"เสี่ยหนู" ลั่น ภท.ขอเป็นกาวใจประสานความขัดแย้ง

 

               วันที่ 15 มีนาคม 2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมทีมผู้บริหารได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อให้การสนับสนุนและให้กำลังใจผู้สมัครพรรคภูมิใจในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น หมายเลข 16 เขต 10 นายองอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ หรือ สจ.แม็ค โดยได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากประชาชน พ่อค้าแม่ค้า รวมทั้งคหบดี ในตลาดเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ทั้งมีมอบดอกกุหลาบ พวงมาลัยดอกดาวเรือง และยังมีแม่ค้าขนมครกฝากขนมครก ซึ่งนายอนุทินได้กินและแบ่งปันให้กับผู้สมัครได้ชิมด้วย ซึ่งพื้นที่บ้านไผ่ เคยเป็นพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทย โดยผู้สมัครในสมัยนั้นคือ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ แต่ครั้งนี้ได้หันไปลงในนามพรรคพลังท้องถิ่นไทย

 

 

 

 

 

               นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับการต้อนรับจากพี่น้องทั่วประเทศเป็นอย่างดีสำหรับพรรคภูมิใจไทย ที่ออกพื้นที่ไม่หยุดหย่อนทุกภาคทุกจังหวัด วันนี้มาให้กำลังใจให้การสนับสนุนผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยเขตอำเภอบ้านไผ่จังหวัดขอนแก่น เราส่ง สจ.แม็ค ซึ่งเป็นคนบ้านไผ่ คุ้นเคยกับพื้นที่ จากการลงพื้นที่ลงตลาดได้พบคหบดี ชาวบ้านไผ่ ทุกคนให้ความหวังกับ สจ.แม็คเป็นอย่างมาก เพราะถือว่ามีจุดแข็ง เป็นคนบ้านไผ่โดยกำเนิด มีความตั้งใจ อายุอยู่ในวัยทำงาน มีสัมพันธ์ที่ดีกับทุกฝ่าย และเป็นคนสำคัญคนหนึ่งของพรรคภูมิใจไทย

 

 

 

 

               ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยยังคงชูนโยบายสำคัญ คือ แก้ปัญหาปากท้อง เกษตรกรปันผลกำไรระหว่างเกษตรกร ผู้ส่งออกผู้ค่า ยืดหนี้การศึกษาให้กับเยาวชน ปลดภาระหนี้กับผู้คำประกัน กยศ. และกัญชาพืชเศรษฐกิจที่สามารถปลูกได้ 6 ต้นทุกครัวเรือน ที่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับทุกคน เพราะความต้องการมีมากในตลาดโลกทั้งเพื่อเป็นยารักษาโรค อาหารเสริม ที่ทุกคนสามารถบริโภคให้เป็นประโยชน์ได้เมื่อเหมาะสม แต่ถ้ามากเกินไปก็เป็นโทษเช่นเดียวกับทุเรียน หรือเหล้า บุหรี่

 

 

 

 

 

               นายอนุทิน กล่าวยังกล่าวว่า ในช่วงนี้พรรคภูมิใจไทยมุ่งหาเสียงหาคะแนนจากประชาชนให้ผู้สมัครได้ชนะการเลือกตั้งให้ได้มากที่สุด ไม่มีเวลาคิดเรื่องของคนอื่น จึงไม่ขอวิจารณ์เรื่องใดๆ โดยเฉพาะเรื่องนายกรัฐมนตรี รวมทั้งการที่ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จุดยืนของพรรคภูมิใจไทย คือต้องได้นายกรัฐมนตรีจากการการแต่งตั้งจากการใช้สิทธิของประชาชนและต้องได้คะแนนส่วนใหญ่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร และในโค้งสุดท้ายนี้ ทุกคนในพรรคจะต้องทุ่มสุดตัวทุ่มสุดกำลังมีอะไรในสมอง มีอะไรในตัว ต้องใส่ไปให้หมด และยังหวังจะได้รับความเมตตาความไว้วางใจจากประชาชนเลือกพรรคไปทำงาน เพื่อประเทศชาติ

 

 

 

 

               “เราเป็นพรรคที่ไม่เชื่อมั่นความขัดแย้ง ไม่ต้องการให้ความขัดแย้งเกิดขึ้นในประเทศไทย ถ้าใครขัดแย้งกัน พรรคจะสามารถเชื่อมประสานให้คู่ขัดแย้งหันมาร่วมมือกัน ทำงานให้กับบ้านเมือง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นสิบกว่าปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่แต่ถอยหลัง พรรคมีสไตล์ ที่เป็นตัวเอง เติบใหญ่ก้าวหน้าโดยไม่ต้องอาศัยความขัดแย้ง แต่อาศัยความเข้าใจกันและความเข้าใจที่จะเห็นบ้านเมืองก้าวหน้าต่อไปด้วยความมั่นคงนี่คือจุดแข็ง ของพรรค” นายอนุทิน กล่าวย้ำ