ให้กำลังใจผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ทวงคืนป่าแหว่ง

 

          วันที่ 3 ธันวาคม ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ นำโดยนายธีระศักดิ์รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้รวมตัวกันมอบช่อดอกไม้ เพื่อเป็นกำลังใจให้นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ที่จะเป็นตัวแทนของจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมประชุมนัดสำคัญกับรัฐบาลถึงแนวทางการหาทางออกให้กับปัญหาการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ ที่รุกล้ำพื้นที่ป่าดอยสุเทพ โดยมีนายมนัส ขันใส รองผู้ว่าฯเชียงใหม่ เป็นตัวแทนรับช่อดอกไม้

 

          นอกจากนี้ทางเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้อ่านแถลงการณ์โดยระบุว่า ตัวแทนเครือข่ายฯ และประชาชนชาวเชียงใหม่มารวมตัวที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ ก็เพื่อมอบดอกไม้เป็นกำลังใจให้กับผู้ว่าฯเชียงใหม่ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่กำลังจะประชุมกันที่กรุงเทพฯ เพื่อพิจารณาตัดสินใจปัญหา “ป่าแหว่ง” ในขั้นตอนสุดท้าย 

 

 

          ทั้งนี้ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าฯ เคยมีมติร่วมกับตัวแทนเครือข่ายประชาชนในการประชุมคณะกรรมการระดับจังหวัดเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาให้รื้อย้ายอาคารสิ่งปลูกสร้างซึ่งก่อให้เกิดปัญหาผลกระทบทั้งทางสิ่งแวดล้อมและทางสังคมวัฒนธรรมออกไป เพื่อให้สามารถฟื้นฟูป่ากลับคืนมาแก่ดอยสุเทพ พวกเราประชาชนชาวเมืองจึงมาเพื่อจะย้ำเตือนนำเสนอข้อกังวล และเป็นกำลังใจให้ท่านได้ดำเนินการในสิ่งที่จะยังประโยชน์ต่อประเทศชาติและลูกหลานชาวเชียงใหม่ในอนาคตด้วยความยั่งยืนต่อไป

 

          สิ่งที่เครือข่ายฯ ยังเป็นกังวลและได้นำเรียนต่อผู้ว่าฯ คือ ปัญหานี้เป็นเรื่องของขนบวัฒนธรรมและความรู้สึกของประชาชนโดยเฉพาะประชาชนในท้องถิ่นภาคเหนือที่เคารพนับถือดอยสุเทพในฐานะดอยศักดิ์สิทธิ์และเป็น “ศรี” ของเมือง รวมถึงความรู้สึกต่ออำนาจกฎหมายและราชการที่ถือระเบียบของตนเองเป็นสำคัญจนอาจมองข้าม ไม่เห็นประเด็นละเอียดอ่อนดังกล่าว การตัดสินใจใดๆ ที่ทำให้เรื่องนี้ยังค้างคาต่อไป อาจจะขยายเป็นปัญหาที่ไม่อาจประเมินได้ในอนาคต

 

 

          นับจากนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับปากกับกับประชาชนเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 61 ณ หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาจังหวัดเชียงใหม่ ว่าจะไม่ให้มีผู้พักอาศัยในอาคารชุด 9 หลังและบ้านพัก 45 หลังทั้งให้รังวัดพื้นที่เพื่อจะส่งคืนให้กับสำนักงานธนารักษ์และให้มีการฟื้นฟูพื้นที่โดยเร่งด่วน ขนาดที่นายกฯ ได้ออกรายการโทรทัศน์และแถลงข่าวตามมาเพื่อให้ความมั่นใจ แต่ถึงขนาดนั้นคำมั่นสัญญาเมื่อกว่า 6 เดือนที่แล้วก็ยังไม่เคยปรากฏว่าเป็นจริง

 

