ทหารจับมือกับจิตอาสาพัฒนาวัดถ้ำสมบัติสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม

วันที่ 25 พ.ย.61 ที่บริเวณถ้ำสมบัติ ต.บุ้งน้ำเต้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พันโทภูเบส มาแก้ว ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 28 กองพลทหารม้าที่ 1 เป็นประธานนำกำลังพล พร้อมสมาชิกจิตอาสาและประชาชน ร่วมกันบำเพ็ญประโยชน์ ด้วยการทำความสะอาดบริเวณวัด เก็บกวาดใบไม้ เก็บขยะ ทำความสะอาดห้องน้ำ ห้องสุขา การปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณรอบวัด ตลอดจนการตัดต้นไม้ เส้นทางเข้าวัด ความยาวกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งตลอดสองข้างทาง รกไปด้วยหญ้าและต้นไม้ ทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย ตามโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความรัก ความสามัคคี สร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม ให้มีจิตสาธารณะในการทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ร่วมกันด้วย

พันโทภูเบส มาแก้ว กล่าวว่า สมัยสงครามโลกครั้งที่2 ขณะนั้น กรุงเทพฯถูกโจมตีอย่างหนัก จอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย จึงได้มีดำริย้ายเมืองหลวงมาที่เพชรบูรณ์ โดยได้ย้ายกระทรวง ทบวง กรมต่างๆมายังจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยคลังเก็บสมบัติ กระทรวงการคลัง ก็คือ วัดถ้ำสมบัติ ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไป จอมพล ป. พิบูลสงคราม นำเรื่องเข้าที่ประชุมสภา เสนอเรื่องย้ายเมืองหลวงมาตั้งที่ จ.เพชรบูรณ์ และเสนอให้ทราบว่าได้สร้างกระทรวงต่างๆ ไว้แล้ว ปรากฏว่า มติไม่ผ่านในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงต้องขนสมบัติกลับกรุงเทพฯ ตามเดิม จากนั้นชาวบ้านจึงเรียกถ้ำแห่งนี้ว่า ถ้ำสมบัติ ปัจจุบันถ้ำสมบัติ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่ง ที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยว ในแต่ละวันมีผู้คนไปเที่ยวชมอย่างไม่ขาดสาย