"ภูมิใจไทย" ย้ำ ผู้สมัคร ส.ส. กาฬสินธุ์ แซงคู่แข่งจ่อเข้าวิน

 

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ ทั้ง 5 เขตเลือกตั้ง ก่อนเข้าสู่โค้งสุดท้ายในวันลงคะแนน 24 มีนาคม 2562 โดยผู้สมัครจากพรรคการเมืองต่างๆยังคงเดินหน้าลงพื้นที่และเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงกันอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมชูนโยบายของพรรคตนเอง เพื่อขอคะแนนเสียงจากประชาชน

 

 

 

ล่าสุดที่ศาลาวัดอร่ามมงคล ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายโสภณ ซารัมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะลงพื้นที่เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยนางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2 พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 14 โดยมีประชาชนเข้ารับฟังนโยบายกว่า 3,000 คน

จากนั้นได้เดินทางไปเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ช่วยนายวิรัช พิมพะนิตย์ ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคภูมิใจไทย เขต 1 เบอร์ 7 ที่สนามโรงเรียนบ้านหนองสอ ต.หนองสอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยมีผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทยทั้ง 5 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายวิรัช พิมพะนิตย์ เขต 2 นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา เขต 3 นายดนุพล ผือโย เขต 4 นายเดชสำราญ ญาณกาย และ เขต 5 นายสมัคร เยาวกร  ร่วมต้อนรับ มีประชาชนให้ความสนใจรับฟังนโยบาย 5,000 คน

โดยเวทีการปราศรัยครั้งนี้นายโสภณ ซารัมย์ มีสีหน้าและท่าทางค่อนข้างเหนื่อย เนื่องจากไม่สบายท้องเสียและอาหารเป็นพิษ ซึ่งต้องให้น้ำเกลือ แต่ได้ถอดสายน้ำเกลือออกเดินทางมาจาก จ.บุรีรัมย์ เพื่อมาช่วยผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทั้งนี้เวทีการปราศรัยนายโสภณ ยังคงเน้นไปที่นโยบายของพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะการลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน แก้หนี้ กยศ.แก้กฎหมายพักหนี้ กยศ.5 ปี ไม่มีดอกเบี้ย ยกเลิกค่าปรับ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน ผ่อนคืนเงินต้น 10 ปี เรียนฟรีออนไลน์ตลอดชีพ ทุกคนต้องมีโอกาสเรียนที่โรงเรียนเป็นคนดี เรียนทางทีวีเป็นคนเก่ง ยกระดับ อสม.เป็นหมอประจำบ้าน ค่าตอบแทน 2,500-10,000 บาท กัญชาไทยปลูกได้เสรี แก้ พรบ.ยาเสพติด พืชเศรษฐกิจตัวใหม่สร้างความร่ำรวยให้คนไทย ส่งเสริมพืชพลังงาน เปลี่ยนไร่นาเป็นแหล่งพลังงาน นโยบายบุรีรัมย์โมเดล และตั้งกองทุนข้าว

โดยนายโสภณ ซารัมย์ กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า วันนี้ตนไม่ขอพูดอะไรมาก เนื่องจากไม่ค่อยสบาย เพราะท้องเสียอาหารเป็นพิษ ต้องให้น้ำเกลือ แต่วันนี้แม้ไม่สบาย ซึ่งต้องถอดสายน้ำเกลือและรีบเดินทางมาหาพี่น้องประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ เพื่อที่จะขอให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะนายวิรัช พิมพะนิตย์ หรือเสี่ยหมู ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 และนางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา หรือ เจ๊นาง โรงทาน ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2  เพื่อเข้าไปรับใช้พี่น้องประชาชน ซึ่งยืนยันว่าหากผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทยได้รับการเลือกตั้งและได้เข้าไปเป็นรัฐบาล จะทำให้ จ.กาฬสินธุ์เป็นโมเดลในรูปแบบการเมืองนำราชการในการพัฒนา เพื่อให้ จ.กาฬสินธุ์ มีความพัฒนาเจริญมากขึ้นกว่าเดิม  เหมือนกับ จ.บุรีรัมย์ ที่ปัจจุบันประชาชนมีรายได้ติดอันดับ 5 ของประเทศ อย่างไรก็ตามหลังจากตนลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการส่งคนลงพื้นที่สำรวจประเมินกระแส เหมือนกับการทำโพล พบว่า ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมีคะแนนเสียงนำคู่แข่งทุกพรรค โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 1 และเขตเลือกตั้งที่ 2 ซึ่งเชื่อว่าในวันที่ 24 มีนาคม นี้ พรรคภูมิใจไทยจะต้องเข้าวินได้ที่นั่ง ส.ส.กาฬสินธุ์ อย่างน้อย 2 เขตเลือกตั้ง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ด้านนางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา หรือ เจ๊นาง โรงทาน ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคภูมิไทย เขต 2 เบอร์ 14 กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด ทำให้รับทราบปัญหาและความต้องการของประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งในการลงพื้นที่นอกจากจะนำนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทยไปบอกกล่าวกับพี่น้องประชาชนแล้ว ยังนำนโยบายในการแก้ปัญหาเรื่องแหล่งน้ำไปบอกกล่าวอีกด้วย โดยเฉพาะระบบชลประทานทั่วถึงปากท้องประชาชนต้องมาก่อน เนื่องจากหลายพื้นที่ใน อ.ยางตลาด หลายตำบลยังขาดน้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะระบบชลประทาน ทั้งที่อยู่ติดกับเขื่อนลำปาว ซึ่งตนจะเข้าไปแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ทุกพื้นที่มีระบบชลประทานถึงหน้าบ้าน ดังนั้นจึงอยากขอโอกาสเข้าไปทำหน้าที่แก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน

ขณะที่ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคภูมิใจไทย เขต 1 เบอร์ 7 กล่าวว่า ยืนยันว่าหากตนได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนเข้าไปเป็น ส.ส.เขต 1 กาฬสินธุ์ดีกว่านี้ คือจะทำให้ชาว จ.กาฬสินธุ์หายจากความยากจน สวัสดิการต่างๆต้องดีกว่านี้ ให้เหมาะสมกับที่เป็น ส.ส. ทั้งนี้ตลอดชีวิตที่ทำงานด้านการเมืองมาตั้งแต่ปี 2533 ซึ่งเคยเป็นทั้ง สจ.และสว.นอกจากนี้จากการทำธุรกิจก็ประสบความสำเร็จ ดังนั้นในวันนี้ตนจะนำแนวคิดมาพัฒนาให้ประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์มีรายได้เพิ่มขึ้น ให้เหมือนกับ จ.บุรีรัมย์ ที่ปัจจุบันประชาชนมีรายได้อันดับ 5 ของประเทศ ซึ่งตนจะทำให้กาฬสินธุ์ขึ้นมาจากอันดับความยากจนที่ 74 ของประเทศ ให้มีความเจริญและมีรายได้เท่ากับหรือดีกว่า จ.บุรีรัมย์ให้ได้