โครงการก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา รวมระยะทาง 195.800 กิโลเมตร มูลค่า 84,600 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จเปิดให้บริการปลายปี 64
นครราชสีมา - โครงการก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา รวมระยะทางทั้งสิ้น 195.800 กิโลเมตร มูลค่า 84,600 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 77,970 ล้านบาทและค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 6,630 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จเปิดให้บริการปลายปี 64
ที่พื้นที่ก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 ถนนมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 135 บริเวณทางต่างระดับ เลียบอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา วันที่ 4 ธ.ค. 61 นายพรชัย ศิลารมย์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 สำนักงานทางหลวงที่ 10 นครราชสีมา (สนง.ทล.10 นม.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการถนนมอเตอร์เวย์ ช่วงที่ 21-40 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 83+547-188+800 พื้นที่รับผิดชอบ สนง.ทล.10 นม.นครราชสีมา ภาพรวมด้านโยธามีความก้าวหน้า 64 % เกินมูลค่างานตามแผนกำหนดไว้และในปี 2563 เตรียมก่อสร้างด่านเก็บค่าผ่านทางและศูนย์บริการทางหลวง 9 จุด คาดจะสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณปลายปี 2564 ส่วนอัตราค่าใช้บริการ ยานพาหนะขนาดเล็กประเภทรถยนต์ส่วนบุคคลราคาเริ่มต้น 10 บาท รวมค่าใช้จ่ายตามระยะทาง กิโลเมตร 1.25 บาท หากเดินทางจากบางประอินถึงโคราชเสียค่าใช้จ่าย 235 บาท
ผอ.แขวงทางหลวงนครรราชสีมาที่ 2 กล่าวถึงปัญหาการก่อสร้าง โดยข้อพิพาทกรณีเวนคืนที่ดิน กรมทางหลวงได้เจรจาไกล่เกลี่ยจนสามารถระงับข้อพิพาทได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเหลือที่ดินราชพัสดุและ ส.ป.ก. 4-01 อยู่ขั้นตอนการพิจารณาคดีในชั้นศาล ส่งผลให้การก่อสร้างช่วงผ่านพื้นที่ 9 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง และบ้านใหม่สำโรง หมู่ 3 ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว นครราชสีมา ต้องหยุดชะงักชั่วคราว อย่างไรก็ตาม เพื่อให้โครงการฯ สามารถดำเนินการได้ต่อเนื่อง จึงนัดไกล่เกลี่ยอีกครั้งคาดจะได้ข้อยุติในเร็วๆนี้
สำหรับมาตรการป้องกันและความมั่นคงช่วงถนนมอเตอร์ผ่านเรือนจำกลางคลองไผ่ ซึ่งมีระยะใกล้ที่สุด 120 เมตร ได้รติดตั้งหลังคาป้องกันครอบถนนความยาว 700 เมตร ดังนั้นผู้ใช้เส้นทางจะไม่สามารถมองไม่เห็นภายในเรือนจำ ฯ ได้อย่างแน่นอน ส่วนการก่อสร้างบริเวณผ่านอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ซึ่งเป็นทางต่างระดับความยาวประมาณ 20 กิโลเมตร ค่อนข้างมีปัญหาทั้งการจราจรคับคั่งและเส้นทางเป็นเนินสูงและทางโค้ง ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง กรมทางหลวงได้วางแนวทางป้องกันการเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างเข้มงวด ทำให้การใช้ทางผ่านบริเวณดังกล่าวต้องชะลอความเร็ว ผู้ใช้รถใช้ถนนควรปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด แต่ช่วงนี้เมื่อขับรถผ่านซึ่งอยู่สูงกว่าตัวอ่างฯ ค่อนข้างมาก จึงมองเห็นผิวน้ำที่เป็นทะเลน้ำจืดและช่วงเย็นขณะดวงอาทิตย์ลับขอบน้ำจึงเป็นเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามมาก
นายพรชัย กล่าวอีกว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2558 อนุมัติให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงดำเนินโครงการฯ รวมระยะทางทั้งสิ้น 195.800 กิโลเมตร มูลค่า 84,600 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 77,970 ล้านบาทและค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 6,630 ล้านบาท เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นเส้นทางสร้างความเจริญ ประตูเข้าสู่เศรษฐกิจเชื่อมโยงสู่มวลสมาชิกอาเซียน เช่น ประเทศลาว กัมพูชา จีนและเวียดนาม รวมทั้งบรรเทาปัญหาการจราจรภาคอีสานให้คสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง นอกจากนี้ยังเป็นยกระดับคุณภาพของประชาชนสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในระยะยาว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง