภาคกันได้ แต่เราสามารถที่จะให้ความเป็นธรรมเสมอภาคกับประชานได้ ซึ่งตนถือว่าเป็นคำพูดที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นสิ่งที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน และถ้าหากว่าเรามีนักการเมืองที่ดี ดูแล ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาของชาวบ้านได้ ตนว่ามันก็จะทำให้ชีวิตของชาวบ้านมันถูกยกฐานะในระดับหนึ่ง ที่มีชีวิตได้อย่างมีคุณค่า อย่างแน่นอน

 

 

 

"ปิยะณัฐ" ผู้สมัคร พปชร. เชื่อ ส.ส. ทำชีวิตชาวบ้านดีขึ้นได้

 

 

 

จากนั้น นายปิยะณัฐ ได้พบปะพูดคุยกับชาวบ้านแบบเป็นกันเองมากๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มเย็นลง ในเวลา 20.00 น. พร้อมทีมงานมาพูดคุยเน้นย้ำ นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะมอบให้กับประชาชน อธิ ช่วยค่าเก็บเกี่ยวข้างว จากเดิมไร่ละ 1,500.-บาท ไม่เกิน 12 ไร่ รวม ไม่เกิน 18,000.-บาท มาปรับใหม่เป็นรัฐบาลจะอุดหนุนให้ไม่เกินไร่ละ 2,000.-บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 40,000.-บาท บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะเพิ่มจำนวนการจ่ายบัตรเป็น 17 ล้านใบ 20 ล้านใบ ให้กับผู้ที่ยังไม่ได้รับบัตร พร้อมเพิ่มเงินเข้าไปในบัตรเพิ่มขึ้นทั้งใช้รูดสินค่า และค่าครองชีพเป็นเงินสด เบี้ยผุ้สูงอายุ ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป รับใหม่คนละ 1,000.-บาท

รวมทั้งมาตรการมารดาประชารัฐ หรือการพักชำระหนี้ ธนาคาฯ ธกส.ให้กับประชาชน 3 ปี เป็นต้น ขณะเดียวกัน ในเขตเลือกตั้งที่ 6 นี้ เคยเป็นที่นั่งของ นายวีระพล จิตสัมฤทธิ์ ซึ่งวันนี้ก็ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ในนามของพรรคเพื่อไทย ที่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เพราะดูแลพื้นที่มาโดยตลอด แถมยังมี สนอง ทาหอม อดีตครูผู้รักประชาธิปไตย ลงในนามพรรคภูมิใจไทย, นางสาว มยุรี ศรีวิพัฒน์ แกนนำที่นำพาประชาชนต่อสู้เรียกร้องสิทธิ์มาลงสมัคร พรรคประชาธิปัตย์ ด้วย

 

 

 

"ปิยะณัฐ" ผู้สมัคร พปชร. เชื่อ ส.ส. ทำชีวิตชาวบ้านดีขึ้นได้

 

 

 

"ปิยะณัฐ" ผู้สมัคร พปชร. เชื่อ ส.ส. ทำชีวิตชาวบ้านดีขึ้นได้

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