ข่าว

ย้ำ คืนโฉนด ปชช. หวังลดความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างจริงใจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นครราชสีมา - คมข่าวทั่วไทย

 

               นครราชสีมา วันนี้ (30 ม.ค. 2562) เวลา 10.30 น. ที่อาคารเอนกประสงค์โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย อ.เมือง จ.นครราชสีมา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบคืนโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน ครั้งที่7 ตามนโยบายลดความเหลื่อมล้ำในสังคมของรัฐบาล โดยมีพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวต้อนรับ ท่ามกลางหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มารอรับโฉนดที่ดินกว่า 2,400 ราย

 

 

 

               พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า จากปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในประเทศที่วันนี้ต้องหยิบยกมาเป็นเรื่องแรกคือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำของประชาชนในประเทศ สิ่งสำคัญคือปัญหาหนี้นอกระบบซึ่งถูกละเลย ปล่อยทิ้งให้ประชาชนผู้เดือดร้อนต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวลำพัง ทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสมาอย่างยาวนาน ประชาชนต้องเดินทางกลับจากการเจรจาประนีประนอมหนี้ ด้วยมือเปล่าซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นสิบๆ ครั้ง บางรายถูกดำเนินคดีจากกลุ่มนายทุนที่ฉ้อฉลกลโกง จนแทบไม่มีที่ยืน ขาดที่พึ่งหมดศรัทธาจากเจ้าหน้าที่รัฐ

 

 

 

ย้ำ คืนโฉนด ปชช. หวังลดความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างจริงใจ

 

 

 

ย้ำ คืนโฉนด ปชช. หวังลดความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างจริงใจ

 

 

 

ย้ำ คืนโฉนด ปชช. หวังลดความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างจริงใจ

 

 

 

               รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดให้ “ปัญหาหนี้นอกระบบ” เป็นปัญหาสำคัญของประเทศและเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะต้องเร่งรัดแก้ไขโดยเน้นย้ำให้มีการบริหารจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบ มีความต่อเนื่องและ ต้องดำเนินการอย่างจริงจัง กับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย ซึ่งต่อมาพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

               ต่อมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้จัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” (ศปฉช.ตร.)คำสั่ง ตร.ที่ ๔๖๖/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๑๐ ส.ค. ๒๕๖๑ ขึ้นเพื่อให้การปฏิบัติปรากฏผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วตามนโยบายของรัฐบาล โดยมอบหมายให้ พลตำรวจเอก รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ มีการสั่งการให้ประสานการปฏิบัติกับ ตำรวจภูธรต่างๆ ในการดำเนินการภายใต้ยุทธการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองให้น่าอยู่”ซึ่งได้ปฎิบัติการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเร่งรัดปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยเฉพาะบุคคล กลุ่มบุคคล ที่มีพฤติการณ์ฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน ทำการปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน ดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้งให้มีกลไกในการเจรจา ไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งกับเจ้าหนี้ และลูกหนี้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ รวมถึงการกระทำความผิดทางอาญาอื่นใด ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

 

 

               พร้อมนี้ ท่านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังได้ริเริ่มในการที่จะแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยการจัดให้มีการขึ้นทะเบียนนายทุนในพื้นถิ่น จังหวัด ตำบล อำเภอ หมู่บ้าน โดยการนำกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่เชิงรุก ผ่านรูปแบบสินเชื่อของรัฐฟิโกไฟแนนเชี่ยน และนาโนไฟแนนเชี่ยน เพื่อให้ที่ดินของประชาชนเหล่านี้ไม่ต้องย้อนกลับไปตกในมือของนายทุนอีกครั้งพร้อมทั้ง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันอย่างแน่วแน่ ในการที่จะแก้ไขปัญหาให้เป็นไปอย่างยั่งยืน ลบภาพความทุกข์จากการเป็นหนี้ที่ไม่เป็นธรรม เหมือนในอดีตที่ผ่านมา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงได้นำแนวทางการบูรณาการขับเคลื่อนทุกภาคส่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง สำนักงานป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงการเกษตรและสหกรณ์, กอ.รมน. และผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยนำการบังคับใช้กฎหมาย นำการเจรจาประนีประนอม โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางและจะคืนโฉนดที่ดินให้ถึงมือประชาชนคนสุดท้าย โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง วันนี้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เร่งขับเคลื่อน มุ่งมั่น ลงพื้นที่ทั้งภาคอีสานตอนบน และตอนล่าง ภาคกลาง และภาคใต้ อย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้ ได้สั่งการให้สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกันในการขับเคลื่อนตามนโยบายของ รัฐบาลอย่างจริงจัง

 

 

 

ย้ำ คืนโฉนด ปชช. หวังลดความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างจริงใจ

 

 

 

