ขอนแก่น - คมข่าวทั่วไทย
จากกรณีที่เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 8 ก.พ. 2562 กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ได้เสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มหิดล ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค โดยอ้างว่าได้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ถูกเสนอชื่อตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ 2560 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องพบว่าทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มหิดล เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนกระทั่งเวลา 22.40 น. ในวันเดียวกันมีราชกิจจานุเบกษา ตีพิมพ์ประกาศ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยใจความ ระบุว่า “เป็นการกระทำที่มิบังควรไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง”
จากนั้นเมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 13 ก.พ. 2562 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ หลังจากที่เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2562 ได้พิจารณากรณีพรรคไทยรักษาชาติมีหนังสือแจ้งรายชื่อบุคคลเพื่อเสนอแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี 1 รายชื่อ กกต.เห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยมีคำสั่งให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2562 ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคําร้องและเอกสารประกอบคําร้องแล้วเห็นว่า กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคําร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคําสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ มีคําสั่งรับคําร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 7(13) ประกอบพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 แจ้งให้ผู้ร้องทราบ และส่งสําเนา คําร้องให้ผู้ถูกร้องยื่นคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในเจ็ดวัน นับแต่วันที่ได้รับสําเนาคําร้อง มิฉะนั้นให้ถือว่าไม่ติดใจ ยื่นคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา วิธีการส่งกําหนดให้เจ้าหน้าที่ของศาลเป็นผู้ส่ง ณ ที่ทําการพรรคผู้ถูกร้อง
หากไม่มี ผู้รับให้ปิดหนังสือนําส่งและสําเนาคําร้องไว้ ณ ที่ทําการพรรคผู้ถูกร้อง และให้ถือว่าได้ส่งโดยชอบ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 5 ประกอบมาตรา 54 แล้ว ศาลให้พรรคไทยรักษาชาติชี้แจงตามข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน โดยนัดพิจารณาครั้งต่อไปในวันพุธที่ 27 ก.พ. 2562 เวลา 13.30 น. นั้น
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ และในฐานะผู้ดูแล สส.รุ่นใหม่ ใน 20 จังหวัดอีสาน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก หลังจากที่คณะกรรมการพรรคเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มหิดล ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 88 และ 89 ทุกประการตามที่แถลงการณ์ของพรรคไทยรักษาชาติ ว่าเป็นสามัญชนไม่มีข้อห้าม ทาง กกต.ก็รับไปแล้ว หากมีความผิด กกต. ไม่ควรรับ และต้องปฏิเสธทันที แต่ทาง กกต.วินิจฉัยภายหลังว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามหลักกฎหมายแล้วไม่ควรพิจารณาย้อนหลัง พร้อมกับอ้างพระราชโองการ ซึ่งหลังจากนั้นทางพรรคไทยรักษาชาติได้น้อมรับแล้ว ทุกเรื่องควรจะจบลง แต่เมื่อทางกกต. เมื่อมีการพิจารณาความผิดเมื่อทาง กกต.เป็นผู้รับ จึงต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย
“ การที่กกต.ไม่รับรองบัญชีนายกรัฐมนตรี ทำให้พรรคไม่ถือว่าเคยเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันพรรคก็จะไม่สามารถเสนอแคนดิเดตนายกมนตรีได้แล้ว เพราะได้พ้นเวลาการเปิดรับสมัครไปแล้ว ส่วนสมาชิกพรรค ทษช. จะยังคงเดินหน้าหาเสียงตามปกติ ไม่กังวลกับประเด็นที่พรรคจะถูกโจมตี เพียงแต่กำชับให้ระหว่างนี้ผู้สมัครทุกคนได้ติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ระหว่างนี้ทำความเข้าใจกับผู้สมัคร ส.ส. ที่ได้ช่วยดูแลเขตภาคอีสาน หลายคนโทรศัพท์มาถามว่าให้ทำอะไรก็ทำไปตามปกติเพียงแต่ว่า อะไรที่ต้องใช้งบประมาณเยอะต้องรอความชัดเจน รอคำวินิจฉัยของพรรค ถ้าทำไปแล้วเกิดวินิจฉัยยุบพรรคก็จะเสียงบประมาณที่ลงไป ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ด้วยต้องรู้จักระวังตัวแต่ไม่หยุด แต่ก็ทำให้เกิดความเสียเปรียบกับพรรคการเมืองอื่น” รศ.นพ.เชิดชัย กล่าว
รศ.นพ.เชิดชัย เพิ่มเติมว่า เมื่อศาลให้ทางพรรคได้มีโอกาสชี้แจงภายใน 7 วันแล้ว ถ้ายุบพรรคทันทีชื่อก็ไม่มีความหมาย เพราะว่าไม่มีพรรคให้สังกัด คนที่สมัครไปแล้วเหมือนเสียเปล่า ส่วนหลังเลือกตั้งแล้ว มีความเห็นส่วนตัว ไม่ควรยุบพรรค เพราะกระทบกระเทือนสิทธิเสรีภาพของคนที่มาสมัครและคนที่ตั้งใจจะเลือกพรรค การดำเนินการต่างๆมีค่าใช้จ่ายไปแล้วและเป็นภาพลบที่มองได้ว่าองค์กรเกี่ยวข้องเหมือนไปรังแก
“หากยุบหลังจากที่ประกาศชื่อแล้วต้องให้ความเป็นธรรม ต้องให้ศาลพิจารณาให้ดีให้รอบคอบ เพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมายอย่างเดียวต้องดูเรื่องอื่นด้วย ต้องพิจารณาประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบอบ ทางพรรคเองรู้สึกว่าโดนกลั่นแกล้ง เพียงแต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องกลั่นแกล้ง ความจริงเรื่องยุบพรรค กกต.ต้องเปิดช่องให้ชี้แจง ถ้ากกต.ไม่ยอมให้ชี้แจงเลยแต่ว่าอะไรเหมือนมีใบสั่ง ยังดีที่ศาลรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ 7 วันได้ชี้แจงอย่างน้อยอุ่นใจว่าคดียุบพรรคอาจจะไม่ยุบก็ได้ ”รศ.นพ.เชิดชัย กล่าวในที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง