เมาขี่จยย.ตัดหน้า ท้าตีโดนฟันอกเหวอะ

 

          วันที่ 10 ธ.ค. 61 - เจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวร สายตรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งเหตุ เมื่อเวลา ประมาณ 17.00 น. ว่ามีคนถูกมีดฟันหน้าอกเป็นแผลเหวอะ ใกล้บริเวณสี่แยกไฟแดง หลังโรงเรียนเมืองในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสาเกตนคร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และสืบสวน เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

 

          แต่ไปถึงแล้วไม่พบคู่กรณีทั้งคู่ จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ คือ นายนนทเชนทร์ พันชาลี และนายณัฐนนท์ ยาพะเยาว์ พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ซึ่งอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ เล่าว่า สืบเนื่องจากมีรถจักรยานยนต์เลี้ยวตัดหน้ารถกะบะส่งไก่ของบริษัทเบทาโกร แล้วเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ในขณะที่ คนขี่รถจักรยานยนต์มีอาการคล้ายมึนเมาสุรา จึงเข้าไปเปิดประตูรถกระบะ พยายามที่จะทำร้ายคนขับรถ แล้วเกิดการโต้เถียงกันขึ้นจะเข้าทำร้ายร่างกายคนขับรถกระบะ เป็นเหตุให้คนขับรถกระบะคว้ามีดสปาต้าในรถฟันเข้าที่หน้าอกคนขี่รถจักรยานยนต์จนได้รับบาดเจ็บ แล้วฟันซ้ำอีกครั้ง แต่พลาด ไม่ถูกคนขี่รถจักรยานยนต์ เพราะคนที่ถูกฟันล้มลง จากนั้น มือมีดขับรถหลบหนีไป

 

 

         ในขณะที่ ผู้ถูกฟันลุกขึ้นขับขี่รถจักรยานยนต์ หนีออกจากที่เกิดเหตุ โดยเลือดจากบาดแผลที่ถูกฟัน ไหลโชกท่วมตัว และผู้เห็นเหตุการณ์ ทักท้วงว่าควรจะไปโรงพยาบาลก่อน แต่ชายผู้ขี่รถจักรยานยนต์ กลับปฏิเสธที่จะเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล โดยบอกเพียงว่าจะขี่รถจักรยานยนต์ไปตายที่บ้าน แล้วขับรถหนีไปจากที่เกิดเหตุทันที

 

          ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบถามบันทึกถ้อยคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ก็ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบชายที่ถูกฟันแล้วขี่รถหนีไปจากที่เกิดเหตุ ประสบเหตุขี่รถจักรยานยนต์ล้มบริเวณริมถนนบ้านเหล่าเรือ ตำบลขอนแก่น อำเภอเมือง จ.ร้อยเอ็ด ห่างจากตัวเมืองร้อยเอ็ดประมาณ 4 กิโลเมตร

 

 

         จึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย พบว่ากู้ชีพตำบลขอนแก่น กำลังทำแผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บ จากถูกฟันที่หน้าอก ทราบชื่อภายหลัง คือ นายชนะชัย เจริญวัย อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 53 หมู่ 6 บ้านเหล่ากาชาด ตำบลเมืองเปลือย อำเภอศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด ล้มในที่เกิดเหตุ ข้างรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ อาร์ 125 ซีซี  สีเขียว ทะเบียน ขงษ.715 ร้อยเอ็ด ของตนเอง โดยหลังจากการได้ทำแผลเบื้องต้นแล้วได้นำตัวคนไข้ที่เลือดไหลไม่หยุดจนช๊อคหมดสติ ในเวลาต่อมา ส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ด เพื่อรักษาอาการและทำแผลต่อไป

 

 

          จากนั้นเจ้าหน้าที่ตร.ได้ไปตรวจสอบยังบริษัทเบทาโกร เพื่อติดตามตัวมือมีดมาสอบปากคำ แต่ไม่พบผู้ก่อเหตุ โดยทางเจ้าหน้าที่บริษัทเบทาโกร กล่าวว่า ไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นมือมีด ไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร เพราะรถมีหลาย และตรวจสอบแล้ว ยังไม่มีรถคันไหนกลับจากการส่งสินค้า จึงไม่สามารถให้รายละเอียดได้ ทั้งนี้ ตำรวจจะมีการติดตามสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.