          รัฐบาลตั้งคณะกรรมการระดับชาติที่มีรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อพิจารณาว่าจะจัดการโครงการดังกล่าวเช่นไร ทั้งมีคณะอนุกรรมการระดับพื้นที่ถึงขนาดมีมติออกมาชัดเจน แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ การที่ราชการดำเนินเรื่องไปแบบไม่เร่งรัด บางประเด็นที่ประชาชนสงสัยกลับไม่มีคำชี้แจงใดๆ แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยเช่นระยะเวลาที่ชัดเจนของการส่งมอบและรับมอบงานจากผู้รับเหมาซึ่งเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิม ล้วนแต่เป็นการบั่นทอนขวัญกำลังใจประชาชนที่เรียกร้องโดยสุจริตให้รัฐเข้ามาแก้ปัญหา ความล่าช้าไร้การตอบสนองและไม่มีการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา  

 

          ที่จริงแล้วปัญหาป่าแหว่งควรจะมีความชัดเจนและยุติได้ตั้งแต่เดือน ก.ย. หรือ ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้รับเหมาส่งมอบงาน แต่ก็ยังไม่สามารถมีมติเพื่อยุติปัญหาได้จริง ความยืดเยื้อดังกล่าวกดดันซ้ำเติมประชาชนที่รอคอยความชัดเจนการปฏิบัติจริงจากคำรับปากนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

 

          ล่าสุด มีการแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิดกับแกนนำและอาสาสมัครเครือข่ายฯ รวม 4 เรื่อง ดังนี้ 1.กรณีผู้พิพากษา มอบอำนาจให้ผอ.สำนักงานศาลจังหวัดเชียงใหม่​ แจ้งความเอาผิด นายเรืองยศ สินธิโพธิ์ ที่สภ.เมือง เชียงใหม่ 2.หมายเรียก นายธีระศักด์ รูปสุวรรณ จากสน.พหลโยธิน แจ้งดำเนินคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาจากสำนักงานศาลยุติธรรม 3.หมายเรียกที่สองนายธีระศักด์ รูปสุวรรณ จากสน.พหลโยธิน แจ้งดำเนินคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาจากสำนักงานศาลยุติธรรม และ 4.หมายเรียกนายเรืองยศ สินธิโพธิ์ จากสน.พหลโยธิน แจ้งดำเนินคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

 

          คดีความดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากการเรียกร้องที่ยาวนานแต่ไร้คำตอบและการเร่งรัดดำเนินการจากภาครัฐ ซึ่งผลจากการนี้ก่อให้เกิดปัญหาความยากลำบากต่อประชาชนที่ออกมาเรียกร้องโดยสุจริตเพื่อประโยชน์ของชุมชนและสาธารณะ 

 

          ทางเครือข่ายฯ ขอเป็นกำลังใจและฝากความหวังให้ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ที่จะเข้าไปร่วมประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหา ได้ทำหน้าที่บอกกล่าวปัญหาและความรู้สึกของพวกเราต่อคณะกรรมการท่านอื่นๆ และร้องขอให้ท่านและคณะได้โปรดเร่งรัดมีมติออกมาให้เป็นที่สิ้นสุด ไม่มีการเลื่อนขยายเวลาต่อไปอีกเพื่อให้ปัญหานี้ได้ข้อยุติตามความต้องการของประชาชนที่ได้ร่วมแสดงออกอย่างต่อเนื่องดังที่ทราบกันอยู่

 

          ด้านนายธีระศักด์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวถึงกรณีที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีว่า จะไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.พหลโยธิน ตามที่สำนักงานศาลที่กรุงเทพแจ้งความไว้ ในวันที่ 12 ธ.ค. เวลา 14.00 น. ว่าเราโดนฟ้องเรื่องอะไร

          

          “เราเป็นชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ ความยุ่งยากที่จะต้องลงไปรับทราบข้อกล่าวหาที่กรุงเทพฯ มันจะต้องยืดเยื้อยาวนาน และยิ่งเกี่ยวข้องกับสำนักงานศาล และป่าแหว่ง ทุกคนก็กังวลใจ เราไม่มีความรู้ที่จะไปสู้พวกท่าน แต่เราก็มีทนายความที่พอจะช่วยพวกเราได้ เชื่อว่าสิ่งที่ทำ เราทำเพื่อนส่วนรวม เพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อดอยสุเทพ สิ่งเหล่านี้จะปกป้องพวกเรา” นายธีรศักดิ์ กล่าว.