'หลานทรพี'เตะยายตาย

 

 

          แม่ฮ่องสอน - หลานทรพี ขู่ขอเงินยายตัวเอง 5,000 บาทเพื่อไปหาแฟนที่เชียงใหม่ ยายมีเงินแค่ 1,000 บาท เตะยายจนต้องเข้าโรงพยาบาล ล่าสุดเสียชีวิต ตำรวจเร่งตามตัวมาดำเนินคดี 

 

 

          15 ต.ค.2561 พ.ต.อ.สันติ สุภา ผกก.สภ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2561 เวลาประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลขุนยวม ว่า  มีผู้เข้ารับการรักษาได้เสียชีวิตซึ่งเป็นการเสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการแจ้งเหตุ จึงให้ชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.ชาญวิทย์ ธรรมรัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.ขุนยวม ร.ต.อ.ศรีวิชัย แสงอ่อน รอง.สว.สส. พร้อมกำลังชุดสืบสวน เดินทางไปยังโรงพยาบาลขุนยวม พบว่าผู้เสียชีวิต ชื่อนางหน่อวาชิ ถาวรภัทรอาภรณ์ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 663 หมู่ 1 ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลขุนยวม เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2561 เวลาประมาณ 10.00 น  ซึ่งเป็นการเสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ และหลังจากนั้นได้เดินทางไปตรวจเหตุยังบ้านผู้เสียชีวิต

 

 

 

          เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ นายศรชัย ประภาประเสริฐกิจ เพื่อนบ้านเล่าว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2561 นางหน่อวาชิ ผู้ตายได้ให้ตนพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลขุนยวม โดยไม่ได้แจ้งกับหมอว่าถูกทำร้ายมา ทางโรงพยาบาลได้ให้ยาและกลับไปรักษาตัวที่บ้าน จากนั้น อีก 2 วัน เมื่อวันที่ 12 ต.ค2561 .นางหน่อวาชิ  ได้กลับเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลขุนยวมอีกครั้งหนึ่ง 

 

 

 

          ต่อมาวันที่ 13 ต.ค.2561 เวลาประมาณ 10.00 น. นางหน่อวาชิ ได้เสียชีวิตลง ที่โรงพยาบาลขุนยวม  ซึ่งแพทย์ของโรงพยาบาลขุนยวมยังไม่ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด  พนักงานสอบสวนและญาติยังสงสัยในสาเหตุของการเสียชีวิตของนางหน่อวาชิ  ทางพนักงานสอบสวน จึงได้ทำการส่งร่างของนางหน่อวาชิ ไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่  ซึ่งขณะนี้กำลังรอผลตรวจพิสูจน์ถึงสาเหตุการตายในครั้งนี้

 

 

 

          ด้านนายจั๋นตา ถาวรภัทรอาภรณ์ สามีผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2561 เวลาประมาณ 10.00 น. นายราเชนทร์ วงค์เมฆ ซึ่งเป็นหลานชาย ได้มาขอเงินจำนวน 5,000 บาท จากนางหน่อวาชิ  โดยอ้างว่าจะนำเงินเป็นค่าเดินทางไปหาแฟนที่ จ.เชียงใหม่ แต่นางหน่อวาชิ มีเงินให้นายราเชนทร์ เพียง 1,000 บาท จึงทำให้นายราเชนทร์ไม่พอใจจึงได้ใช้เท้าเตะทำร้ายร่างกายนางหน่อวาชิ บริเวณชายโครงด้านขวาจนทำให้นางหน่อวาชิ กลิ้งตกจากบ้านสูงประมาณ 1.4 เมตร และข่มขู่จะฆ่านางหน่อวาชิ หากไม่นำเงินมาให้ตน  นางหน่อวาชิ  จึงได้ให้นายราเชนทร์ โทรศัพท์ไปยืมเงินจำนวน 4,000 บาท จากนางศศิพันธ์ ใฝ่การงานกุศล ซึ่งเป็นคนรู้จักกันในหมู่บ้าน โดยนางหน่อวาชิ จะเป็นผู้รับรองว่าตนจะเป็นผู้ชดใช้เงินคืนให้แก่นางศศิพันธ์

 

 

          จากการสอบสวนเบื้องต้น  ด้านนางศศิพันธ์ ใฝ่การงานกุศล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2561  นายราเชนทร์ วงค์เมฆ ได้โทรศัพท์มายืมเงินของตนจริง โดยบอกกับตนว่าหากไม่ให้ยืมจะทำร้ายร่างกาย นางหน่อวาชิ ตนจึงเกรงว่านางหน่อวาชิ จะถูกทำร้าย จึงได้นำเงินมาให้แก่นางหน่อวาชิ ที่บ้าน จำนวน 4,000 บาท โดยนางหน่อวาชิ รับรองว่าจะเป็นผู้นำเงินมาใช้คืนให้กับตนเอง 

          ล่าสุดจากการสืบสวนของ พนักงานสอบสวน สภ.ขุนยวม ทราบว่านายราเชนทร์ ได้เดินทางไปอยู่ในพื้นที่ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2561 จริง  โดยคาดว่าน่าจะไปอาศัยอยู่กับแฟนตามที่ได้อ้างไว้  ทางพนักงานสอบสวนจะได้ติดตามตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป

 

 

          พ.ต.ท.ชาญวิทย์ ธรรมรัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.ขุนยวม เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์ แก่ นายราเชนทร์  ส่วนข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา กำลังรอผลพิสูจน์จากโรงพยาบาลเชียงใหม่ คาดว่าจะออกมาในเร็วๆ นี้  โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ได้ประสานไปยัง สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ให้ติดตามหาเบาะแสของนายราเชนทร์  ล่าสุดพบร่องรอยการใช้โทรศัพท์อยู่ในพื้นที่ของ สภ.ไชยปราการ โดย ชุดสืบสวน สภ.ไชยปราการ ที่ตามประกบนายราเชนทร์ พบว่า บุคคลดังกล่าว ได้อาศัยอยู่กับแฟนสาว และได้ทำการตัดผมใหม่เพื่ออำพรางตัวเอง คาดว่าในอีกไม่เกิน 2 วันนี้จะสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน สำหรับผู้ต้องหาคนดังกล่าว ประวัติเคยเสพยาบ้าและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนยวม จับกุมดำเนินคดีมาแล้วครั้งหนึ่ง