               รัฐบาลได้มีการคืนโฉนดที่ดินสู่มือประชาชนลดความเหลื่อมล้ำอย่างจับต้องได้ ไปแล้ว เป็นจำนวนโฉนดที่ดินเกือบ 15,000 ฉบับ จำนวนเนื้อที่ 45,000 กว่าไร่ มูลค่าทรัพย์สินถึง เกือบ 2 หมื่นล้านบาท พร้อมนี้ ท่านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังได้ริเริ่มในการที่จะแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยการจัดให้มีการขึ้นทะเบียนนายทุนในพื้นถิ่น จังหวัด ตำบล อำเภอ หมู่บ้าน โดยการนำกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่เชิงรุก ผ่านรูปแบบสินเชื่อของรัฐฟิโกไฟแนนเชี่ยน และนาโนไฟแนนเชี่ยน เพื่อให้ที่ดินของประชาชนเหล่านี้ไม่ต้องย้อนกลับไปตกในมือของนายทุนอีกครั้ง พร้อมทั้งยืนยันอย่างแน่วแน่ ในการที่จะแก้ไขปัญหาให้เป็นไปอย่างยั่งยืน ลบภาพความทุกข์จากการเป็นหนี้ที่ไม่เป็นธรรมเหมือนในอดีตที่ผ่านมา และในวันนี้เราสามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยคืนโฉนด ทำให้ลูกหนี้ได้รับคืนทรัพย์สิน ในครั้งนี้ จำนวน 2,431 ราย โฉนดที่ดิน จำนวน 2,179 ฉบับ เนื้อที่ 6,723 ไร่ 1 งาน 63 ตารางวา มูลค่าทรัพย์สิน 4,636,504,783 บาท (สี่พันหกร้อยสามสิบหกล้านห้าแสนสี่พันเจ็ดร้อยแปดสิบสามบาท)

 

 

 

               ด้านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การคืนโฉนดที่ดินให้กับประชาชนนี้ จะเป็นผลงานเด่นของรัฐบาลหรือไม่เป็นผลงานอันนี้ไม่รู้ แต่รัฐบาลตั้งใจทำให้ประชาชน เพื่อลดปัญหาความเลื่อมล้ำให้ประชาชนเท่าเทียมกัน ตลอดระยะเวลาที่ทำมาก็เป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้ว เราสามารถที่จะดำเนินการได้อย่างดี แต่ก็ยังมีอยู่อีกจำนวนมากที่เราจะต้องดำเนินการ ส่วนผู้ที่ได้โฉนดที่ดินไปแล้ว ก็จะต้องนำไปรักษาไว้ให้ดี ซึ่งจะนำไปจำนอง หรือจำนำ อีกต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะปัญหาหนี้นอกระบบไม่ควรจะมีอยู่อีกในประเทศไทย และรัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะไปติดตามประเมินประชาชน เพราะเขาก็สัญญาแล้วว่า จะไม่เอาไปจำนอง จำนำอีก เท่าที่ตนได้พูดคุยกับประชาชนที่ได้รับโฉนดคืน

               "บางคนก็ถูกยึดโฉนดไป 3 ปี 5 ปี และ10 ปีก็มี โดยเฉพาะปัญหาในพื้นที่ทางภาคอีสานยังหนักมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการ เพื่อที่จะให้สามารถปลดล็อคเรื่องต่างๆ ได้ ในเรื่องนี้ต้องไปถามประชาชนนะ เพราะว่าเราก็ตั้งใจทำงานให้กับประชาชน เป็นนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ต้องการที่จะให้ทำงานให้กับประชาชนโดยตรง เพื่อลดปัญหาความเลื่อมล้ำเป็นสำคัญ ส่วนเจ้าหน้าที่ หรือข้าราชการหน่วยงานรัฐคนใดที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ถ้าคนไหนทำผิดก็ว่าไปตามผิด ก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ เราไม่ได้คิดว่าเป็นกลุ่มการเมือง แต่ถ้าคนไหนทำผิดก็ต้องดำเนินการ ยืนยันว่าเรื่องการเมืองไม่เกี่ยว เพราะเราทำมาตั้งนานแล้ว เราสืบไปได้ว่าใครที่โกงประชาชน ใครที่เอาเปรียบประชาชน ถ้าทำผิดก็โดนทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ก็มีตรวจสอบอยู่อย่างต่อเนื่อง"พลเอกประวิตร กล่าว

               เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการลาออกของ 4 รัฐมนตรี จะมีผลกระทบอะไรกับการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ พลเอกประวิตรฯ ถึงกับร้องโอย และแสดงสีหน้าไม่พอใจ ก่อนเดินหนีออกไปจากวงสัมภาษณ์ทันที.

 

 

 

ย้ำ คืนโฉนด ปชช. หวังลดความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างจริงใจ

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